วันที่ 13 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุการณ์ฝูงผึ้งหลวงพากันบินเข้ามาทำรังรอบเจดีย์โบราณอายุ 1,036 ปี ภายในวัดป่าสักคำ หมู่ 8 บ้านหนองหวี ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา จนสร้างความฮือฮาและเป็นที่สนใจของผู้คนที่เข้าเดินทางมาทำบุญในวัด พากันกราบไหว้ขอพร ทั้งนี้ เนื่องจากผึ้งหลวงจะทำรังจะแตกต่างจากที่อื่น ด้วยการสร้างทำรังแบบขวางแสงตะวันหรือแสงแดดทุกรัง ซึ่งจะแตกต่างจากรังของผึ้งหลวงที่อื่นจะทำรังตามแนวยาวของแสงแดดเพราะหลบความร้อนของแสงแดด
ที่สำคัญ ผึ้งหลวงจะทำรังรอบองค์เจดีย์ มีทั้งรังเล็กรังใหญ่ตั้งแต่ขนาด 1 ฟุตจนถึง 1 เมตรครึ่ง ทุกรังจะขวางแสงแดดทุกด้าน แม้แต่มุมเหลี่ยมผึ้งยังหักสร้างรังขวางแสงแดดตามมุมอีกด้วย จนเป็นที่สนใจแปลกตาของผู้พบเห็นต่างพากันเข้ามากราบไหว้ ขอพรกับองค์พระธาตุเจดีย์โบราณ ที่มีผึ้งหลวงทำรังอยู่
จากการสังเกตพระธาตุเจดีย์โบราณของวัดป่าสักคำว่าเป็นเจดีย์ ทรงแปดเหลี่ยม รูปทรงระฆังคว่ำ ศิลปะประยุกต์ล้านนา มีขนาดฐานกว้าง 15 เมตร สูง 25 เมตร และพบรังผึ้งหลวงมาทำรังอยู่รอบทุกด้านขององค์พระธาตุเจดีย์ โดยแต่ละรังจะทำการสร้างรังแบบขวางตะวันหรือแสงแดด ทุกรังมีรังผึ้งล้อมรอบองค์เจดีย์ ทั้งรังเล็กรังใหญ่ นับว่ามีความแปลกเนื่องจากองค์เจดีย์โบราณวัดป่าสักคำตั้งอยู่จุดกลางของป่าไม้ล้อมรอบและมีความร่มรื่น
แต่บรรดาผึ้งหลวงกลับไม่ไปทำรังตามต้นไม้ที่อยู่บริเวณภายในวัดแต่พากันมาทำรังที่องค์พระธาตุเจดีย์โบราณ เป็นที่อยู่อาศัยแทน นับว่าเป็นเรื่องแปลก และไม่เหมือนที่ไหนเพราะผึ้งหลวงจะทำรังล้อมรอบองค์เจดีย์ทุกด้าน แต่องค์เจดีย์ที่วัดอื่นๆ จะมีผึ้งทำรังเพียง 1 หรือ 2 รังเท่านั้นและจะเป็นด้านที่หลบแสงแดดอีกด้วย
บางคนที่เห็นรังผึ้งได้นับเอารังผึ้งจำนวน 6 รัง และเลขอายุองค์พระธาตุเจดีย์ 1,036 ปี อาทิเลข 136 - 103 - 036 และ 2 ตัว 66 เพื่อนำไปเสี่ยงโชค วัดป่าสักคำ เป็นวัดเก่าแก่โบราณที่ได้ล่มสลายมาก่อน จึงได้มีการปรับปรุงบูรณะสร้างขึ้นมาใหม่รวมทั้งองค์พระธาตุเจดีย์ ที่ทางพระสงฆ์และชาวบ้านได้บูรณะขึ้น มาเป็นครั้งที่ 3 จนถึงทุกวันนี้
สำหรับองค์พระธาตุเจดีย์ได้เกิดปรากฎการณ์คือพระธาตุกลับหัวซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ของภาคเหนือที่มีการเกิดเงาองค์ธาตุกลับหัวหรือทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าการหักเหของแสงอักด้วย
พระครูไพศาล พนารักษ์ เจ้าอาวาสวัดป่าสักคำ กล่าวว่า วัดป่าสักคำเป็นวัดเก่าแก่มีอายุกว่า 1,036 ปี ฝูงผึ้งหลวงได้พากันเข้ามาอยู่ทำรัง ในช่วงเข้าพรรษาของทุกปีหลังจากออกพรรษาแล้วช่วงประมาณเดือนธันวาคม มกราคม หลังจากนั้นก็จะกลับเข้ามาใหม่ และอาศัยในบริเวณวัดโดยได้ทำการยึดองค์พระธาตุทำรังรอบองค์พระธาตุมานานจนถึงทุกวันนี้ผึ้งได้ทำรังแบบขวางแสงตะวันหรือแสงแดด รอบองค์พระธาตุเจดีย์จำนวน 6 รัง มีทั้งรังเล็กและรังใหญ่และรังจะเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันเป็นอย่างนี้หมุนเวียนมาตลอดทั้งปี
"ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนที่ผึ้งจะทำรังแบบขวางตะวัน หรือแสงแดด และมีที่เดียวโดยไม่ทำร้ายผู้คนที่เข้ามาทำบุญตลอดจนญาติโยมและพระสงฆ์ภายในบริเวณวัดแต่อย่างใด สำหรับผึ้งที่ทำรังขวางตะวันหรือแสงแดดคนโบราณกล่าวไว้ว่า ขี้ผึ้งหรือรังผึ้ง ถ้านำมาทำเป็นเทียนไขหรือวัตถุมงคลซึ่งล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณทางด้านเมตตามหานิยมเจรจาค้าขาย-ความรักสมหวังทั้งสิ้น"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี