หลายคนคงมีเวลาว่างช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ทำกิจกรรมในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา และหนึ่งในนั้นคือ ข้าราชการสาวเมืองสองแคว “นางเอื้อมพร ลิ้มตระกูล” อายุ 41 ปี ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ทำขนมข้าวโปงขนมไทยโบราณที่ปัจจุบันหาทานยาก หารายได้ผ่านโลกโซเชียล เพื่อเป็นการสืบสานขนมไทยแท้ให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จัก และเพื่อหารายได้เสริมในช่วงวันหยุด
นางเอื้อมพร เล่าให้ฟังว่า จะใช้เวลาว่างในวันหยุดสืบสานการทำข้าวโปง ขนมไทยโบราณที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก หรือหากหาทานได้ก็มักจะเป็นวิธีการทำแบบสมัยใหม่ ทำให้รสชาติจะผิดเพี้ยนไปจากสมัยโบราณ ทุกวันอาทิตย์จะมีเพื่อนบ้าน คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน ที่ทราบข่าวมาช่วยทำ นั่งพูดคุยสารทุกข์สุขดิบกันไปตามวิถีของคนชนบท โดยทำขายที่บ้านอาศัยโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กใครทราบข่าวก็จะแวะเข้ามาอุดหนุนถึงบ้าน หรือหากใครสั่งจองก็จะนัดรับตามจุดต่างๆในพื้นที่ อ.วังทอง โดยทุกๆ วันอาทิตย์จะทำขาย 100-200 กล่องแล้วแต่ออเดอร์ที่สั่งจองมา ก็นับได้ว่านอกจากจะเป็นการสืบสานขนมไทยโบราณที่เด็กสมัยใหม่แทบไม่รู้จักให้คงอยู่ต่อไปแล้ว ยังเป็นการหารายได้เสริมให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่งด้วย
นางเอื้อมพร เล่าอีกว่า แต่เดิมของคุณแม่และตระกูล จะเป็นคนไพศาลี จ.นครสวรรค์ พอตนมีครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ก็พอได้ความรู้ในการทำขนมไทยโบราณ หลากหลายอยากมาจากคุณแม่ และเมื่อตนอยากกินขนมข้าวโปง แต่ก็หาทานไม่ได้เลย จะขับรถไปหาคุณแม่ที่ จ.นครสวรรค์ก็ไม่สะดวก จึงลงมือทำเองเพราะสมัยก่อนตอนเป็นเด็กก็จะเป็นลูกมือของคุณแม่ประจำ พอทำเสร็จเรียบร้อยก็แจกจ่ายเพื่อนบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุในหมู่บ้านได้ทาน ก็ปรากฏว่าทุกคนชอบ เพราะเป็นขนมโบราณที่คนเฒ่าคนแก่รู้จักกันดีแต่หาทานไม่ได้แล้ว ก็มาไถ่ถามขอซื้อ หรือให้ทำจะซื้อไปทาน ตนก็เลยโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กว่าจะทำขนมข้าวโปงทุกๆ วันอาทิตย์ใครสนใจก็ให้พรีออเดอร์มาแล้วก็มานัดรับในพื้นที่ อ.วังทอง หรือเข้ามารับที่บ้านได้เลย ปรากฏว่าวันอาทิตย์สัปดาห์แรกที่โพสต์มีลูกค้าสั่งจองมาถึง 100 กล่อง ซึ่งตนขายกล่องละ 20 บาทเท่านั้น พออาทิตย์สัปดาห์ที่ 2 ก็มีออเดอร์มาถึง 150 -200 กล่อง ตนก็เลยตั้งใจว่าจะทำขายจริงๆ ในทุกๆ วันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดของข้าราชการ
นางเอื้อมพร กล่าวอีกว่า ขนมข้าวโปงของตนจะใช้วิธีการทำแบบโบราณอย่างแท้จริงทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่นำข้าวเหนียวใหม่ไปนึ่งให้งวด จากนั้นก็นำมาใส่ครกไม้ขนาดใหญ่ แล้วตำหรือโขลกทั้งๆที่ข้าวเหนียวยังร้อนอยู่ โขลกไปเรื่อยๆ จนกว่าข้าวเหนียวจะเนื้อเนียนกลายเป็นแป้ง แต่ที่สำคัญต้องทำแข่งกับเวลาหรือต้องโขลกให้เสร็จก่อนข้าวเหนียวจะเย็น จากนั้นก็โรยงาดำที่คั่วที่โขลกละเอียดด้วยครกไม้ไว้แล้ว และโขลกต่อให้เนื้อข้าวเหนียวกับงาเข้ากัน จากนั้นก็รีบนำมาปั้น ยัดไส้ด้วย ไส้ถั่วโบราณที่จะทำเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ คือใช้ถั่วลิสงคั่วแล้วไปโขลกให้พอแหลก แต่ไม่ต้องละเอียดมาก จากนั้นก็นำงาดำไปคั่วแล้วโขลกละเอียด และน้ำตาลปีบ มาคลุกเคล้าในสัดส่วนที่พอเหมาะก็จะได้ไส้ของขนมข้าวโปง ส่วนรสชาติขนมข้าวโปงเนื้อจะเด้งๆ แต่นิ่มๆ ไม่เหนียว จะมีกลิ่นหอมของงาดำคั่ว เมื่อเคี้ยวโดนไส้ก็จะได้กลิ่นหอมของถั่วกับงา รสชาติจะออกมันๆ หวานนิดหน่อยจากน้ำปีบทุกอย่างจะลงตัวและอร่อยมาก
ส่วนราคาขายของตนก็ไม่แพง 1 กล่องจะมี 6 ชิ้นใหญ่ๆ แบบเต็มคำ ราคาเพียง 20 บาท แต่ด้วยข้าวโปงเป็นขนมโบราณไม่ได้ใส่สารอะไรทั้งสิ้น จึงควรทานภายใน 24 ชม.เพราะถ้าตัวขนมโดนลมจะแข็งตัว อาจจะไม่นิ่มได้ หรือบางรายก็ชอบนำไปใส่ตู้เย็นเก็บไว้ เวลาจะทานก็นำมาทอดก็จะอร่อยไปอีกแบบ สำหรับใครที่อยากจะลิ้มลองรสชาติของขนมข้าวโปงโบราณ ซึ่งตนจะทำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งคือทุกๆ วันอาทิตย์ ก็สามารถโทรสั่งจองได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 081-707-2074
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี