“คุณรู้ไหมว่าผมป่วยกี่โรค? ผมอายุ 49 ปี มือผมฉีดแอลกอฮอล์ไม่ได้ เวลาพวกคุณฉีดแอลกอฮอล์ที่มือ เพราะสมัยก่อนเขาไม่ได้ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดแบบนี้ เขาใช้สารอะซิโตน(Acetone) แล้วไม่เคยบอกว่าอะซิโตนมีอันตราย มันมีอีกหลายตัว เมื่อก่อนใยแก้ว ใยหิน (Asbestos) ก็ไม่ได้อันตราย เพื่อนผมทำงาน 2 ปี ป่วยเข้าโรงพยาบาล 7 วันตายในปี 2537 ฉะนั้นผมรู้ดีว่าอะไรดีอะไรไม่ดีกับชีวิตตัวเอง แล้วผมก็เอาสิ่งที่ดีมาบอกคนอื่น”
เรื่องเล่าจาก สมนึก จงมีวศิน ที่กล่าวกับทีมงาน “สกู๊ปแนวหน้า” เมื่อครั้งได้ติดตามคณะทำงานของ แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม แผนงานการบริหารจัดการน้ำ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เดินทางไปยัง“ชลบุรี” จังหวัดชายทะเลภาคตะวันออกอันเป็นพื้นที่เศรษฐกิจซึ่งมีครบทั้งอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและภาคเกษตร โดยชื่อของ สมนึก เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในประเด็นสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม จึงขอนำบทสัมภาษณ์มานำเสนอในฉบับวันนี้
- จาก 2 โครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก คือโครงการเดิมอย่างอิสเทิร์นซีบอร์ด (Eastern Seaboard) กับโครงการใหม่อย่างระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) คุณสมนึกคิดเห็นอย่างไร? : ภาคตะวันออกมันควรจะหยุดได้แล้ว หยุดคือไม่จำเป็นต้องมี EEC ให้มันเติบโตด้วย Eastern Seaboard แล้วแก้ปัญหาเก่าไป อุตสาหกรรมบ้านเรามันเป็น Sunset (ขาลง) อย่างอุตสาหกรรมรถยนต์ตอนนี้ตกหมดเพราะมันเกิด Technology Disruption (การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี)
ที่นี้ถามว่าทำไมเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าถึงไม่เข้ามาในไทย เพราะเราไปออกแบบกำแพงภาษี แบตเตอรี่อะไรต่างๆ เอาไว้ ต้องการให้อุตสาหกรรม Sunset มันอยู่ในประเทศไทย เหมือนสมัยก่อนที่เราเอาโรงทอผ้าแห่งสุดท้ายไว้ที่นี่ หลักการเดียวกัน มันมีคนคิดแบบนี้ มันมี Technocrat (นักวิชาการที่เข้าไปช่วยรัฐบาลทำงาน)ที่คิดว่าก็เก็บเอาไว้ตรงนี้ เพราะฉันมีน้ำมันเอาไว้ขาย ถ้าอุตสาหกรรมเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าแล้วฉันจะเอาน้ำมันไปขายใครนี่คือปัญหา
- ไม่ใช่แค่ที่นี่ (3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยอง) แต่เห็นทุกที่ทั่วประเทศที่รัฐบาลมีนโยบายตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษจะพบกระแสต่อต้านเกิดขึ้นเต็มไปหมด : ผมเป็นอนุกรรมการสิทธิฯ มาก่อน ผมไปมาหมดแล้วตั้งแต่ยังไม่สร้างอะไรเลย ตั้งแต่เอาที่ชาวบ้านแรกๆ แล้วปัจจุบันขึ้นไหม? ที่ไหนขึ้นบ้างลองชี้ให้ผมดู ยกเว้นสะเดา (อ.สะเดา จ.สงขลา) เพราะมันเป็นด่านอยู่แล้ว ส่วนที่อื่นอีก 9 เขต (9 จังหวัดประกอบด้วย ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด หนองคาย นราธิวาส เชียงราย นครพนม และกาญจนบุรี) ไม่มีอะไรขึ้นเลย
- ทุกครั้งที่มีเสียงบ่นจากประชาชนว่าเศรษฐกิจไม่ดีรัฐบาลมักจะเอาตัวเลข GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวม)มาโต้แย้งเสมอ ซึ่ง GDP ก็มาจากอุตสาหกรรม ถ้าเราไม่เอาอุตสาหกรรมแล้วเราจะไปทำอะไรกันดี? : คิดว่าเครื่องมือวัดที่ดีที่สุดของศตวรรษนี้คือ GDP หรือ? ผมเป็นวิศวกรนะ จริงๆ เป็นผู้ทำลาย ผมต้องส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเยอะๆ แต่ที่ทุกวันนี้ผมเป็นอดีตวิศวกรเพราะผมป่วยมาจากGDP ผมเคยทำงานมาหลายประเทศทั่วโลก ไม่เคยเห็นประเทศไหนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มันเละๆ คล้ายๆ เรา
- แต่คุณสมนึกก็น่าจะได้ยินเรื่องข้อกังวลว่าถ้ารัฐบาลไทยเข้มงวดกับอุตสาหกรรมมากๆ อาจทำให้บรรดานักลงทุนย้ายฐานการผลิตหนีออกไปลงทุนในประเทศอื่นๆ แบบนี้ไม่กระทบต่อเศรษฐกิจของไทยหรือ? :เชิญ!..ใครอยากย้ายก็ย้ายไปเลย แล้วปรับอุตสาหกรรมใหม่ อุตสาหกรรมที่มันอยู่กับโลก 4.0 ได้ ถ้าอุตสาหกรรมแล้วมาแย่งน้ำเรา มาทำให้อากาศเราเป็น PM2.5 (มลพิษจากฝุ่น 2.5 ไมครอน) แบบนี้คุณเอาหรือ? คุณอยู่ไม่ได้คุณไม่มี GDP คือเป็น 0 นะ แต่คุณอยู่รอดได้ กับคุณมีGDP ถึง 20% แต่คุณอยู่ไม่ได้ ต้องใส่หน้ากากตลอด คุณเอาแบบไหน?
- พักจากอุตสาหกรรมมาเรื่องท่องเที่ยวบ้าง ในปี2559 ประเทศไทยประสบภัยแล้ง ในโลกออนไลน์เกิดวิวาทะระหว่างฝ่ายที่ต้องการให้งดเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์เพราะเสียดายน้ำที่มีจำกัด กับฝ่ายที่ต้องการให้จัดงานสาดน้ำสงกรานต์ต่อไปเพราะภาคการท่องเที่ยวมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ หรือมีสัดส่วน GDP สูงกว่าภาคเกษตร สามารถชดเชยภาคการส่งออกที่มีปัญหาในเวลานั้นได้ อีกทั้งน้ำที่เล่นในวันสงกรานต์ถือเป็นปริมาณน้อยมากที่เทียบกับน้ำที่เกษตรกรใช้เพาะปลูก มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้? : เราต้องคิดเชิงระบบ อย่าไปคิดเป็น Event (เหตุการณ์)
ไปคิดว่าอันนั้นจะทำอันนี้ไม่ทำมันไม่ใช่ ต้องมาออกแบบร่วมกัน เคยมีไหมทุกกระทรวงนั่งทำวอร์รูม (War Room) คุณเห็นวอร์รูมโคโรนาไวรัส (COVID-19) หรือยัง?ของง่ายๆ แค่นี้ยังคิดกันไม่ออก แล้วคุณคิดว่าจะมีวอร์รูมน้ำได้หรือ? พวกผมเป็นภาคประชาชนมีวอร์รูม EEC ภาคประชาสังคมก้าวหน้ากว่าเยอะ ตอบคำถามว่าจะมีหรือไม่มีสงกรานต์ คุณตั้งวอร์รูมแล้วศึกษาปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายใน แล้วก็มองภาพอนาคตว่าคุณควรจะทำหรือไม่ทำ
- พูดถึงโคโรนาไวรัส หรือโควิด-19 ที่ระบาดตอนนี้ในขณะที่สาธารณสุขอยากจะลดโอกาสการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด แต่เมื่อใดที่มีผู้พยายามเสมอมาตรการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวจะคัดค้านทันทีเพราะจะได้รับผลกระทบ : นั่นไง..ทำงานเป็นแท่งๆ มันต้องมีวอร์รูมคุยกัน ทำไมประเทศอื่นหยุดได้แล้วประเทศไทยหยุดไม่ได้ ประเทศอื่นไม่กลัวหรือ? ประเทศอื่นตัว GDP การท่องเที่ยวสูงกว่าประเทศไทยอีก
ผมไปทำอันดามันโกกรีน (Andaman Go GREEN) ทำอันดามันเพื่อการท่องเที่ยว ผมเป็นคนบอกเองว่าถ้ามันแย่ต้องหยุด เพราะถ้ามันมีผลกระทบทั้งหมดการท่องเที่ยวประเทศเราจะไม่ฟื้นอีกเลยถ้าคุณเสียชื่อแม้แต่ครั้งเดียว เช่น มีคนตายตรงพัทยา อยู่ได้ไหม? เขาจะจำพัทยาไปจนวันตายคุณจำได้ไหมที่นักท่องเที่ยวตายที่เกาะเต่า ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าคนจะมา คนจีนเคยมีปัญหาเรือล่มที่ภูเก็ต นั่นก็ใช่
- คำถามสุดท้าย..ที่ผ่านมามีปัญหาในการทำโครงการพัฒนาต่างๆ อยู่มากไม่ว่ากรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ โดยชุมชนที่ได้รับผลกระทบจะออกมาต่อต้านคัดค้าน แต่เมื่อปรากฏเป็นข่าวก็จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมถ่วงความเจริญบ้าง ไม่เสียสละบ้าง เรื่องทำนองนี้จะแก้ไขได้อย่างไร? : การออกแบบเมืองที่ดี ถ้าเราปั้นเมือง เมืองจะปั้นเรา แต่ตอนนี้เราออกแบบแบบไหน? เมืองมันปั้นเราหรือเปล่า? เมืองมันทำร้ายเราอยู่ อันนี้เราออกแบบผิด
“ฉะนั้นถ้าคุณรู้ว่าผิดคุณต้องเปลี่ยนวิธีออกแบบเมืองใหม่ เช่นผังเมืองเป็นตัวกำหนดเมือง ออกแบบอย่างไร ออกแบบร่วมกัน ไม่ใช่ออกแบบว่ามันต้องมีรถไฟฟ้าไปทางนี้ถามว่าทำไมต้องไปทางนี้เพราะมันผ่านที่ดินใคร มันไม่เกี่ยวข้องกับ EIA (รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม) เลยว่าEIA บอกให้ไปทางนี้หรือมีประชาชนเยอะทางนี้ มันง่ายมากที่บริษัทที่ปรึกษาจะเขียนอะไรก็ได้เพราะมันเป็นการเขียนอนาคต แต่ในอนาคตมันมาจากคนในพื้นที่ตรงนั้นหรือเปล่า?”สมนึก กล่าวในท้ายที่สุด
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี