ครั้งก่อน... “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้พาไปสัมผัสโบราณสถานที่เป็นใยจกลางของเมือง “สุโขทัย” วันนี้จึงได้มีโอกาสแวะไปสถานที่ที่สวยไม่แพ้กัน นั้นคือ “วัดศรีชุม” เพราะเป็นศาสนโบราณสถานแห่งหนึ่งในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือนอกกำแพงเมืองเดิม ใน ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

เมื่อไปถึง “วัดศรีชุม” จะมีซุ้มเล็กๆ ตรงทางเข้า ซึ่งเราจะต้องซื้อบัตร สำหรับคนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท และทางขวามือหากใครอยากจะเช่าเสื้อผ้า เพื่อเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยในขณะนั้นก็สามารถเช่าได้ในราคา 50 บาทต่อคน

พร้อมหรือยัง... หากพร้อมแล้วเข้าไปชมมนต์เสน่ห์และอัตลักษณ์ที่ชวนน่าหลงใหลของวัดศรีชุมกันเลย เมื่อเดินเข้าไปจะพบว่าบริเวณรอบๆ วัดจะเป็นที่โล่งๆ มีเพียงพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในมณฑป มีนามว่า “พระอจนะ” ตั้งอยู่บนฐานสูง ด้านหน้าเปิดเป็นช่องเห็นพระพักตร์พระพุทธรูปงดงามแต่ไกล แต่ปัจจุบันยอดพระมณฑปได้พังทลายหมดแล้ว เหลือแต่เพียงผนังกำแพงโดยรอบ ไม่มีหลังคาปกคลุม กลายเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้ง ที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และมีมนต์เสน่ห์และเอกลักษณ์ชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและสักการะอย่างไม่ขาดสาย

นอกจากนี้ วัดศรีชุม ยังมีประวัติที่น่าค้นหา และถือว่าเป็นตำนานที่เล่าลือกันมากว่า 700 ปี ว่าภายในช่องกำแพงตามฝาผนังมีภาพเขียนเก่าแก่แต่เลอะเลือนเกือบหมด บนเพดานช่องบันไดยังมีแผ่นหินชนวนขนาดใหญ่แกะสลักลวดลายเรื่องชาดกต่าง ๆ มีจำนวนทั้งหมด 50 ภาพ ได้สันนิษฐานว่า ทางเดินนี้สร้างขึ้นจากกุศโลบายพระมหากษัตริย์ในสมัยพระร่วง ที่ใช้ความเชื่อความศรัทธาในศาสนาของชาวบ้านและทหารในสร้างขวัญและกำลังใจ และสร้างความหึกเหิมให้เหล่าทหาร ด้วยการพูดออกมาจากช่องเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างองค์พระอจนะ ให้คล้ายกับว่าเสียงที่พูดเป็นวาจาที่เปล่งออกมาจากพระอจนะ จนชาวบ้านเล่าขานกันมาว่า “พระพุทธรูปพระอจนะ พูดได้”

ทั้งนี้ ในสมัย รัชกาลที่ 9 ได้มีโครงการบูรณปฏิสังขรณ์ ในปี พ.ศ. 2495 โดยเริ่มมีการบูรณะพระพุทธรูปพระอจนะ โดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และอาจารย์เขียน ยิ้มสิริ องค์พระที่เห็นในปัจจุบัน ได้รับการปั้นใหม่ทั้งองค์ สภาพของเดิมนั้นแทบจะไม่สามารถพอจะเห็นเค้าโครงของดั้งเดิมได้เลยทีเดียว สำหรับตัวโบราณสถานเป็นมณฑปรูปสี่เหลี่ยมกว้าง 32 คูณ 32 เมตร สูง 15 เมตร  

หากนักท่องเที่ยวเข้าไปกราบไหว้ “พระอจนะ” มีทริคนิดหน่อยในการขอพร โดยผู้ชายจะต้องใช้มือขวาแตะนิ้วกลางขององค์พระ ส่วนผู้หญิงให้ใช้มือซ้ายแตะแล้วค่อยอธิฐานขอพรตั้งจิจให้แน่วแน่จะช่วยเสริมสิริมงคล ทำการสิ่งประสบความสำเร็จ มีความเมตตา และความสุข

หากใครสนใจที่จะเดินทางไปกราบไหว้ขอพรก็สามารถเข้าไปได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 18.00 น.) ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00-21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน

อ่านข่าวเพิ่มเติมที่นี่ : ตกหลุมรัก! เมืองต้องมนต์ไหว้พระ‘วัดมหาธาตุ’ใจกลางเมืองสุโขทัย