วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ชุมชนดั้งเดิม! รวมญาติชาวเลสร้าง ‘หลีเป๊ะ’ต้นแบบเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม

ชุมชนดั้งเดิม! รวมญาติชาวเลสร้าง ‘หลีเป๊ะ’ต้นแบบเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม

วันอังคาร ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 18.29 น.
Tag : ชาวเล ชุมชนดั้งเดิม ต้นแบบเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม วันรวมญาติ หลีเป๊ะ
  •  

ชาวเลเป็นกลุ่มคนดั้งเดิม(กลุ่มชาติพันธุ์หรือชนเผ่าพื้นเมือง)ที่อาศัยอยู่ชายฝั่งประเทศไทยก่อนมีประเทศสยาม  เท่าที่พอมีหลักฐานยืนยันพบว่าอยู่กันมามากกว่า 1,300 ปี โดยปัจจุบันมีชาวเลอยู่ประมาณ 14,000 คน ใน 5 จังหวัดอันดามัน  ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ “มอแกน” อาศัยอยู่ตามเกาะแก่งแถบระนอง และพังงา “มอแกลน” อาศัยอยู่ในจังหวัดพังงา และตอนเหนือของเกาะภูเก็ต. และ “อูรักลาโว้ย” มีเมืองหลวงที่บันทึกไว้ คือเกาะลันตา นอกจากนั้นกระจัดกระจายอยู่แถวภูเก็ต และสตูล

ชาวเลส่วนใหญ่เป็นเครือญาติเชื่อมโยงและไปมาหาสู่กันตลอด แต่ปัจจุบันเมื่อมีกฎหมายได้เกิดข้อจำกัดในการเดินทาง และการล่องเรือหากันเป็นเรื่องยากขึ้น สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ชาวเลจึงได้เสนอนโยบาย กับรัฐบาล ให้มีมติ คณะรัฐมนตรี 2 มิถุนา 2553 ให้ฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล ขึ้นโดยให้มีวันรวมญาติชาวเลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ประกอบกับการอยู่อาศัยของชาวเล ที่อยู่ริมทะเล เกาะแก่งเป็นหลัก โดยไม่ยึดถือครอบครองที่ดิน จึงทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น ที่อยู่อาศัยไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้เอกชนฟ้องร้องขับไล่ บางส่วนอยู่ในพื้นที่ของรัฐแต่กลับเข้าไม่ถึงการพัฒนา บางส่วนอยู่ตามเกาะแก่งแต่หากินไม่ได้เพราะติดระเบียบกฎหมาย และกติกาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว  สถานการณ์เหล่านี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเบียดขับกลุ่มชาติพันธุ์โดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม


ชุมชนชาวเล "อิซักกาอู้" หรือ"สังกาอู้" ชุมชนนี้ตั้งอยู่ ม.7 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ พวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้มาก่อนจะกลายเป็นเส้นทางการค้าทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ ถือว่าเป็น "เมืองหลวง" ของชาวอูรักลาโว้ย เพราะเป็นถิ่นแรกๆ ที่มีการตั้งถิ่นฐานอย่างถาวร และเป็นชุมชนที่มีญาติพี่น้องทยอยกันเข้ามาอยู่เป็นชุมชนใหญ่ จากคำบอกเล่าของผู้อาวุโส และจากชื่อภูมินามบริวณรอบหมู่เกาะลันตาที่เป็นภาษาอูรักลาโว้ย ล้วนบ่งบอกว่าชาวเลเป็นกลุ่มชาติพันธุ์แรกๆ ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ประมาณ 500 ปีก่อน. แต่ด้วยวิถีเร่ร่อนหากินทางทะเลที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โดยไม่มีการจับจองพื้นที่เพื่อตั้งถิ่นฐานถาวร อาศัยพักพิงชั่วคราวตามชายฝั่งทะเลเฉพาะช่วงฤดูมรสุม เมื่อกลับมาแหล่งเดิมจึงมักถูกคนกลุ่มอื่นเข้ามายืดครอง ชาวอูรักลาโว้ยจึงต้องหาแหล่งพักพิงใหม่ไปเรื่อยๆ ชาวอุรักลาโว้ยเรียกเกาะลันตาว่า "ชาตั๊ก"

 

 

แต่ต่อมาชาวอูรักลาโว้ยทยอยย้ายจากหัวแหลมมาที่นี่ ตั้งแต่ประมาณ พศ. 2360 หรือนับได้ประมาณ 8 ชั่วอายุคนมาแล้ว เนื่องจากเป็นถิ่นอาศัยมานาน ชาวเลจึงกระจายตัวไปอยู่อาศัยและทำมาหากินรอบเกาะ และมีพิธีสำคัญคือ งานลอยเรือที่ชุมชนต่างๆ จะรวมตัวฉลองร่วมกัน

ปัจจุบันพื้นที่ธรรมชาติบริเวณนี้ของเกาะลันตาค่อยๆถูกจับจองสร้างเป็นสถานที่รับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามามากขึ้นๆ ทุกปีชาวอูรักลาโว้ยที่นี่ได้เคยประกาศเขตวัฒนธรรมพิเศษ (บริเวณศูนย์วัฒนธรรมชาวเลสังกาอู้)​ ตามมติครม.เพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล 2 มิถุนายน 2553 โดยมีบ้านร็องเง็งและพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวของชุมชน ส่วนด้านการรองรับการท่องเที่ยว

ขณะที่ชาวเล “เกาะหลีเป๊ะ” เป็นชุมชนดั้งเดิม ที่อาศัยอยู่บนเกาะ มานานกว่า 150 ปี ก่อนสมัยในหลวงรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการแบ่งอาณาเขตประเทศสยามในขณะนั้น ข้าหลวงแห่งประเทศอังกฤษ เป็นคนกลางในการปักปันเขตแดนประเทศสยาม กับประเทศมาเลเซีย

“เราอยู่ประเทศสยาม” คือคำตอบของชาวเลบนเกาะในยุคนั้น ที่บันทึกไว้ในหอจดหมายเหตุ จับใจความได้ว่า เราได้เกาะหลีเป๊ะเป็นของประเทศไทยมาถึงปัจจุบัน เพราะการที่มีคนบนเกาะอาศัยอยู่ แต่วันนี้ชาวเลเกาะหลีเป๊ะกว่า 125 ครัวเรือน กลับไม่มีที่อยู่อาศัยเลย ไม่มีสิทธิในที่ดิน ส่วนท้องทะเลก็เป็นไปเพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลัก ชาวเลได้แค่หากินประทังชีวิตด้วยการทำลอบ ตกปลา ปัญหาคุณภาพชีวิตชาวเลที่นี่ย่ำแย่ลงมาก จากการพัฒนาการท่องเที่ยว ทั้งการแย่งชิงที่ดิน การฟ้องร้องขับไล่ การข่มขู่คุกคาม การใช้ช่องทางกฎหมายแบ่งปันที่ดิน แย่งชิงด้วยกลวิธีต่างๆ ซึ่งชาวเลไม่สามารถรู้เท่าทันจึงสูญเสียที่ดินไปเกือบหมด

งานรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล ครั้งที่ 11 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2563 มีเป้าหมาย ที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ที่ห่างไกล เราต้องการสื่อสารกับผู้บริหารนโยบายประเทศ   ให้เห็นปัญหาชาวเล เรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวเล การบันทึกข้อตกลงความร่วมมือที่จะทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ เพื่อเป็นโมเดล ในการสร้างความร่วมมือขับเคลื่อนและผลักดันกฎหมาย ส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธ์ ร่วมกัน โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย

 

 

1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)เป็นประธานจัดงาน และบันทึกความร่วมมือในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล ตามมติคณะรัฐมนตรี 2553  โดย ทส.ยังเป็นเจ้าภาพร่วมจัดงาน ซึ่งกรมอุทยานฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  สนับสนุนพาเครือข่ายเข้าร่วมงาน

2.รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ลงมาร่วมงาน และเป็นเจ้าภาพร่วม พร้อมบันทึกความร่วมมือในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลและขับเคลื่อน เขตคุ้มครองทางวัฒนธรรมชาวเล

3.ศูนยฺมนุษยวิทยาสิรินธร เป็นเจ้าภาพหลัก ในการประสานหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน ศิลปิน ลงพื้นที่ และการสนับสนุนการเตรียมการจัดงานต่างๆ ผ่าน มูลนิธิชุมชนไท และบันทึกความร่วมมือในการเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายชาติพันธ์

4.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(อค์การมหาชน) ร่วมสนับสนุนในการจัดงาน และลงบันทึกความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเลอย่างยั่งยืน ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัยและอื่นๆ

5.สถาบันวิจัยสังคมจุฬาฯเป็นภาคีด้านวิชาการ และบันทึกความร่วมมือในการจัดทำข้อมูลทางวิชาการ เพื่อการขับเคลื่อเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรมร่วมกัน

 

 

6.มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ จะประสานเครือข่ายกะเหรี่ยงเข้าร่วมงาน และบันทึกความร่วมมือการเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายกะเหรี่ยง ในพื้นที่ภาคเหนือ และอื่นๆ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม

7. มูลนิธิชุมชนไท เป็นองค์กรเลขาในการจัดงานสนับสนุนเครือข่ายชาวเล และร่วมเป็นเลขาขับเคลื่อนนโยบายต่างๆพร้อมการสนับสนุนกระบวนการยกร่างกฎหมายคุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ แบบมีส่วนร่วม และเสริมความเข้มแข็งเครือข่ายชาวเลในอันดามัน

8.เครือข่ายชาวเลอันดามัน ถือเป็นเจ้าภาพหลัก ที่ต้องปฎิบัติการขับเคลื่อทุกอย่างให้เป็นจริง  โดยลงบันทึกความร่วมมือไว้ด้วยกัน

9.เครือข่ายกะเหรี่ยงในฐานะภาคีขับเคลื่อนกฎหมายเข้าร่วมงานและบันทึกความร่วมมือในการขับเคลื่อนร่วมกัน ส่วนสำนักงานกรรมกาสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลและสนับสนุนสนับสนุนงบประมาณจัดงาน โดยสก.สว.ทำหน้าที่สนับสนุนงานวิจัยชุมชนเพื่อเตรียมเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม

กิจกรรมในงาน รัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวงและคณะ จะลงพื้นที่ รับฟังปัญหา และสภาพพื้นที่จริงตั้งแต่เช้าวันที่ 28 พฤศจิกายน ก่อนชมนิทรรศการและเปิดงานอย่างเป็นทางการ. จากนั้น ภาคีทั้ง 9 องค์กรจะลงบันทึกความร่วมมือกัน ภายใต้เป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งการศึกษา รวบรวมข้อมูล วิชาการ เพื่อแก้ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์

เครือข่ายชาวเลอันดามันจากทุกจังหวัดเข้าร่วมงานนี้กว่า 300 คน เครือข่ายกะเหรี่ยง เครือข่ายชุมชน เครือข่ายภาครัฐ และส่วนต่างๆของสังคม พร้อมเข้าร่วมเรียนรู้มากกว่า 300 คน. และชาวเลเกาะหลีเปะ อีก 1,200 คน ร่วมเป็นเจ้าภาพ

ไมตรี จงไกรจักร, วิทวัส  เทพสงค์

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

สิ้นสุดทางสงสัย! 'ทนายไพศาล'ไขปมเข้าร่วม ปชป. เชื่อมั่น 'อภิสิทธิ์' คนดีมีสัจจะวาจา

'ธรรมนัส'ดันสินค้าเกษตรไทยโกอินเตอร์ ลงนามพิธีสารไทย-จีน เปิดตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์จากผึ้ง

แฉผู้พันเขมรสั่งวาง'ทุ่นระเบิด PMN-2' พื้นที่ช่องบก ก่อนทหารไทยเหยียบ (คลิป)

ฝืดคอ!!! 'ช้างศึก'หืดทุบ'ลอดช่อง' 3-2

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved