อธิบายชัดๆ!‘หมอแม่สอด’ไล่ทีละขั้น‘คลัสเตอร์ตลาดกลางแม่สอด’ บทสรุปที่น่าสนใจกับโจทย์ใหญ่ที่กำลังเผชิญ
16 กุมภาพันธ์ 2564 เพจเฟซบุ๊ก “หมอแม่สอด” โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 โดยเฉพาะกรณี “คลัสเตอร์ตลาดกลางแม่สอด” มีเนื้อหาดังนี้...
เรื่องราวของคลัสเตอร์ตลาดกลางแม่สอด
สวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวแม่สอด ขออภัยที่หมอหายตัวไปนานนะคะ
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 ในแม่สอด แถมจำนวนผู้ป่วยก็มาก การสืบสวนก็ซับซ้อน จนใจที่จะมาเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ
มาวันนี้เราสามารถปิดไปหนึ่งคลัสเตอร์ได้ จึงจะมาสรุปรวบยอดเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังค่ะ
เนื่องจากจะมีการบอกชื่อสถานที่ ทางแอดมินเพจไม่ได้มีเจตนาไม่ดีต่อสถานที่นั้นๆ แต่การให้ความรู้ประชาชนจำเป็นอย่างมากที่ต้องบอกความจริง จึงขออภัยพื้นที่และชาวบ้านในพื้นที่ไว้ล่วงหน้าค่ะ
ย้อนไปตั้งแต่เหตุคุณพยาบาล รพ.แม่สอด ติดเชื้อ ทุกท่านคงจำได้ว่า เราพบเชื้อในคุณตาผู้ป่วยสูงอายุท่านหนึ่ง ที่เข้ามารับการรักษาในรพ.ด้วยเรื่องอื่น
เราจำต้องตามคุณตา ไปดูว่าติดมาจากไหนอย่างไร
ในครอบครัวใหญ่ที่อยู่ด้วยกันกับคุณตา มีผู้ติดเชื้อเฉพาะที่ยังแอคทีฟ (เพิ่งเป็นสดๆ) ณ เวลาตรวจ 11 ราย เราขยายผลตรวจแอนติบอดี้ (ตรวจภูมิ ถ้าภูมิขึ้นคร่าวๆ คือติดแล้วหายแล้ว) พบอีก 2 ราย
2 รายนี้ จึงน่าจะเป็นผู้ป่วยที่ “เก่าแก่” ที่สุดในครอบครัว
แต่ผู้ป่วยทั้งสองรายไม่ได้ไปไหน อยู่แต่ในไทยแน่นอน การติดเชื้อจึงน่าจะเกิดในไทยใกล้ๆนี้
เราสืบสวนต่อไป พบว่า ทั้งคู่เชื่อมโยงกับตลาดศรีมอยและพาเจริญ เราจึงตามไปต่อค่ะ
ที่ตลาดทั้งสองแห่ง เป็นจุดที่มีผู้คนเข้าออกมาก เราปิดตลาดตรวจหาเชื้อ ตรวจไปทั้งหมดทั้งสิ้น 3,212 คน
(ทีมงานสุดยอดมากๆ)
และพบติดเชื้อจำนวน 36 ราย
เรานำ 36 รายนี้มาลงแผนที่ดูความเชื่อมโยง พบว่าทุกคน กระจายตัวอยู่รอบห้องน้ำของตลาด หรือมีประวัติการใช้ห้องน้ำชัดเจน ทั้งยังมีครอบครัวของคนเฝ้าห้องน้ำร่วมอยู่ด้วย
ทีมงานจึงลงสำรวจห้องน้ำและพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำ
พบว่าจุดล้างมือของห้องน้ำไม่เหมาะสม เมื่อคนเข้าห้องน้ำก็ไม่ค่อยล้างมือ โดยทางการแพทย์แล้ว นี่ถือเป็นจุดสำคัญที่สุดจุดหนึ่ง
ทางทีมงานได้แจ้งกับทางผู้จัดการตลาดแล้ว คาดว่าจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นในเร็วๆนี้
อย่างไรก็ตาม เราพบอย่างชัดเจนเลยว่า ในกลุ่มคนที่เคร่งครัดกับการสวมแมสก์ ล้างมือ แม้จะใช้ห้องน้ำหรือใกล้ชิดกับคนไข้ “กลับไม่มีใครติดเลยสักคนเดียว”
จากนั้นเรายังไม่หยุด เราตามผู้ป่วยทุกคนต่อไปที่บ้านของเขา
พบว่าครอบครัวของคนในตลาด มีส่วนหนึ่งอาศัยในเขตไม่แออัด จำนวนนี้ “ไม่มีใครติดเชื้อเลย” (สอดคล้องกับสิ่งที่เราพบที่ตลาด ถ้ายกการ์ดเจอคนไข้ก็ไม่ติด)
อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยสองรายที่อาศัยในห้องแถวซึ่งค่อนข้างแออัดในชุมชนอันซอร์ ห้องแถวแห่งนี้มีคนอยู่ 19 คน ด้วยสภาพแวดล้อมที่จำกัดจำเขี่ย การอยู่อาศัยเช่นนี้มีสุขลักษณะที่ไม่ดีนัก เราจึงทำการขอตรวจทุกคน และพบว่าจาก 19 คนนี้ มีติดเชื้อถึง 13 คน (ถ้ารวมผู้ป่วยที่เจอตอนแรก 2 คน คือ 15 ใน 19 คน) ซึ่งถือเป็นร้อยละที่สูงมากๆ
นั่นทำให้เราเริ่มสงสัยกลับไปว่า หรือแท้จริงแล้วมีอีกกลุ่มก้อนการระบาดในอันซอร์
เราจึงขอปูพรมตรวจทันที
จากประชากรที่อยู่ในวงต้องสงสัย 454 คน เราตรวจทุกคนและพบอีก 14 คน เราจึงทำการปิดชุมชนอันซอร์ทันที
และตามจาก 27 คน (13+14) ไปยังทุกคนที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์ด้วย ไม่พบว่ามีการติดเชื้อเพิ่มเติม เว้นกรณีซุ้มไก่ ซึ่งจะนำไก่มาประชันความงามกัน มีลักษณะไม่สวมแมสก์ไม่ล้างมือขณะมีกิจกรรม จึงพบคนติดต่อจากซุ้มไก่ 2 คน เราได้ตามต่อไปยังคนใกล้ชิดของทั้งคู่ โชคดีที่คนรอบข้างของพวกเขายกการ์ด จึงไม่มีการติดต่อต่อ
จากเรื่องราวนี้ จะเห็นได้ชัดเจนมากว่า สิ่งสำคัญไม่ใช่สถานที่ แต่คือ “พฤติกรรมของผู้คน”
การสวมแมสก์ ล้างมือ รักษาระยะห่าง ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นหัวใจของการควบคุมการระบาด
โจทย์สำคัญของเมืองแม่สอดในตอนนี้ คือ การทำอย่างไรให้ทุกคนสามารถดำรงชีวิตอย่างถูกสุขลักษณะได้ เข้าถึงน้ำสะอาด เข้าถึงหน้ากากอนามัย เข้าถึงความรู้ตามควร ไม่เกี่ยงเชื้อชาติ ศาสนา หรือสถานะการเงิน
นั่นคือโจทย์ใหญ่ที่เรากำลังเผชิญค่ะ
ทั้งนี้ก่อนเปิดชุมชนอันซอร์ จะมีการตรวจปูพรมอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจ ขณะนี้ยอดรวมการตรวจของแม่สอดพุ่งขึ้นไปหลายหมื่นเลยค่ะ เจ้าหน้าที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ดังนั้นขอให้ทุกคนวางใจ ที่เงียบๆ ไปไม่ใช่อะไร คือไปทำงานนั่นเองค่า
รักทุกคนนะคะ
ป.ล.สำหรับญาติของคุณตาท่านแรกที่จะไปเยี่ยมคนที่อุ้มเปี้ยม ทางปกครองอุ้มเปี้ยมสกัดได้ก่อนเข้าเขต ในอุ้มเปี้ยมจึงยังเป็นเขตปกติค่ะ
ป.ล.2 ชื่นชมทางผู้นำศาสนานะคะ ที่ได้มีการงดการละหมาดรวมกันไว้ก่อนแล้ว เมื่อไม่มีการรวมกลุ่มกัน จึงควบคุมการระบาดได้ง่ายขึ้นมากค่ะ
ป.ล.3 ถัดไปจะมาเล่าคลัสเตอร์คลังสินค้าค่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี