หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ท่านเหล่านี้เดินจงกรมมาก ไม่ใช่เล็กๆ น้อยๆ เหมือนพวกเรา อย่างหลวงปู่มั่นท่านเดินจงกรม คือว่าท่านไม่ได้ประชุมเวลาอย่างเราทุกคืนอย่างนี้ นานๆ 6 วัน 7 วันท่านจึงมาประชุมมาเทศน์ให้ลูกศิษย์ลูกหาฟัง นอกนั้นก็เดินจงกรมไหว้พระสวดมนต์นั่งภาวนา
การเดินจงกรมของหลวงปู่มั่นนั้น นับตั้งแต่สรงน้ำสรงท่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็เข้าที่เดินจงกรม พูดง่ายๆ คือว่า 6 โมงเดินจงกรม เดินจงกรมจนถึง 2 ทุ่มท่านก็ขึ้นไหว้พระสวดมนต์ ไหว้พระสวดมนต์นั่งภาวนาก็ในราว 2 ชั่วโมงอีกเหมือนกัน แล้วท่านก็จำวัด นี่ในราว 4 ชั่วโมง ตื่นก็ตี 2 ตี 2 วันใหม่ตอนตื่นตอนนั้นก็ล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยจึงลงเดินจงกรม ก็เดินจงกรม 2 ชั่วโมง ไหว้พระสวดมนต์นั่งภาวนา 2 ชั่วโมง
ท่านทำอยู่อย่างนั้นของท่าน แสดงว่าท่านทำสบาย ไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน ด้วยอำนาจของการเดินจงกรมมีอานิสงค์ เลือดลมมันสะดวกสบายวิ่งได้ จิตใจปลอดโปร่ง การเดินจงกรมก็ให้พากันฝึกหัดตัวเองให้เดินจงกรมเป็น เดินจงกรมได้ ถ้าจิตฟุ้งซ่านมากเท่าไร การเดินจงกรมนี้จะแก้ได้ดีที่สุด เดินจนมันเหนื่อยเมื่อยหิว ไม่ใช่เดินเล็กๆ น้อยๆ เอาจนทางจงกรมเดินธรรมดานี้ทรุดลงล่ะ ทรุดท่วมหลังตีนละ เดินไปเดินมาก็ปัดกวาดนานเข้าดินมันก็ทรุดลงไป คือท่านเดินจริงๆ ภาวนาจริงๆ
แม้ครั้งพุทธกาลสมัยโน้นก็ยังมีพระองค์หนึ่งท่านเดินจงกรม ท่านเอาจริง กว่าจะลาพ่อแม่มาบวชได้ก็ลำบาก เมื่อมาบวชแล้วทีนี้ถ้านั่งมันก็จะหลับท่าเดียว ท่านก็ไม่นั่ง ถ้ายืนมันก็จะหลับท่าเดียว นอนท่านไม่เกี่ยวละ ไม่นอน เอาเดินจงกรมเป็นหลัก คือว่าเดินจงกรมมันหลับไม่ได้ ภาวนาพุทโธเรื่อยไป พิจารณากายคตาสติกรรมฐานเรื่อยไป ท่านจะเร่งให้กิเลสมันหมดไปสิ้นไปจริงๆ ภาวนาไม่ท้อถอย
จนกระทั่งว่าเดินจนเท้าแตก เลือดไหลเดินไม่ได้ เพราะว่ามันไปหนักที่เท้า ร่างกายทุกส่วนมันไปหนักที่เท้า เท้ามันมี 2 ข้าง ทีนี้เมื่อเท้าแตกเลือดไหลเดินไม่ได้ ท่านก็อุบายใหม่ว่าต้องคลานเอา สัตว์ทั้งหลายที่มันมี 4 เท้ามันยังเดิน 4 เท้าได้ เราก็คลานเอาเข่าลงไป เท้ามันเจ็บเลือดไหลก็ไม่ต้องเหยียบ เอามือคลาน ภาวนาพุทโธไป ที่นี้คลานก็หลับไม่ได้ เคลื่อนไหวอยู่เสมอ ภาวนาพุทโธ เรื่อยไป เข่าแตกอีก เลือดไหลคลานไม่ได้ มือก็แตกเลือดไหลคลานไม่ได้ละที่นี้
เมื่อคลานไม่ได้ท่านทำอย่างไรต่อไป ท่านก็นอนขวางทางจงกมเหยียดยาวอยู่ตลอดเวลา ภาวนาของท่านตอนนอนเหยียดยาวนี้ไม่แตกละ เพราะมันหนักเท่าๆ กัน ร่างกายมันไม่ได้หนักส่วนใดส่วนหนึ่ง ท่านนอนอยู่อย่างนั้นล่ะ กลิ้งกลับไปกลับมาภาวนาไม่รู้ว่ากี่วันกี่เดือนล่ะ ไม่ท้องถอย ผลที่สุดท่านองค์นั้นก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ
นั่นแหละการเดินจงกรมมีผลมีอานิสงส์ จึงได้สำเร็จมรรคผลนิพพาน
.............................
พระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร) วัดถ้ำผาปล่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี