“ขอเป็นไทยในชาตินี้” กลุ่มแม่เฒ่าชาติพันธุ์อาข่า บ้านกิ่วสะไต ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้ลงรายการสัญชาติไทย และถ่ายบัตรประชาชนใบแรก ในวัย 67-98 ปี จำนวน 15 ราย ได้เป็นไทยอย่างสมบูรณ์ 100% แต่ใครจะรู้ว่าก่อนที่จะได้บัตรประชาชนแม่เฒ่าเหล่านี้ต้องพบเจอกับอะไรบ้าง?
แม่เฒ่ากลุ่มชาติพันธุ์อาข่าตกหล่นในการจัดทำบัตรประชาชน และยืนยันสิทธิที่ควรจะได้รับต่างๆ ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคผู้สูงอายุมากกว่าเด็กตั้งแต่ ปี 2564 คือ มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด และใน ปี 2574 ประเทศไทยจะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป สูงถึงร้อยละ 28
“ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้ลงพื้นที่ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) จากการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำโดย นางเตือนใจ ดีเทศน์ (ครูแดง) ผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และที่ทำงานด้านสิทธิบุคคล นางเพียรพร ดีเทศน์ เลขาธิการ พชภ. พบว่าในปี 2528 ปัญหาผู้สูงอายุที่ตกหล่นจากทะเบียนราษฎรของรัฐไทย จึงไม่สามารถที่จะทำบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นคนไทย แม่เฒ่าชาติพันธุ์อาข่า หลายคนจึงกลายเป็นผู้เฒ่าไร้สัญชาติ
โดย นางเตือนใจ กล่าวว่า เราพบว่าแม่เฒ่ากลุ่มนี้ไม่ได้ทำบัตรประชาชน ตกหล่นจากการสำรวจทั้งที่เป็นประชาชนคนไทย จึงยื่นเอกสารการลงรายการสัญชาติไทย ตามระเบียบสำนักทะเบียนกลาง ว่าด้วยการพิจารณารายการสถานะบุคคลในทะเบียนราษฎรให้แก่บุคคลบนพื้นที่สูง พ.ศ. 2543 หรือ ระเบียบ 43 คือ “ผู้ที่เกิดในประเทศไทยระหว่าง วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2456 ถึง วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2515 ให้สันนิษฐานว่ามีสัญชาติไทย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้เป็นอย่างอื่น
“พชภ.จึงได้ผลักดันจนแม่เฒ่ากลุ่มนี้ 15 ราย ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพิ่งจะได้ทำบัตรประชาชน เมื่อปี 2562 ซึ่งการดำเนินการใช้ระยะเวลากว่า 7 เดือน เมื่อแม่เฒ่าได้บัตรประชาชนก็ได้สวัสดิการต่างๆ ที่ควรจะได้ เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ เป็นต้น ส่วนลูกหลานนั้นได้ทำบัตรประชาชนกันหมดแล้ว” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) กล่าว
ขณะที่ นางหมี่จร เบกากู่ แม่เฒ่าอายุมากที่สุดที่ได้ทำบัตรประชาชนด้วยวัย 89 ปี บ้านเลขที่ 164 หมู่ที่ 19 ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า การได้บัตรประชาชนเหมือนกับเป็นการเปลี่ยนชีวิต ซึ่งอยากใช้ชีวิตมากขึ้น มีความสุขกับทุกๆ วัน ทำให้ได้มีที่ยืนในสังคม ได้สัมผัสได้จับต้อง ได้บัตรมาก็ตอนแก่แล้วทำอะไรได้ไม่มาก เพราะได้บัตรประชาชนเมื่อปี 2562 ตอนอายุ 88 ปี แต่ดีใจมากๆ ที่ได้ทำบัตรประชาชนใบแรกในชีวิต
แม่เฒ่าหมี่จร พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ว่า “ตอนที่ยังไม่ได้ทำบัตรประชาชน ตนรู้สึกว่าทำไมถึงทำไม่ได้ จึงเกิดความรู้สึกน้อย อยากให้ทุกคนที่อยู่ประเทศไทยได้สัญชาติ และได้บัตรประชาชน เพราะตอนที่ตนไม่ได้บัตรประชาชนตนรู้สึกได้ว่ามันเป็นอย่างไร”
ส่วน แม่เฒ่าโชชุน เบกากู่ อายุ 66 ปี ชาวบ้านเลขที่ 798 หมู่ที่ 19 ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตอนที่ยังไม่ได้บัตรประชาชนเห็นว่าตัวเองน่าสงสาร เหมือนเป็นชนกลุ่มน้อยที่ถูกละเลยทำอะไรไม่ได้เต็มที่ รู้สึกเศร้าใจมากๆ แต่หลังจากที่ได้บัตรประชาชนมานั้นตนมีความสุขมาก กินข้าวอิ่ม นอนหลับ ชีวิตสดใส
“ถ้าหากตายไปก็รู้สึกภาคภูมิใจว่าอย่างน้อยๆ เกิดมาได้เป็นคนไทยเต็ม100% แล้ว แต่ตอนที่ยังไม่ได้นั้นคิดว่าชีวิตไม่มีค่า และจะต้องตายแบบสูญเปล่า หลังจากที่ได้บัตรประชาชนก็ได้ไปทำหนังสือเดินทาง เพื่อที่จะไปตามหาญาติที่อยู่ประเทศจีน แต่ก็ไม่ได้เจอ แต่อย่างน้อยๆ ก็ได้ไปตามหาดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ดีใจมากๆ ที่ได้บัตรประชาชน” แม่เฒ่าโชชุน กล่าวทิ้งทาย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสมควรถูกลืมและหายไปจากสังคม เพราะทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน และที่สำคัญอย่าปล่อยให้ผู้สูงอายุต้องอยู่แบบเดียวดาย โดยไม่ใส่ใจเพียงแค่พวกเขาเหล่านี้มีความแตกต่างเรื่องเชื้อชาติ อย่าปล่อยให้ผู้สูงอายุ “รอ” จนไม่มีโอกาสได้สิทธิที่จะใช้ชีวิตแบบคนอื่นๆ
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ : ‘ผู้เฒ่าไร้สัญชาติ’ กว่าจะได้เป็น ‘ไทย’ ต้องรอจนตายหรือไม่? (ชมคลิป)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี