 วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568
                วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568
             
								
21 ต.ค. 2563 นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวในงานเสวนา “การเปลี่ยนแปลงระบบอาหาร ปัจจัยทางสังคม (เมือง) กำหนดสุขภาพ และ การลดโรค NCD” ที่ รร.ที.เค.พาเลช ย่านหลักสี่-แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ตอนหนึ่งระบุถึงปัญหาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่า โครงสร้างการปกครองของรัฐไทยนั้นรวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลางแต่มีการแบ่งแยกอำนาจ มีหน่วยงานมากกว่า 30 กรม รวมถึงมีหน่วยงานส่วนภูมิภาคที่รับผิดชอบในส่วนของจังหวัด
ขณะที่การกระจายอำนาจไปยัง อปท. หลากหลายรูปแบบนั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งปัจจุบันมีทั้งเทศบาลเมือง เทศบาลนคร เทศบาลตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) รวมถึงเขตปกครองพิเศษ 2 แห่ง อย่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา โดยตนตั้งข้อสังเกตว่า ในประเทศไทยมี อปท. แบบเทศบาลจำนวนมาก เนื่องจาก อปท. แต่ละประเภทถูกจำกัดขนาดพื้นที่ไว้ตามกฎหมาย 
ทำให้แม้ในเวลาต่อมาประชากรจะขยายตัวเพิ่มจำนวนขึ้น พื้นที่เทศบาลที่มีอยู่เดิมก็ไม่สามารถขยายตามได้ แต่เมื่อขยายเทศบาลไม่ได้แล้วประชากรขยายตัวล้นข้ามเข้าไปในฝั่ง อบต. ที่อยู่ติดกัน นานวันเข้าพอประชากรหนาแน่น อบต. นั้นก็ยกระดับขึ้นเป็นเทศบาล แต่ปัญหาคือเทศบาลที่เกิดใหม่นี้มักมีขนาดเล็ก ไม่สามารถดำเนินบริการสาธารณะเพื่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีแม้กระทั่งเทศบาลบางแห่งไม่สามารถซื้อรถขยะได้
“อันนี้คือปัญหาใหญ่ของระบบที่เรียกว่าแบ่งแยกแล้วปกครองของกระทรวงมหาดไทย อันนี้ต้องพูดแรงๆ เพราะถ้าไม่เปลี่ยนแปลงประเทศไทยก็จะไม่มีทางพัฒนาได้ เรื่องนี้ต้องเปลี่ยนแปลง ปล่อยให้มีจำนวนเทศบาล มีจำนวน อบต. มากขนาดนี้ไม่ได้ ในแง่รัฐศาสตร์มันดี แต่ในแง่เศรษฐศาสตร์เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวต่อไปว่า จากการเก็บข้อมูลเทศบาลกลุ่มตัวอย่างจำนวน 31 แห่ง พบว่า หลายเรื่องแม้จะกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเทศบาล แต่ในความเป็นจริงเทศบาลขนาดเล็กไม่สามารถทำได้ จึงต้องปล่อยให้ราชการส่วนภูมิภาคทำ แต่ราชการส่วนภูมิภาคก็ไม่สามารถทำได้อีก อีกประการหนึ่งคือในขณะที่เทศบาลต้องทำงานกับหน่วยงานราชการจำนวนมาก แต่ระบบราชการไทยก็ยังไม่สามารถบูรณาการได้อย่างแท้จริง 
 
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี