‘หมอแม่สอด’อธิบาย‘คลัสเตอร์คลังสินค้า’ ตอกย้ำ‘รักษาระยะห่าง’ทำไมช่วยชนะโควิด?
18 กุมภาพันธ์ 2564 เพจเฟซบุ๊ก “หมอแม่สอด” โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเฉพาะกรณี “คลัสเตอร์คลังสินค้า” มีเนื้อหาดังนี้...
เรื่องราวของคลัสเตอร์คลังสินค้า
กลับมาพบกันอีกครั้ง รอบนี้จะมาเล่าเรื่องคลัสเตอร์คลังสินค้าชายแดนค่ะ
คิดว่าหลายๆท่านคงพอได้ยินข่าวลือเรื่องคลัง 9 ถูกปิด วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องนี้กันค่ะ
เรื่องเริ่มขึ้นจากคลัง 9 ซึ่งเป็นคลังสินค้าใกล้ชายแดนบ้านเรา สังเกตว่ามีคนเข้าออกในคลังของตนค่อนข้างมาก
ทางคลัง 9 เองมองว่า แม้ตนจะเป็นเอกชน แต่การช่วยกันสอดส่องแท้จริงเป็นหน้าที่ของทุกคน เมื่อเห็นคนเข้าออกมากก็ไม่สบายใจ จึงทำการสุ่มพาตัวเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง มาขอตรวจคัดกรองโควิดกับทาง รพ. ผลออกมาพบว่าเป็นบวก 8 ราย
เมื่อเป็นบวกอย่างไม่คาดคิด เชื้อมาทางไหนไม่อาจทราบได้ ที่เราทำได้คือหยุดการแพร่ระบาด จำกัดวงคลัสเตอร์นี้ให้แคบที่สุดในทันที
ด้วยความร่วมมือของคลัง 9 เราสามารถติดตามเจ้าหน้าที่และผู้ติดต่อประจำของคลัง 9 “ทุกราย” มาตรวจโควิดและกักกันโรคไว้ หลังการลุยพื้นที่ตรวจถึงกว่า 300 ราย พบเป็นบวกอีก 31 คน
ขณะนี้ผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในรพ. ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ใน LQ เรียบร้อยแล้วค่ะ
อย่างไรก็ดี เมื่อพบเคสก็ต้องขยายผลต่อ
หากใครชำนาญพื้นที่ นึกภาพตามคงพอเดาออก คลัง 9 นั้นอยู่ติดชายแดน เยื้องกันกับบ่อนฝั่งพม่าที่เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่ผ่านมานั่นเอง
นั่นคืออาจมีการผ่านเข้าออกของเชื้อโดยที่เราไม่ทราบ ผ่านพื้นที่ตรงจุดนั้นก็เป็นได้
เราตั้งเป้าเร่งขยายผลพื้นที่เลียบชายแดนตรงส่วนนั้นทันที
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง โรงงานท็อปฟอร์มก็ได้ติดต่อเข้ามา
โรงงานท็อปฟอร์มเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีเจ้าหน้าที่ต่างชาติจำนวนมาก ตัวโรงงานถือเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน เมื่อเกิดเหตุโควิดระบาด ก็มีมาตรการ bubble and seal ที่ดี
(Bubble and Seal คือมาตรการที่จำกัดการเข้าออกของคนในโรงงาน ให้กินอยู่หลับนอนแต่ภายใน พื้นที่โรงงานจึงกลายเป็นระบบปิด ถือเป็นพื้นที่สะอาด การแพร่ระบาดเกิดขึ้นได้ยากมาก)
แต่ท็อปฟอร์มมีปัญหาอยู่จุดหนึ่ง
เมื่อทำ bubble and seal ที่พักในโรงงานจริงๆกลับไม่พอ จำต้องแบ่งบางส่วนออกมาอยู่หอข้างนอก ซึ่งหอนั้นอยู่ใกล้คลัง 9
เราลงตรวจเชิงรุกในหมู่พนักงานท็อปฟอร์มที่พักอาศัยใกล้คลัง 9 และพบเป็นบวกอีก 1 ราย
แต่ถึงแม้จะเป็นบวกเพียง 1 ราย แต่เมื่อพบเคสก็ต้องสืบสวนต่อ เราทำการพลิกแผ่นดินค้นหาผู้ป่วยรายต่อไปทันที
แต่เมื่อทีมงานลงสำรวจพื้นที่ภายใน พบว่าท็อปฟอร์มมีมาตรการรักษาระยะห่างที่เข้มข้นมาก สวมแมสก์ ล้างมือ ลดพูดคุย ยืนห่าง เมื่อตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วยรายนี้ในโรงงาน ก็ไม่พบใครติดอีกเลยแม้แต่คนเดียว!
ที่หมอมาเขียนแบบนี้ไม่ใช่หน้าม้าท็อปฟอร์มนะคะ (เค้าผลิตอะไรยังไม่รู้เลย 555) แต่เพราะทีมสอบสวนเมื่อลงสอบแล้วเห็นว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ท็อปฟอร์มเป็นโรงงานใหญ่มีเจ้าหน้าที่มาก และส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ แต่กลับสามารถจัดการให้รักษาระยะห่างได้อย่างดี
มาตรการรักษาระยะห่าง คืออาวุธสำคัญที่จะช่วยให้เราชนะโควิดได้ค่ะ
ขณะนี้เราได้ขยายผลตรวจเชิงรุกไปยังพนักงานท็อปฟอร์มทุกคน ที่มีหออยู่นอกโรงงานอีกนับร้อยราย ผลเป็นลบทั้งหมดค่ะ
ขณะนี้เราปิดคลัสเตอร์คลังสินค้าแล้ว แต่อาจมีผู้ป่วยเพิ่มจากกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงที่เรากักกันไว้ จุดนี้ไม่ต้องตกใจนะคะ
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากคลัสเตอร์คลังสินค้านี้ คือการร่วมมือร่วมใจ ของทั้งภาครัฐและเอกชน ในการต่อสู้กับโควิด-19 ที่ค่อยๆ เยื้องกรายเข้ามา และการรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัด ก็ยังเป็นจุดสำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้เรารอดจากโรคร้ายได้ค่ะ
ป.ล.สำหรับคลัสเตอร์ใหม่ ขณะนี้กำลังสอบสวน แต่แนวโน้มดีขอให้อดใจรอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี