เรื่อง 'พระเวสสันดรบริจาคลูกเมียเป็นทาน' หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

เรื่อง 'พระเวสสันดรบริจาคลูกเมียเป็นทาน' หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

วันจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 19.53 น.

"พระเวสสันดรบริจาคลูกเมียเป็นทาน" ตัดลอกจากหนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม" ฉบับพิเศษ เล่ม ๗ หน้า ๘๗-๙๐ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง) อ่าน เรื่อง 'ผู้ชายผู้หญิง' ปรารถนาพุทธภูมิ : หลวงพ่อฤๅษี ตอบปัญหาธรรม

ผู้ถาม : “หลวงพ่อเจ้าขา ลูกดูโทรทัศน์เรื่อง พระเวสสันดร ดูแล้วก็สงสารจับจิตจับใจ นึกถึงพระพุทธเจ้าว่าจะบำเพ็ญบารมีทั้งที ทำไมถึงทำให้ภรรยาเดือดร้อน ลูกชายเดือดร้อน ลูกสาวเดือดร้อน ทานบารมี ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เราจะได้ผลสมบูรณ์แบบหรือเปล่าเจ้าคะ?”


หลวงพ่อ : “ได้…สมมุติว่าคนอื่นเขาเก็บสตางค์ไว้แสนบาท เราก็ขโมยไปแสนบาท เราก็มีความสุข แต่เจ้าของสตางค์ก็เดือดร้อน ใช่ไหม…เรื่องนี้เป็นของ พระโพธิสัตว์ ถ้าหากว่าไม่ได้บริจาคลูกเมียให้เป็นทาน ไม่สามารถจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณได้ มีความจำเป็น

ความจริงเรื่องความเดือดร้อนเป็นกฎของกรรมเก่า แต่ความจริงเทวดาเขาช่วยอยู่แล้วนะ แต่เรื่องกฎของกรรมไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ อย่าง กัณหา และ ชาลี ท่านยกให้ ชูชก ใช่ไหม…ความจริงชูชกควรจะถนอมน้ำใจเด็ก กลับมัดมือแล้วก็เฆี่ยนตี มันเป็นกฎของกรรมเดิม อยากทราบไหมล่ะ…?”

ผู้ถาม : “แหม…ดีครับ ยังไม่มีใครเล่าเลยครับ”

หลวงพ่อ : “เจ้าของปัญหาต้องจ่ายมา ๑๐๐ บาท”

ผู้ถาม : “อ๋อ…ยกครูหรือครับ…?”

หลวงพ่อ : “ไม่ใช่ยกครู ใส่ย่ามครู ยกครูไม่ไหว ดีไม่ดีครูคอหักตาย... คือกรรมเก่า สมัยหนึ่งทั้งกัณหาและชาลี (เวลานี้ท่านไปนิพพานหมดแล้วนะ) ทั้งสองท่านเคยเกิดเป็นลูกชาวนา แล้วก็คุณเตี่ยชูชกเป็นควายแก่ ทีนี้พ่อแม่ตกกล้าไว้ เจ้าควายแก่ก็ย่องมากินเสมอ พ่อแม่ก็ยกหน้าที่ให้ลูกเล็กทั้งสองคอยไล่ควาย ไล่ไปเผลอๆ ก็มาใหม่ พ่อแม่ก็ดุหลายครั้งเข้า ก็นัดกันว่า ถ้าพรุ่งนี้ควายมากินข้าวกล้าใหม่ จะเอาไปจับผูกกับต้นไม้ไว้แล้วก็เฆี่ยนตี ก็ทำตามนั้นจริงๆ ตีจนเป็นที่ชอบใจแล้วก็ปล่อยไป ไอ้กรรมอันนี้แหละ…ที่เข้ามาสนอง

แต่ว่านั่นเป็นกรรมของกัณหาและชาลีท่านนะ ไม่ใช่พระเวสสันดร แต่ว่าอาศัยที่พระเวสสันดรซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์จะเป็นพระพุทธเจ้า ก็เป็นปัจจัยให้เทวดาต้องเข้ามาประคับประคองเด็กทั้งสอง ตอนชูชกหนีขึ้นไปนอนบนยอดไม้ก็ปล่อยเด็กทั้งสองไว้ข้างล่าง เทวดาก็แปลงกายเป็นพระเวสสันดรและพระนางมัทรีเข้ามาประคับประคอง และหลังจากนั้นเทวดาก็นำเข้าไปหาพระเจ้าปู่ ดลใจทำให้ชูชกหลงป่า ส่วนพระนางมัทรีท่านก็ยกให้พราหมณ์ คือ อินทรพราหมณ์ รู้จักไหม…?”

ผู้ถาม : “ไม่รู้จักครับ”

หลวงพ่อ : “อินทรพราหมณ์ พราหมณ์ชื่อ พระอินทร์ พระอินทร์ท่านแปลงมา ท่านพิจารณาเห็นว่า พระนางมัทรีไม่คู่ควรกับคนอื่น เพราะว่าอาศัยเป็นคู่บารมีของพระเวสสันดรมานาน จึงแปลงเป็นพราหมณ์มาขอพระนางมัทรี เมื่อพระเวสสันดรยกให้ ท่านก็แสดงตัวเป็นพระอินทร์ แล้วบอกว่า เวลานี้พระนางมัทรีเป็นของท่านแล้ว ขอฝากไว้ก่อน ถ้าจะยกให้ใครก็ต้องขออนุญาตท่านก่อน ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร”

ผู้ถาม : ก็ตกลงว่าเรื่องนี้จะไปโทษว่า สร้างบารมีให้คนอื่นเดือดร้อนไม่ได้ เขาเดือดร้อนเพราะกรรมของเขา”

หลวงพ่อ : “ใช่…ที่พระนางมัทรีต้องสลบ ก็เพราะอาศัยตีพระเวสสันดรในสมัยที่เป็น นกกระจาบ”

ผู้ถาม : “โอ้โฮ…เคยตีกันมาก่อนหรือนี่!”

หลวงพ่อ : “ใช่…เคยตุ้บตั้บกันมาก่อนเหมือนกัน”

ผู้ถาม : “แหม…เห็นแจ๋วๆ อย่างนี้ ก็มีเหมือนกันนะ”

หลวงพ่อ : “มี…สมัยก่อน”

ผู้ถาม : “ฉะนั้น ลูกหลานที่ตุ้บตั้บกันสมัยนี้ ก็เพราะตามรอยยุคลบาทนะ”

หลวงพ่อ : “ดีนะ…รักษาคุณความดีของบิดามารดาไว้ เป็นลูกตัญญูรู้คุณปฏิบัติตามท่านได้”

ผู้ถาม : “บางรายกตัญญูแรงหน่อย เล่นเอาไม้ตีพริกตีหัวแบะเลย”

หลวงพ่อ : “นั่นน่ะดี หัวน่ะ…มันรับน้ำหนักทุกอย่าง แดดมาก็ร้อน น้ำค้างตกก็รดหัวก่อน ไม่เคยกินกับข้าวเลย วันนั้นได้กินกับข้าว ต้นกับข้าวเลยนะ”
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top