14 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จังหวัดลพบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีควายได้ออกมาวิ่งไปมาอยู่บนถนนถนนพหลโยธินบริเวณหน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา1ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่าควายตัวดังกล่าวเป็นเพศเมียได้วิ่งไปมาอยู่กลางถนนด้วยความตื่นตระหนกตกใจกับเสียงรถที่วิ่งไปมาจำนวนมากอยู่บนถนนบางคันก็บีบแตรไล่จนทำให้ควายตกใจวิ่งเตลิดไปตามถนนจนทำให้รถที่วิ่งผ่านไปมาเบรกรถกันอย่างกระทันหันจนเสียงดังสนั่นถนนโชคดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันขับรถเปิดไฟเลนท์ไปตามถนนเพื่อต้อนควายให้ออกไปพ้นจากถนนโดยควายได้วิ่งไปตามถนนตั้งแต่โรงเรียนไทยรัฐวิทยา1ผ่านหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี 1ผ่านสี่แยกไฟแดง ต.02

และเลี้ยวเข้าไปตามถนนเฉลิมพระเกียรติรวมระยะทางกว่า2กิโลเมตร แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้นเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลงจากรถเพื่อที่จะเข้าไปต้อนและจับควายที่มีเชือกมัดติดอยู่กับตัวควายยาวประมาณเมตร3เมตร จนทำให้ควายตกใจวิ่งไล่ขวิดเจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้สื่อข่าวที่กำลังถ่ายทำข่าวต้องวิ่งหนีกันกระเจิงไปคนละทิศละทางและควายตัวดังกล่าวได้วิ่งไปตามถนนเฉลิมพระเกียรติและไล่ขวิดชาวบ้านอีกรอบจนต้องวิ่งหนีตายกันจ้าระหวั่นจนทางเจ้าหน้าที่ต้องพากันขับรถต้อนควายให้เข้าไปอยู่ในป่าที่ปลอดภัยและห่างไกลประชาชนโดยใช้เวลากว่า2ชั่วโมง ก่อนที่จะติดตามหาเจ้าของความให้มารับตัวเจ้าควายตัวดังกล่าวกลับไป

นายอำนาจ  ศรีสุข  อายุ 35 ปีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้งจังหวัดลพบุรีที่ไล่ต้อนควายและถูกควายไล่ขวิดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเล่าว่าตนเองได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีควายหลุดออกมาวิ่งไปมาอยู่บนถนนตนเองก็ได้ไล่ต้อนเข้าไปในสนามของโรงเรียนแต่เจ้าความก็ไม่ยอมอยู่และได้วิ่งไล่ชนและไล่ขวิดชาวบ้านมาตลอดทางแม้กระทั้งนายอำนาจ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้งจังหวัดลพบุรี ที่พยายามเข้าไปขวางและไล่มันเพื่อไม่ให้ออกมาวิ่งบนถนนยังถูกไล่ขวิดจนต้องวิ่งหนีกันกระเจิงแต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิดก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยกันต้อนให้ควายหนีเข้าไปอยู่ในป่าในที่ปลอดภัยและจะติดตามหาเจ้าของให้ทราบเพื่อมารับตัวกลับไปเนื่องจากตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นควายของใครและหลุดออกมาวิ่งบนถนนได้อย่างไร