‘น้องอาร์’ ดาว มรภ.บ้านสมเด็จฯ แนะใช้หลัก 3 ท. คลายเครียดยุคโควิด-19

‘น้องอาร์’ ดาว มรภ.บ้านสมเด็จฯ แนะใช้หลัก 3 ท. คลายเครียดยุคโควิด-19

วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 10.12 น.

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก  ทั้งการประกอบอาชีพ  การเดินทางคมนาคม  การใช้ชีวิตประจำวัน  ระบบเศรษฐกิจความเป็นอยู่ต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ซึ่งกินระยะเวลานานถึง 3 เดือน และล่าสุดในช่วงเดือนพฤษภาคม  2563 สถานการณ์บางส่วนได้คลี่คลายมากยิ่งขึ้น  การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้เบาบางลงอย่างมากมาย นโยบายของรัฐได้เปิดให้มีการผ่อนปรนบางอาขีพ คลายล็อคดาวน์ ซึ่งส่งผลทำให้การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมเริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติ

ทั้งนี้ การเดินทางคมนาคมต่างๆ การประกอบกิจการค้าขายก็เริ่มกลับมาสู่สภาพเดิม  โดยเฉพาะร้านอาหารที่สามารถเปิดให้ผู้คนนั่งทานที่ร้านได้ แต่ต้องนั่งทิ้งระยะห่างระหว่างกัน  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลกระทบกับการนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน นั้นคือเรื่องของความเหงากับการที่ต้องนั่งรับประทานอาหารคนเดียว


 

 

“ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์”  ได้พูดคุยกับ “นางสาวอาธิยา ฉิมสะอาด” หรือ “น้องอาร์”  นักศึกษาคณะครุศาสตร์  ดาวมหาวิทยาลัยวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประจำปี 2560  เธอบอกว่า ด้วยอุปนิสัยของคนในสังคมไทยที่คุ้นชินกับการรับประทานอาหารกันเป็นครอบครัว และนิยมสังสรรค์กันในคนหมู่มาก แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องมีมาตรการสำหรับการรับประทานอาหารภายในร้าน   โดยจะต้องนั่งห่างจากกัน หรือนั่งกันคนละโต๊ะ อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกเหงา และโดดเดี่ยวบ้าง เพราะไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่ตนเองปฏิบัติอยู่เป็นประจำ

 

 

นางสาวอาธิยา ให้เหตุผลว่า แต่เมื่อมีปัญหาเราก็มีหนทางแก้ไขอยู่เสมอ โดยใช้หลัก 3 ท. ในการคลายความเครียด 

1. ท.  "เทคโนโลยี” โดยเราสามารถใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการพูดคุนกันระหว่างโต๊ะได้ อาจจะใช้วิธีวิดีโอคอล รับประทานอาหารกัน หรือโทรศัพท์คุยกันถึงรสชาติของอาหารและบรรยากาศ ซึ่งก็เป็นความรู้สึก และประสบการณ์ใหม่ที่สามารถทำให้เราคลายเหงาในตอนที่เรานั่งรับประทานอาหารคนเดียวได้

 

 

2. ท. “ทักทายในระยะไกล” เราสามารถทักทายผู้คนได้ คนที่มาทานในร้านเดียวกับเรา อาจจะไม่ได้รู้จักเรา แต่เราสามารถใช้โอกาสนี้ในการทักทายเพื่อนร่วมสังคมของเราได้ แต่ควรเลือกดูว่าสถานการณ์ใดเหมาะสม หรือควรทักทายบุคคลใด เราอาจจะถามว่ามากับใคร สั่งอะไรทาน หรืออาหารอร่อยหรือไหม แต่ต้องเว้นระยะห่างในการทักทาย การทักทายผู้คนนอกจากจะทำให้เราคลายเหงาแล้ว ยังสามารถทำให้เรามีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างมากขึ้นอีกด้วย

 

 

และ 3. ท. “ทำใจ” เพราะเราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยหากวันนั้นเราๆไม่ได้นำโทรศัพท์ติดตัวไป หรือเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าพูดคุยกับใคร สิ่งที่เราทำได้คือ ต้องทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คงต้องคลายเหงาด้วยการนั่งดูจานอาหารที่สั่งมาแทน หรือนั่งนับดูส่วนประกอบในอาหารจานนั้น ก็อาจเป็นวิธีการคลายเหงาอีกรูปแบบหนึ่งได้ดีที้สุด อยู่กับตัวเอง ลิ้มลองรสชาติของอาหารที่แสนอร่อย กับบรรยากาศของชีวิตที่สบายๆ

 

 

“หลายคนอาจมองว่าความโดดเดี่ยวและความเหงาคือปัญหาสำหรับการออกไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านเพียงคนเดียว แต่หาเราทุกคนเตรียมพร้อมกับเรื่องที่จะเจอไปก่อนแล้ว เชื่อว่าเราทุกคนต้องผ่านพ้นความเหงาเหล่านี้ไปได้ สิ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือการคิดบวก การคิดบวกช่วยให้เรามีความสุขกับทุกสถานการณ์ที่เราต้องเจอได้เสมอ” น้องอาร์ กล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top