"มะหาด" เป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นพันธุ์ไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดของจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้นำไปปลูกเป็นสิริมงคลแก่จังหวัด และเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนปลูกต้นมะหาดในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
"มะหาด" ชื่ออื่นๆ : กาแย ขนุนป่า ตาแป ตาแปง มะหาดใบใหญ่ หาดหนุน หาด ปากหาด ฯลฯ ต้นมะหาดพบทั่วไปในที่กึ่งโล่งแจ้ง ป่าเต็งรัง ป่าดิบ ป่าเบญจพรรณ หัวไร่ปลายนาทั่วไป ถือเป็นผลไม้พื้นบ้านช่วงหน้าร้อน มีให้กินปีละครั้งเท่านั้น ติดผลช่วงมีนาคม - พฤษภาคม ผลสุกสีเหลือง รูปร่างกลมแป้น ทรงบิดๆ เบี้ยวๆ ผิวเปลือกมะหาดขรุขระ แต่เนื้อในผลนุ่ม รสชาติหวานอมเปรี้ยวหอมอร่อย
"มะหาด" เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตั้งตรง ความสูง 15-20 เมตร เปลือกสีน้ำตาลไหม้เป็นลายแตกละเอียด มีส่วนยอดเป็นพุ่มหนาและทึบ ใบเป็นใบเดี่ยว ขนาดวงรีจนถึงรูปไข่ กว้าง 5-20 เซนติเมตร ยาว 10-30 เซนติเมตร ที่ขอบใบมีริวขึ้นโดยรอบ มีขนขึ้นทั้ง 2 ด้านของใบ ดอกจะออกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน และกลายเป็นผลในเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ลักษณะดอกจะมีสีขาวอมเหลืองมีขนาดเล็ก ผลเป็นผลรวมมีสีเขียว เมื่อสุกจะมีสีเหลือง รัศมีจากจุดศูนย์กลางยาว 2.5-5 เซนติเมตร รูปร่างกลมแป้นใหญ่ มีทรงบิ้วเบี้ยวเป็นบางลูก เปลือกนอกผิวขรุขระ เนื้อผลค่อนข้างนุ่ม แต่ละผลย่อยมีเมล็ด 1 เมล็ด รูปทรงรี
การปลูกต้นมะหาดก่อนที่จะปลูกต้นลงไปต้องฆ่าเชื้อโรคในดินและเพิ่มสารอาหารในดินก่อนเริ่มปลูก โดยขุดหลุมกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร แล้วตากดินไว้นาน 1–2 สัปดาห์ จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ที่สลายตัวดีแล้วรองก้นหลุม นำต้นกล้าลงปลูกกลบดินให้แน่นระยะเริ่มปลูกควรรดน้ำทุกวันถ้าฝนไม่ตกและต้นกล้ายังตั้งตัวไม่ได้ ควรใช้ไม้หลักปักยึดกับลำต้นกันโยกและทำที่บังแสงแดดด้วย นอกจากนี้เมื่อต้นโตขึ้นควรกำจัดวัชพืชรอบ ๆ โคนต้นเป็นบางครั้ง
"ต้นมะหาด" ที่สามารถนำมาใช้ผลประโยชน์ได้นั้นจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 5 ปี ส่วนประโยชน์ทาง "สมุนไพร" นั้นมี "สรรพคุณ" ที่หลากหลายมากมายตามตำรายาไทยได้บอกไว้ว่า
"แก่น" ใช้แก่นมะหาดสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มเคี่ยวกับน้ำจนเกิดฟอง ช้อนฟองออก กรองกับผ้าขาวบาง พักสะเด็ดน้ำ แล้วนำมาตากให้แห้งหรือย่างกับไฟ นำมาบดจะได้ผงสีเหลืองเรียกว่า "ปวกหาด" ใช้ผงประมาณ 3-4 กรัมหรือ 1-2 ช้อนชา ผสมกับน้ำสุกที่เย็นแล้ว สามารถผสมน้ำมะนาวลงไปด้วย รับประทานก่อนอาหารเช้า หลังปวดหาดไปแล้ว 2 ชั่วโมง ให้รับประทานดีเกลือตาม เพื่อถ่ายตัวพยาธิออกมา สามารถทานแก้อาการท้องผูก, ท้องอืด, ท้องเฟ้อได้หรือนำผงปวกหาดมาละลายกับน้ำ ทาแก้ผื่นคัน
"ราก" ใช้ลดอาการไข้ แก้กระษัยเส้นเอ็น ขับถ่ายถ่ายพยาธิ แก้พิษร้อน และรากสามารถนำมาทำสีย้อมสีผ้าได้ด้วย (ให้สีเหลือง)
"เปลือกต้น" รสฝาดใช้เคี้ยวกับหมากแทนสีเสียด "เปลือกต้นสด" สมานทาขับพยาธิ ต้มกินแก้ไข้ ขับพยาธิ นอกจากนี้ในส่วนของ "เปลือก" ยังสามารถนำเปลือกไปทำเชือกได้
"ต้นไม้" ให้ความร่มรื่น ให้ร่มเงา ป้องกันการพังทลายของหน้าดิน
"เนื้อไม้" ใช้ทำเสา หมอนรองรางรถไฟ สะพาน ด้ามเครื่องมือทางการเกษตร ผืนระนาดเอก ผืนระนาดทุ้ม และลูกโปงลาง เป็นไม้เนื้อหยาบ แข็ง เหนียวและทนทาน ปลวกและมอดไม่ขึ้น สามารถเลื่อย, ไส, ตบแต่งได้ง่าย
"ผลไม้" เมื่อสุกสามารถรับประทานได้ เนื้อเยื่อหุ้มเมล็ดมีรสเปรี้ยวอมหวาน
"สารสกัด" ลดอาการผมร่วง กระตุ้นการงอกของเส้นผม แก้โรคเริม ช่วยทำให้โรคผิวหนังค่อย ๆ หายไป ลดความคล้ำของเม็ดสีผิว
ขอบคุณภาพจาก https://medthai.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี