วันที่ 25 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์ศรีสก๊วนมงคลธรรม บ้านสก๊วน หมู่ 5 ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้พบกับสุนัขที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว ซึ่งที่เห็นก็คือสุนัขเกือบทุกตัว "ห้อยตะกรุด" และ "ลูกเบี้ยแก้" เป็นเครื่องรางของขลังจนเป็นที่น่าแปลกตาแปลกใจของผู้ที่พบเห็น ซึ่งน้องหมา ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวมีประมาณ 10 ตัว และที่ห้อยตะกรุดและลูกเบี้ยแก้ที่คอมีประมาณ 6-7 ตัว
พระอาจารย์สุรพงษ์ สิริภัทโธ เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ศรีสก๊วนมงคลธรรม เล่าถึงที่มาที่ไปของตะกรุดคอสุนัขให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนนั้นเคยมีสุนัขหรือหมาวัดเดินตามพระสงฆ์ที่ออกเดินบิณฑบาตรและได้ถูกรถชนแต่ไม่ตาย สุนัขก็รอดกลับมาถึงวัดได้
"พระอาจารย์ก็มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย สุนัขเขาก็มาอาศัยเรา เราก็ช่วยเหลือเขา หมาก็มีหัวใจมีความรู้สึกรักเราเหมือนกัน เหมือนคนเรานั้นแหล่ะ เราก็มีความเมตตาต่อสัตว์โลกมนุษย์โลก ด้วยความมีเมตตาและความสงสาร คือเขามาอาศัยอยู่กับเรา เราก็ต้องเมตตาต่อเขา ในเมื่อมนุษย์และสัตว์เกิดมาแล้วก็ต้องอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน ด้วยความเมตตาปราณี เมตตาธรรมค้ำจุนโลก จุนเจือซึ่งกันและกัน มนุษย์โลกและสัตว์โลกก็จะอยู่ด้วยความเป็นสุขฉะนั้นแล และที่ทำตะกรุดให้น้องหมาห้อยที่คอ เป็นตะกรุดห้อยคอหมาโดยเฉพาะ ไม่ไช่ตะกรุดใส่สำหรับคน เพื่อไม่ให้หมาวัดไปดื้อ ดุ ไม่ไปทำร้ายคน เป็นหมาวัดก็เป็นหมาวัดที่ดี ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น และคนพบเห็นก็เมตตาไม่ไปทำร้ายหมาวัดเช่นกัน" พระอาจารย์สุรพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี