วันนี้เราจะพาไปพายเรือคายัคที่ "อ่าวท่าเลน" ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพราะมีท้องทะเลสีเขียวที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเขาหินปูน และป่าโกงกาง สร้างความตื่นเต้นตั้งแต่เรายังไม่เริ่มพายเรือเข้าไป 

จากนั้นเมื่อ "ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" เตรียมตัวกันพร้อมแล้วก็หยิบไม้พายของตัวเองขึ้นมา พร้อมกับออกแรงพายทันทีไม่นานเราก็เริ่มเข้าไปกลางหุบเขา เห็นความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เราตะลึงกับความงามไม่น้อย เพราะวิวสวยระดับหลักล้าน เรียกว่า "กุ้ยหลินกระบี่" ก็ว่าได้ 

ด้วยความสงบร่มเย็นของธรรมชาติ เราเพลิดเพลินไปกับการพายเรือชมธรรมชาติอันงดงามรอบๆ พบสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นมากมายทั้งพืชและสัตว์ เราพายเรือคายัคตัดผ่านน้ำทะเล แล้วลัดเลาะเข้าสู่วงล้อมของภูเขาหินปูน ซึ่งตั้งเรียงกันอยู่อย่างสลับซับซ้อนจนทำให้ทะเลเหมือนถูกแบ่งเป็นห้องโถงใหญ่ๆ หลายห้อง หรือที่เรียกกันว่า "ลากูน"

การพายเรือคายัคครั้งนี้ "ทีมข่าวฯ" เลือกแบบ 2 ที่นั่ง โดยมีไกด์ ช่วยพายเพื่อที่เราจะได้ถ่ายรูปสวยๆ มาอวดกัน ซึ่งการพายเล่นในอ่าว และบริเวณโดยรอบชายฝั่ง ถือว่าเป็นการพายเรือที่ไม่ธรรมดา เพราะเราจะได้ชมวิวตลอดสองข้างทางจะพบกับผืนป่าอันสมบูรณ์ และเขาหินปูนที่นักท่องเที่ยวต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "สวยระดับโลก" โดยนอกเหนือจากความงามของธรรมชาติแล้ว เรายังจะพบกับ "สุสานของชาวเล" ที่เคยอาศัยที่นี่มานานหลายร้อยปี

เมื่อ "พี่เฮนรี่" ไกด์นำทางของเรา เริ่มต้นพายออกจากท่าเรือ ก็ได้แนะนำและสอนวิธีการพายเรือคายัค จากนั้นเริ่มออกเดินทางตัดผ่านเนินทรายกลางปากอ่าวท่าเลน แล้วเลาะเข้าหาทิวเขาหินปูนที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ซึ่งช่วงที่เราไปมีฝนโปรยปรายเล็กน้อย แนะนำว่าควรสวมหมวกและเสื้อกันฝนด้วย ส่วนเรื่องการถ่ายภาพจากในลำเรือค่อนข้างยาก เพราะเรือโคลงเคลงตลอดเวลา ซึ่งยากมากที่จะบังคับให้เรือหยุดนิ่งสนิทด้วยคลื่นลมที่พัดมาอย่างต่อเนื่อง

"อ่าวท่าเลน" ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมาเยือนอย่างมาก ด้วยความโดดเด่นทางธรณีวิทยา ภูมิประเทศ ผาหินปูนที่ตั้งเป็นช่องเหมือนประตูออกสู่ทะเล ซึ่งเป็นจุดที่ถือว่าสวยงามที่สุด จนทำให้นักพายคายัคทั่วโลกเดินทางมาที่นี่ อีกทั้ง "น้ำใส" ที่ถูกล้อมรอบด้วยเกาะและป่าโกงกาง ทั้งยังมีป่าชายเลนที่คงสภาพสมบูรณ์ตลอดเส้นทางภูมิศาสตร์ พอตกบ่ายคล้อย ทำให้พื้นทะเลที่ตื้นเขินโผล่พ้นน้ำขึ้นมาจนกลายเป็นสันดอนกลางทะเล  ทำให้ได้สัมผัสกับความร่มรื่นของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพืชและสัตว์นานาชนิด 

ทริปนี้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวหรือเพือนฝูงที่ต้องการมาสัมผัสกับประสบการณ์มหัศจรรย์ทางทะเลเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ต้นไม้โกงกางล้อมรอบ ซึ่งเต็มไปด้วยความสงบและความน่าประหลาดใจทุกครั้งที่ได้มาเยือนจริงๆ จัดว่าเป็นทริปพิเศษที่หลายคนไม่ควรมองข้าม ประสบการณ์การพายเรือคายัคครั้งนี้ ถือเป็นการออกกำลังกาย และยังได้ผ่อนคลาย สายตาได้ชมความงดงามของธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกถวิลหา

เส้นทางสุดท้ายของวันนี้หลังจากพายเรือเสร็จแล้ว เราก็เดินทางต่อด้วยเรือหางยาวเพื่อไปชมแหลมจมูกควายสัมผัสท้องทะเลกระบี่ในอีกมุมกับความแข็งแรง สวยงามของธรรมชาติ การท่องเที่ยวด้วยเรือคายัคมุ่งไปข้างหน้าหรือถอยหลังก็ด้วยแรงกายแรงใจ แหลมจมูกควาย Nose Buffalo Cape at Krabi จังหวัดกระบี่ พนังหินเป็นช่องที่เกิดจากการพัดผ่านของกระแสลมจนเกิดเป็นลักษณะที่แปลกตา ความงดงามถือว่าเป็น Unseen กระบี่จุดหนึ่ง