วันนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” จะพาไปดูความน่ารักของสามเณรน้อย “น้ำมนต์” วัย 5 ขวบ จาก จ.ภูเก็ต ที่คุณพ่อคุณแม่นำมาบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนวัดไทรงาม จ.สงขลา และเป็นสามเณรน้อยรุ่นเล็กที่สุดอายุน้อยที่สุด ในขณะที่รุ่นเดียวกัน อายุ 11-15 ปี เดินถือบาตรที่มีขนาดเดียวกับพี่ๆสามเณร แทบอุ้มบาตรไม่ไหว แต่ก็ยังสู้เดินรับบิณฑบาตจากญาติโยม จนเป็นขวัญใจของญาติโยม แม้อายุจะน้อยเมื่อครองจีวรเป็นสามเณร จึงต้องเข้มแข็งและต้องช่วยตัวเอง ยกเว้นการห่มจีวรที่ยังทำไม่เป็น ซึ่งจะมีพระพี่เลี้ยงคอยดูแลให้
สามเณรน้อยน้ำมนต์ หรือเด็กชายธนโชติ นาคช่วย วัย 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ที่โรงเรียนในจังหวัดภูเก็ต เป็นบุตรของนายโชติภัทร นาคช่วย และนางเฝิงฉิง หนาน (Feng Qing Nan) เนื่องจากนายโชติภัทร ซึ่งเป็นคุณพ่อของสามเณรน้ำมนต์ ที่ผ่านมาเคยมาบรรพชาอุปสมบท ที่วัดแหลมทรายจังหวัดสงขลา โดยมีพระครูวิรัตน์ธรรมโชติ เจ้าคณะอำเภอเมืองสงขลา เป็นอุปัชฌาย์ และหลังจากลาสิกขาแล้ว ก็กลับไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ต และก็ยังเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาตลอดมา โดยถือเป็นศิษย์ของเจ้าคณะอำเภอเมืองสงขลา เมื่อทราบข่าวว่า มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนวัดไทรงามที่จังหวัดสงขลาจึงได้ประสานเจ้าคณะอำเภอเมืองสงขลา ขอนำบุตรชาย วัย 5 ขวบ มาทำการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนวัดไทรงามในครั้งนี้ด้วย ทำให้การบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนวัดไทรงาม จึงมีสามเณรเพิ่มขึ้นอีก 1 รูป เป็น 61 รูป คือ สามเณรน้อยน้ำมนต์ วัย 5 ขวบ คนนี้นี่เอง
สำหรับการเดินรับบิณฑบาต ของสามเณรน้อยน้ำมนต์ จะต้องถือบาตร ขนาดเดียวกับสามเณรพี่ๆ 60 รูป ซึ่งสามเณรน้ำมนต์ก็ถือได้ แม้ว่า บาตรจะมีขนาดใหญ่ กว่ารอบแขนของสามเณรก็ตาม โดยมีพระพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา แต่สามเณรน้อยน้ำมนต์ ก็เดินรับบิณฑบาตจากญาติโยมได้ จนเสร็จสิ้นเหมือนกับสามเณรพี่ๆ ในขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นขวัญใจของญาติโยมที่มาร่วมทำบุญตักบาตร ติดตามถ่ายภาพอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากหน้าตาของสามเณรน้ำมนต์ วัย 5 ขวบ มีความน่ารักน่าเอ็นดูใครเห็นก็ชอบทุกคน
ส่วนโยมพ่อโยมแม่ของสามเณรน้ำมนต์ก็มาร่วมตักบาตรด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อโยมพ่อโยมแม่เรียกสามเณรน้ำมนต์เพื่อใส่บาตร สามเณรน้ำมนต์ก็เดินหน้าตาเฉย เข้าไปให้โยมพ่อโยมแม่ใส่บาตรโดยไม่มีการงอแงแต่อย่างใด รับบิณฑบาตเสร็จจากโยมพ่อโยมแม่ ก็เดินบิณฑบาตต่อไป จนสุดแถว มีโยมพ่อโยมแม่ คอยดูแลอยู่ห่างๆ เพื่อให้สามเณรน้อยน้ำมนต์ อยู่กับพระพี่เลี้ยง และสามเณรพี่ๆที่คอยดูแล สามเณรน้ำมนต์อยู่เช่นเดียวกัน
นายโชติพัฒน์ เล่าเรื่องราวให้ทีมข่าวฯฟังว่า น้องน้ำมนต์ อายุ 5 ขวบ ที่นำมาบวชสามเณร ก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดี ให้เขามีกิจกรรมเสริมบ้าง ให้เขามีความรู้สึกรับผิดชอบตัวเอง ก็อยากให้เขามาปฏิบัติให้รู้ในสิ่งผิดชอบชั่วดี จากการทำดีบ้างให้รู้จักเข้าวัดเข้าวา ทำในสิ่งที่ดีๆ ก็ยังดีกว่า เล่นอยู่แต่หน้าจอมือถือโทรศัพท์ ก็อยากให้เข้ามาปฏิบัติในทางธรรมบ้าง
ส่วนในช่วงที่จะต้องฉันภัตตาหาร ก็จะมีพระพี่เลี้ยงคอยดูแล แต่สิ่งที่ สามเณรน้ำมนต์ยังทำไม่ได้ ก็คือเมื่อจีวร หล่นลงมาที่แขน ก็จะต้องให้พระพี่เลี้ยง เข้ามาช่วย และในขณะที่ฉันภัตตาหาร สามเณรน้ำมนต์ จะหยิบช้อนฉันอาหารเอง โดยมีพระพี่เลี้ยงจะคอยดูแลอยู่ห่างๆ เพื่อให้สามเณรน้ำมนต์ช่วยตัวเองตลอด เพียงแต่ต้องการอะไร ก็จะต้องบอก โดยมีโยมพ่อโยมแม่ คอยแอบดูอยู่ห่างๆ โดยไม่ให้เห็นตัว สำหรับการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนวัดไทรงาม จะเสร็จสิ้นในวันที่ 19 เมษายน 2564 เนื่องจากคุณพ่อมีอาชีพทำทัวร์ท่องเที่ยว ในช่วงนี้เจอโควิด--19 รอบใหม่ จึงต้องหยุดทำทัวร์นำเที่ยวไว้ก่อน และมีเวลามาคอยดูแลสามเณรน้ำมนต์ที่วัดไทรงามสงขลาได้ โดยไม่ต้องเดินทางกลับไปที่จังหวัดภูเก็ต
เนื่องจากโยมพ่อโยมแม่ของสามเณรน้ำมนต์ ก็มีความห่วงใยลูกเช่นเดียวกันกับโยมพ่อโยมแม่ ของสามเณรอื่นๆ โดยมี พระครูปลัดยอดโดม สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดไทรงามสงขลา ช่วยคอยดูแล สามเณรน้ำมนต์อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก เป็นสามเณรน้อย รุ่นแรก ของวัดไทรงาม ที่มีอายุน้อยที่สุด เพียง 5 ขวบเท่านั้น น่าจะเป็นสามเณรน้อยรูปแรกและรูปเดียวในประเทศไทย ที่มีอายุน้อยที่สุด ในการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ปี 2564 ในยุคโควิด-19 ที่จะต้องบันทึกเอาไว้ ด้วยความชื่นชม และความน่ารักของสามเณรน้อยน้ำมนต์อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี