"ส.อบจ.ตรัง" พร้อมผู้นำท้องที่เปิด 3 ถ้ำห้วยยอดหนุนเป็น "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น" และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกแห่งของจังหวัดตรัง หลังพบวัตถุโบราณอายุกว่า 3 พันปีจำนวนมาก เผยสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต ลงพื้นที่สำรวจก่อนนำพระพิมพ์อายุกว่า 3 พันปีไปเก็บรักษา พร้อมผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ของจังหวัด
วันที่ 27 ส.ค.63 นายกิตติเดช วรรณบวร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ตรัง พร้อมนายไพโรจน์ จงจิตร อดีตกำนันตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวุดตรัง นายปรีชา คงรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลเขากอบ นำสื่อมวลชนมาสำรวจถ้ำเขาคุรำ เขานุ้ย และเขาหัวพาน ในพื้นที่หมู่ 12 บ้านเป ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ หลังจากที่มีการค้นพบวัตถุโบราณภายในถ้ำทั้ง 3 ลูกจำนวนมาก มีทั้งพระพิมพ์ เศษภาชนะ เศษโครงกระดูก เศษฟันคน ฟันสัตว์ เครื่องประดับ ฯลฯ โดยที่ชาวบ้านได้สร้างที่เก็บรักษาดูและเป็นบ้านบริเวณหน้าถ้ำและมีการดูแลอย่างดี เนื่องจากเป็นวัตถุโบราณล้ำค่าที่มีอยู่ในถ้ำคาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสภาพของถ้ำทั้ง 3 ลูกทั้งถ้ำเขาคุรำ เขานุ้ย และเขาหัวพาน มีสภาพพื้นที่ตั้งอยู่ติดกันเป็นเขาสูงตั้งเด่นตระหง่านปกคลุมด้วยผืนป่าเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม่น้อยใหญ่ปกคลุมหนาแน่น ภายในถ้ำมีลักษณะเหมือนถ้ำทั่วไปมีทั้งที่มีลักษณะเป็นห้องโถงใหญ่ ซอกหลืบหินงอกหินย้อยสวยงามที่สำคัญคือชาวบ้านขุดค้นพบวัตถุโบราณภายในถ้ำทั้ง 3 ลูกจำนวนมาก พร้อมทั้งได้แจ้งให้ทางสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต ทราบและลงมาสำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดทางนักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำท้องที่และชาวบ้านตำบลเขากอบ ประสานไปยังกรมศิลปากรผลักดันให้มีการจัดตั้งเป็น "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น" และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกแห่งของจังหวัดตรัง
นายไพโรจน์ จงจิตร อดีตกำนันตำบลเขากอบ กล่าวว่า เขาคุรำ นี้เริ่มพัฒนาครั้งแรกเมื่อปี 2543 และได้สร้างอาคารตรงนี้ไว้แล้วก็ถูกทิ้งร้างมาเป็นระยะเวลาประมาณ 20 ปี แต่เมื่อปีพ.ศ. 2561 ตนก็ได้เริ่มเข้ามาปรับปรุงสถานที่แห่งนี้ก็ได้เจอของเก่าและตนเองก็ได้เก็บสะสมไว้และก็เจอของเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้เก็บเอาไว้ในส่วนของรายละเอียดต่างๆนั้นทางสำนักศิลปากรที่15ภูเก็ตและทางนายกิตติเดช วรรณบวร ส.อบจ.ตรัง ได้เป็นคนประสานมา
"ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเก็บด้วยใจรักไม่รู้จักว่าแต่ละชิ้นมีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งบริเวณแถวนี้มีถ้ำอยู่หลายถ้ำในแต่ละถ้ำพบว่ามีของโบราณอยู่ทุกถ้ำ ลักษณะภายในถ้ำจะมีห้องโถงใหญ่ วัตถุโบราณที่พบส่วนใหญ่จะมีหม้อดิน เศษกระดูกหรือฟันของกระดูกมนุษย์ ขวานหินสมัยโบราณ ซึ่งทางสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ตแจ้งว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 3 พันปี แล้วเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมาทางรองอธิบดีกรมศิลปากรได้ลงมาเยี่ยมพื้นที่แห่งนี้ด้วย ซึ่งพบว่าที่นี่เป็นแหล่งสำคัญที่สุดของภูมิภาคนี้ ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านให้ความสำคัญและช่วยกันดูแลสถานที่แห่งนี้ด้วย หากใครเข้ามาเยี่ยมชมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 08 6611 3864" นายไพโรจน์ กล่าว
ด้านนายปรีชา คงรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลเขากอบ กล่าวว่า ตนในฐานะของกรรมการของกรมศิลปากรได้ศึกษาดูแลและอนุรักษ์เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ของกรมศิลป์และที่พบของเขาคุรำ เขานุ้ย เขาหัวพาน ก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทางกรมศิลปากรที่จังหวัดภูเก็ต ได้เข้ามาสำรวจ พบวัตถุโบราณหลายชิ้น ซึ่งของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราต้องควรอนุรักษ์ไว้ ซึ่งสิ่งที่พบถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดแล้วอายุประมาณ 3 พันปีที่ทางกรมศิลป์ได้แจ้งไว้
"ต่อไปเราก็สามารถทำเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมได้ หากนักท่องเที่ยวจะเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่มีความปลอดภัยอย่างแน่นอนจะมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหมู่บ้าน อปพร.ช่วยดูแลป้องกันคุ้มครองให้นักท่องเที่ยวได้รับความปลอดภัย ในส่วนของการเข้าไปเยี่ยมชมแต่ละถ้ำนั้นใช้เวลาในการเดินเข้าไปไม่แน่นอนเพราะมีพื้นที่ถ้ำ มีโถงกว้างใหญ่ มีหินงอกหินย้อย และความพิสดารอัศจรรย์ภายในถ้ำด้วย"
ขณะที่นายกิตติเดช วรรณบวร ส.อบจ.ตรัง กล่าวว่า ตนได้ประสานงานกับสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ตแล้วร่วมกับอดีตกำนัน นายไพโรจน์ จงจิตร และกำนันในพื้นที่กำนันดำรงค์ศักดิ์ วรรณบวร ที่เป็นสมาชิกและประสานไปอย่างองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขากอบ เนื่องด้วยว่าทางกรมศิลปากรได้ทราบข่าวเมื่อปี 2554 ว่ามีการค้นพบพระพิมพ์และของใช้โบราณในยุคไม่น้อยกว่า 3 พันปี ซึ่งพระพิมพ์ที่พบประมาณ 1,000 กว่าองค์ ตอนนี้ก็ได้มีการส่งมอบพระพิมพ์ให้แก่ทางกรมศิลปากรเพื่อนำไปขึ้นทะเบียนไว้อยู่ที่สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต แต่ในส่วนที่รับผิดชอบของพื้นที่ตรงนี้ภูเขาทั้ง 3 ลูกก็คือภูเขาคุรำ ภูเขานุ้ย ภูเขาหัวพาน ทางกรมศิลป์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งโบราณคดีจดทะเบียนถูกต้องของกรมศิลป์และกรมศิลป์ก็เข้ามาดูแล
นายกิตติเดช กล่าวอีกว่า ในส่วนของการพัฒนาแหล่งโบราณคดีที่จะให้เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในอนาคตก็ได้มีการหารือกับกรมศิลป์เพื่อให้พี่น้องชาวบ้านหมู่ที่ 12 บ้านนาเป มาพูดคุยและทำความเข้าใจกันเพื่อส่งมอบพื้นที่บางส่วนให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบดูแลอย่างเช่นพื้นที่ที่เป็นถนนและอาคาร โดยที่เราจะต้องมีหน่วยงานราชการเข้ามาประสานงานดูแลเพื่อที่เราจะทำงานร่วมกัน เบื้องต้นทาง อบต.เขากอบ ทำหนังสือไปยังกรมศิลป์ให้เข้ามาช่วยออกแบบเพื่อจะทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างเช่น museum เดินชมแหล่งโบราณสถานที่เคยพบทั้ง 3 ภูเขา
นอกจากนี้ ทางกรมศิลปากรยังได้ค้นพบสถูปจำลองขนาดอยู่ที่ประมาณ 50 cm อยู่บนยอดภูเขานุ้ยขึ้นไปความสูงประมาณ 100-150 เมตรค้นพบเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วแต่เป็นเศษของสถูป ซึ่งทางกรมศิลปากรได้แจ้งไว้ว่ามีไม่กี่ที่ที่มีสถูปจำลองโบราณในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่โบราณทางคดี จึงถือว่าที่นี่มีความสำคัญในเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในยุค 3,000 ปี และหลังจากนี้ต่อไปทางกรมศิลปากรจะเข้ามาดูแลขับเคลื่อนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของคนตรังของคนห้วยยอด
สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้ามาดูวัตถุที่เคยค้นพบ เช่น พระพิมพ์บางส่วน ส่วนใหญ่ที่สมบูรณ์ 900 กว่าองค์อยู่ที่พิพิธภัณฑ์จังหวัดภูเก็ต แต่ที่นี่ก็มีบางส่วนสามารถเข้ามาเยี่ยมชมกันได้จะมีภาชนะต่างๆ โบราณที่ค้นพบ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ทำมาหากินหรือกระดูกชิ้นส่วนต่างๆ ของใช้ กำไลสร้อยคอ ลูกปัด ที่เป็นเครื่องประดับ ที่นี่ก็มีให้ดูเป็นบางส่วนเพราะยังไม่สมบูรณ์ แต่การขับเคลื่อนของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจะต้องให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเช่นกรมศิลป์ศิลปากรเข้ามาดูแลตอนนี้เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือรักและห่วงแหนให้การต้อนรับคนที่มาเยือน
"ในส่วนของการเดินทางเข้ามาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นนั้นเดินทางเข้ามาไม่ยากอยู่ในพื้นที่ของหมู่ที่ 12 บ้านนาเป ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง อยู่ใกล้กับแม่น้ำตรังและอยู่ใกล้กับแหล่งโบราณสถานอีกที่หนึ่งคือวัดคีรีวิหาร แหล่งท่องเที่ยวถ้ำเลเขากอบและวังเทพทาโรจากกันประมาณไม่ถึง 5 กิโลเมตรถ้าเดินทางมาจากถนนเพชรเกษมเพื่อจะไปยังทะเลสองห้องจากปากทางถนนเพชรเกษมเข้ามาก็อยู่ที่ประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะถึงพื้นที่ของหมู่บ้านสามารถสอบถามเส้นทางจากชาวบ้านได้เช่นกัน" นายกิตติเดช กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี