ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี 2559 เชื่อว่าหลายคนคง "พระหนูที สุตธัมโม" หรือ "หลวงตาหนูที" จากสำนักสงฆ์หินทราย ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา ได้ที่เคยก่อเหตุทรมานสัตว์ใช้สุนัขลากรถเข็นเพื่อให้คนสงสารและมาทำบุญ โดยในครั้งนั้นพระหนูที ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์
แต่พระหนูที ผู้นี้ก็ยังไม่เกรงกลัวต่อบาปและยังคงทำลักษณะนี้มาต่อเนื่องอีกหลายครั้ง โดยไม่สนใจคำพูดของผู้พบเห็น แม้ที่ผ่านมาประชาชนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับพระหนูทีในข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ ก็ตาม
โดยเหตุการณ์ครั้งแรกที่พระหนูที ทำเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 หลังแฟนเพจ "WATCHDOG THAILAND" ในขณะนั้นได้มีการโพสต์ภาพในอัลบั้ม "บันทึกข้อตกลง สภ.พล ปิดตำนาน หนูทีกับหมาลากรถ" โดยระบุว่า WDT ร่วมกับปศุสัตว อ.พล และ สภ.พล จัดทำบันทึกข้อตกลงอย่างเป็นทางการให้พระหนูทีรับว่า จากนี้เป็นต้นไปจะไม่นำหมาแมวและสัตว์ทุกชนิด มาเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์เพื่อตนเองอีกต่อไป พร้อมส่งมอบ เจ้าน้อย สุนัขตัวสุดท้ายที่ถูกนำมาใช้ลากรถให้อยู่ในความดูแลของ WDT
หลังจากนั้นเรื่องราวของพระหนูทีก็ค่อยๆ เลือนหายไปได้ระยะหนึ่ง กระทั่งวันที่ 11 กุมภาพันธุ์ 2561 ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ที่ถนนสายนครสวรรค์ เทศบาลเมืองมหาสารคาม พบพระรูปหนึ่งออกบิณฑบาตในช่วงเช้า พร้อมกับสุนัขและแพะ โดยที่หลังแพะจะมีคันเหล็กที่ดัดแปลงไปยึดติดกับรถเข็นสำหรับให้พระได้ใส่อาหาร สิ่งของและปัจจัยที่ได้จากญาติโยม
อีกทั้งยังมีสุนัขคอยเดินวนเวียนไปมาและเดินไปตามถนนที่พระรูปนี้ออกบิณฑบาต โดยเมื่อมีญาติโยมใส่บาตร แพะที่ลากรถเข็นก็จะไปหยุดใกล้กับพระ โดยที่คอของแพะจะมีปลอกคอสำหรับลากจูงเพื่อใช้เปลี่ยนเส้นทางตามที่พระต้องการ จึงทำให้เป็นที่สนใจของผู้พบเห็นและทึ่งในความแสนรู้ของสัตว์ทั้งสองและไม่เคยพบเห็นมาก่อนในพื้นที่ จ.มหาสารคาม
พร้อมกับระบุว่า พระรูปดังกล่าวคือพระหนูที สุตตธัมโม ที่เคยมีกรณีใช้สุนัขคือ "เจ้าสมหวัง" สุนัขพันธุ์โกลเด้น ออกบิณฑบาตเพื่อเรียกความสงสารและทำให้ชาวบ้านสนใจที่จะทำบุญให้จนทำให้เจ้าสมหวังป่วยและเสียชีวิตเมื่อ 3 ปีก่อนทำให้พระรูปนี้ถูกสังคมโซเชียลโจมตีหนักเพราะถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์ และเคยถูกแจ้งจับจากชาวบ้านที่พบเห็นอีกด้วย
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ Apinan Khammee ในช่วงนั้นระบุว่าพระรูปนี้คอยเดินบิณฑบาตไปหลายๆ จังหวัด โดยไม่ได้จำวัดที่วัดใดวัดหนึ่งและไม่มีรถตู้คอยรับส่ง ซึ่งในอดีตเคยรับปากกับตำรวจว่าจะไม่นำสัตว์มาใช้ลากรถเข็นเช่นนี้อีก แต่ปัจจุบันพบว่าเปลี่ยนจากสุนัขลากเข็นมาเป็นแพะแทน
กระทั่งวันที่ 23 มีนาคม 2561 ชื่อของพระหนูที ก็กลับมาเป็นประเด็นโด่งดังอีกครั้ง เมื่อเพจบิ๊กเกรียนได้โพสต์ภาพและข้อความที่ส่งมาจากสมาชิกเพจ ระบุว่า พบพระหนูทีออกบิณฑบาต พร้อมแพะลากเข็นและสุนัขอีกครั้ง เดินเรี่ยไรประชาชนอยู่ที่บริเวณหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี ทั้งที่ยังมีคดีเก่าติดตัว
เมื่อตรวจสอบไปที่เฟซบุ๊กกานดา มณี ผู้ที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าวพบว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561 นอกจากนี้ เจ้าของเฟซบุ๊กได้ให้ข้อมูลไว้ด้วยว่า ขณะนี้จับตัวพระหนูทีได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่อาสาฯได้ทำการยึดแพะยึดหมา และนำตัวส่งสัตวแพทย์เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ทาง WATCHDOG THAILAND กำลังดำเนินการต่อไป จากนั้นชื่อของพระหนูที ก็เงียบไปอีกรอบ
เรื่องเงียบได้ไม่นานชื่อของพระหนูที ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวได้พบหลวงตารูปหนึ่งเดินออกธุดง พร้อมกับวัวคู่ใจ 1 ตัว ที่บริเวณหลังสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยมีผู้ใจบุญได้นิมนต์พร้อมทั้งถวายสิ่งของให้กับพระรูปดังกล่าว
จากการสอบถามทราบว่าชื่อพระหนูที สุตตธัมโม พระลูกวัดจันทราทิพย์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ได้พาวัวออกมาร่วมธุดงค์ด้วย เนื่องจากญาติโยมไถ่ชีวิตและมามอบไว้ให้ เมื่อออกจากสำนักสงฆ์ ใน จ.นครราชสีมาเพื่อธุดงค์ ไม่มีใครเลี้ยงดู จึงได้พามาร่วมธุดงค์ด้วย โดยจะเดินทางไปเรื่อยๆ ตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับวัวตัวดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 9 มกราคม 2563 พระหนูที สุตตธัมโม ถูกจับอีกครั้งและถูกจับสึกในทันที หลังจาก น.สพ.วรเศรษฐ์ คูวิจิตรสุวรรณ สัตวแพทย์ชำนาญการด่านกักกันสัตว์สระแก้ว ได้รับเรื่องร้องจากพลเมืองดีว่ามีพระนำวัวออกเรี่ยไรในพื้นอรัญประเทศ พอได้รับแจ้งพร้อมด้วยนายสมศักดิ์ โชติสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภออรัญประเทศร่วมกันจัดกำลังออกตรวจสอบบริเวณสวนกาญจนา อ.อรัญประเทศ จึงได้พบรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า สีเหลือ ทะเบียน ฒว-9319 กรุงเทพฯ ตรงกับพลเมืองดีแจ้งมาและพบพระหนูที สุตธัมโม อายุ 72 ปี สำนักสงฆ์หินทราย ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา ชื่อนายหนูที ทินราช อยู่บ้านเลขที่ 126/61 หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยวัวเพศผู้อายุประมาณ 2 ปี สีดำแดง จึงได้ควบคุมตัวพระนำส่ง พ.ต.ท.จรูญ ชุมชื่น สารวัตร(สอบสวน) สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากนั้นได้รายงาน พ.ต.อ.อาวัฒน์ พิบูลย์สวัสดิ์ ผกก.สภ.อรัญประเทศ ทราบจากนั้นได้นิมนต์พระสมุห์จตุรงค์ ทีปะธัมโม พระวินยาการจังหวัดสระแก้ว จึงได้ควบคุมตัวพระหนูที วัดป่าอรัญวาสี ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ พระครูสมุห์ อำนาจ เจ้าคณะตำบลสายธรรมยุตินิกาย สอบสวนความแล้วทำการศึกและส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ดำเนินคดีตามกฎหมายปศุสัตว์
น.สพ.วรเศรษฐ์ คูวิจิตรสุวรรณ สัตวแพทย์ชำนาญการด่านกักกันสัตว์สระแก้ว กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนของพลเมืองดี จึงได้กำลังเจ้าหน้าออกติดตามจนพบตัวพระที่ได้กระทำความผิด พร้อมวัวเพศผู้ชื่อแรมโบ นำมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาว่า 1 เคลื่อนย้ายไปยังท้องที่จังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ประจำท้องที่ต้นทาง 2.ทำการเคลื่อนย้ายสัตว์เข้าในหรือผ่านเขตที่ได้ประกาศเป็นควบคุมโรคระบาด เขตปลอดโรคระบาด โดยไม่ได้รับอนุญาต 3.กระทำการอันเป็นทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร จากนั้นส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
นับจากวันนี้ไปคงต้องจับตาดูกันต่อไปอีกว่าอดีตพระหนูที สุตธัมโม หรือ อดีตหลวงตาหนูที ผู้นี้จะก่อกรรมทำชั่วต่ออีกหรือไม่ สังคมไทยจะต้องช่วยกันจับตาดู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี