ชาวสุรินทร์วอนขอ! อย่ารับเขมรเข้ารักษาในไทย ยิงทั้งโรงพบาลบ้านเรือนประชาชน ปล่อยให้ตายในประเทศเขาไปเลย..ขณะที่โรงพยาบาลพนมดงรัก ยังปิดเงียบ..พบกระสุนเขมรทำลายอาคารภายในโรงบาลเสียหายหนัก มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์อีกหลายคน จากการสำรวจพบวิถีการยิง เป้าหมายหลักของกัมพูชาอยู่ที่โรงพยาบาล
31 กรกฎาคม 2568 จากกรณี วันที่ 30 กรกฎาคม นพ.ชยุต แพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ รพ.กันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หรือ “หมอดิว กันทรลักษ์” ถ่ายคลิปและโพสต์ลงในช่อง TikTok doctorplawan รวมถึงเฟซบุ๊ก คลินิกหมอดิว ชยุต ระบุถึงกรณีรับข่าวลือว่า มีการติดต่อขอให้ช่วยรับดูแลผู้ป่วยจากฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่แน่ใจว่า เป็นข้อมูลข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่โดยหลักทางการแพทย์ต้องรักษาพยาบาลตามหลักมนุษยธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติ หรือเลือกสัญชาติไหน
โดยหมอดิว พูดความในใจว่า
“สวัสดีจากอำเภอกันทรลักษ์ ในวันที่ 30 ก.ค. แม้จะมี่การเจรจาหยุดยิงไปแล้ว แต่สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง ระหว่างนี้หมอก็ได้รับรายงานข่าวแปลกๆ ว่ามีการเจรจาขอให้ส่งตัวผู้ป่วยจากฝั่งกัมพูชา มารับการรักษาที่ไทยได้หรือไม่อย่างไร เป็นการขอความช่วยเหลือ ซึ่งสมมติว่า รายงานข่าวอาจจะจริงหรือไม่จริงไม่รู้ แต่ในแง่จรรยาบรรณแพทย์ พวกเรารักษาคนไข้ไม่เลือกสัญชาติอยู่แล้ว เพียงแต่..
“ฟังดีๆ นะครับ คุณยิงใส่โรงพยาบาลและพลเรือนของเราไปแล้ว ทุกโรงพยาบาลในพื้นที่ที่คุณโจมตี กลายเป็นพื้นที่อันตราย กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีความปลอดภัยแล้ว ประชาชนคนไทยในพื้นที่ไม่รู้จะไปรักษาที่ไหน แล้วจะให้รับคุณมารักษาที่ไหน ไม่มีที่ให้รักษาแล้วครับ”
“ สิ่งที่คุณโจมตี โรงพยาบาลและบ้านเรือนประชาชน ไม่ได้เรียกว่าการปะทะ ไม่ได้เรียกว่า สงคราม เขาเรียกว่าอาชญากรรม ไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน ไม่มีประเทศใดในโลกทำแบบนี้ โจมตีโรงพยาบาล ยิงใส่พลเรือน เพราะฉะนั้น ไม่มีที่ไหนเหลือให้รับรักษา เพราะแม้แต่ประชาชนที่นี่หลายหมื่นหลายแสนคนก็ไม่มีที่รักษา สิ่งที่คุณทำ ขาดความเป็นมนุษย์อย่างมาก หยุดยิงให้ได้จริงๆ ก่อน หยุดโจมตีพลเรือน หยุดยิงใส่โรงพยาบาล แล้วหาสันติวิธีอยู่ร่วมกันเถอะครับ ได้โปรด คนเดือดร้อนมากเกินพอแล้วครับ”
ล่าสุด วันนี้ 31 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ศูนย์อพยพ และพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน ด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีโรงพยาบาลถูกโจมตีและชาวบ้านในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยไปอยู่ศูนย์พักพิงในพื้นที่ปลอดภัย จากการสอบถามถึงกรณีประเทศฝั่งคำพูชาขอนำตัวเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือนเข้ามารักษาตัวยังโรงบาลฝั่งประเทศไทยนั้น
ชาวบ้านในพื้นที่อพยพ บอกว่า ไม่ต้องการให้ประเทศไทยรับผู้บาดเจ็บจากฟังกัมพูชาเข้ามารักษาตัวในโรงบาลประเทศไทย เพราะกัมพูชาทำเราเดือดร้อนต้องอพยพเร่ร่อนจากที่อยู่อาศัย ต้องทิ้งบ้านสัตว์เลี้ยงมาอยู่ศูนย์อพยพ ขาดรายได้จากการทำมาหากิน ปล่อยให้เค้าตายอยู่ในประเทศเขาไปเลย ขณะที่หมาแมว เมื่อเห็นเจ้าของบ้านกลับมาต่างก็ดีใจเข้าไปเคลียคลอเจ้าของอยู่ไม่ห่างด้วยความคิดถึง หลังจากที่ต้องอพยพจากกันไป 7-8 วันและต้องกลับมาแม้จะไม่มั่นใจว่าสถานการณ์ในขณะนี้จะมีการหยุดยิงกันจริง แต่กลับมาบ้านแล้วก็พร้อมอพยพทันทีเมื่อมีคำเตือนจากทางการให้อพยพ
ขณะที่โรงพยาบาลอำเภอพนมดงรัก หลังถูกกระสุนฝั่งกัมพูชาถล่มตั้งแต่วันที่ 24-28 วันแรกก็ได้มีการอพยพแพทย์พยาบาลและบุคลากรพร้อมผู้ป่วยออกจากพื้นที่ 100% เหลือเพียงโรงพยาบาลที่ว่างเปล่าไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ ผู้สื่อข่าวได้เข้าสำรวจจุดที่กระสุนปืนจากฝั่งกัมพูชาตกจุดแรกข้างกำแพง ด้านหน้า โรงพยาบาล จุดที่สองเป็นอาคารถูกแรงระเบิด พังเสียหายเกือบทั้งหลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคนตรงนี้ และจุดที่สามหลังแฟลชพยาบาล ส่งผลทำให้กระจก หน้าต่างแตกกระจาย และผนังแฟลช ถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูทะลุเข้าไปในห้องที่พักตลอดทั้งแฟลช โชคดีได้มีการอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากแฟลตไปแล้วก่อนหน้า ทั้งนี้ กระสุน ปืนฝั่งกัมพูชาที่พยายามยิงเข้าใส่โรงพยาบาลพนมดงรัก ออกจากสามลูกที่สร้างความเสียหาย ยังมีอีก 7-8 กว่าลูกที่ยิงมาแล้วตกลงรอบบริเวณโรงพยาบาล ทางด้านหน้าด้านข้างและด้านหลัง ทำให้ เข้าใจได้ว่ากัมพูชาต้องการที่จะยิงใส่โรงพยาบาลชัดเจน
ล่าสุดเวลา 12.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 สายข่าวได้รับรายงานว่าน่าจะไม่เกินวันนี้เขมรมันจะยิงเราแน่นอน ซึ่งฝ่ายไทยได้เตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไว้พร้อมแล้ว
แหล่งข่าวแจ้งว่าเมื่อคืนที่ผ่านมีโดรนบินอยู่เหนือโรงพยาบาลพนมดงรัก และพื้นที่อำเภอพนมดงรัก ประมาณ 10 ตัวซึ่งมั่นใจว่าเป็นโดรนสอดแนมของฝ่ายตรงกันข้ามอย่างแน่นอน.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี