วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568
เปิดประวัติ'พระอาจารย์คึกฤทธิ์' ผู้เผยแผ่พุทธวจนแห่ง'วัดนาป่าพง'

เปิดประวัติ'พระอาจารย์คึกฤทธิ์' ผู้เผยแผ่พุทธวจนแห่ง'วัดนาป่าพง'

วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568, 20.19 น.

14 กันยายน 2568  เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นชื่อ “พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล” พระนักเผยแผ่ธรรมะที่ได้รับความสนใจจากผู้ศึกษาพุทธศาสนาอย่างกว้างขวาง ด้วยแนวทางการสอนที่ยึดมั่นใน “พุทธวจน” หรือคำสอนของพระพุทธเจ้าจากพระไตรปิฎกโดยตรง ซึ่งมีจุดเด่นคือความชัดเจน เป็นระบบ เข้าใจง่าย และสามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

ปัจจุบัน พระอาจารย์คึกฤทธิ์จำพรรษาอยู่ที่วัดนาป่าพง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ธรรมะในแนวทางพุทธวจนที่มีผู้สนใจเดินทางมาศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง


รู้จัก “พระอาจารย์คึกฤทธิ์”

ข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก พุทธที่แท้จริง ระบุว่า พระอาจารย์คึกฤทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม ปีพุทธศักราช 2506 จบการศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหารและจบหลักสูตรนายร้อย จปร. รุ่น 33 ในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนอุปสมบท ท่านรับราชการทหารมียศสุดท้ายในชีวิตฆราวาสที่ พันตรี

จุดเปลี่ยนที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อท่านได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อศึกษาหลักธรรมจากพระไตรปิฎกโดยตรง แม้จะมีข้อมูลที่แตกต่างกันในเรื่องสถานที่และอายุที่บวช แต่ความมุ่งมั่นในการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่ออุทิศชีวิตให้กับการศึกษาและปฏิบัติธรรมนั้นเด่นชัด

วัดนาป่าพง ศูนย์กลางการเผยแผ่ “พุทธวจน”

วัดนาป่าพง ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 ที่อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก โดยมีจุดเริ่มต้นจากที่ดินซึ่งมารดาของพระอาจารย์ถวายให้ จากนั้นได้พัฒนาจนขึ้นทะเบียนเป็นวัดในเวลาต่อมา ปัจจุบันวัดนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเป็น “พุทธวจนธรรมสถาน” ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนที่เรียกว่า “พุทธวจน” โดยมีเครือข่ายวัดสาขาเกิดขึ้นในหลายจังหวัด รวมถึงการเผยแผ่ผ่านช่องทางสื่อหลากหลายรูปแบบ

“พุทธวจน” คืออะไร?
แนวทางหลักในการเผยแผ่ธรรมของพระอาจารย์คึกฤทธิ์คือ “พุทธวจน” ซึ่งท่านให้ความหมายว่าเป็น “หลักธรรมคำสอนจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าโดยตรง” ที่ถูกบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎก ท่านเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่คำที่แต่งขึ้นใหม่ในภายหลัง และมีแนวทางการสอนที่โดดเด่นคือ..
-ไม่ใช้อรรถกถา-ฎีกา มุ่งเน้นไปที่พระสูตรในพระไตรปิฎกโดยตรง
-อธิบายความตามต้นฉบับ ใช้วิธีอ่านพระสูตร, แปลตรง และอธิบายเชื่อมโยงบทต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยไม่ใช้ความคิดเห็นส่วนตัว
-เน้นหลักปฏิบัติ ให้ความสำคัญกับ ศีล สมาธิ ปัญญา มากกว่าพิธีกรรม
โดยการสอนเช่นนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ศึกษารู้จักตนเอง เห็นเหตุแห่งทุกข์ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้องตามหลักพุทธธรรม

จากการฟ้องร้องฉ้อโกงสู่การขอขมา
เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ชื่อของ “พระอาจารย์คึกฤทธิ์” ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก หลังปรากฏว่ามีอดีตศิษย์ฟ้องร้องในข้อหาฉ้อโกงจากเงินบริจาค รวมกว่า 515 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดพิมพ์หนังสือและเงินบริจาคซื้อที่ดินข้างวัด คดีนี้ถูกยื่นฟ้องในปี พ.ศ. 2560 และศาลได้รับฟ้องในปี พ.ศ. 2561

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี อดีตศิษย์ที่ยื่นฟ้องได้ทำพิธีขอขมาและถอนฟ้องพระอาจารย์คึกฤทธิ์และพวก โดยได้กล่าวขอโทษและยอมรับว่า “ความผิดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริงทั้งสิ้น…การดำเนินคดีทุกเรื่องเกิดจากความเข้าใจผิดของโจทก์ทั้งสองเอง”

ผลการไกล่เกลี่ยของศาลเป็นที่สิ้นสุด เมื่อศาลระบุว่า “โจทก์ที่ 1 เต็มใจยอมรับว่าจำเลยทั้งสามมิได้กระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามคำฟ้องในคดีนี้ ความผิดดังกล่าวมิได้เกิดขึ้นจริง” พร้อมทั้งระบุว่าโจทก์จะไปถอนเรื่องร้องเรียนทั้งหมด ทำให้พระอาจารย์คึกฤทธิ์ พ้นมลทินจากข้อกล่าวหาในที่สุด

ปัจจุบัน “พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล” ยังคงทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสวัดนาป่าพงเดินหน้าเผยแผ่ศาสนาผ่านสื่อสมัยใหม่และกิจกรรมที่วัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำแนวคิด “พุทธวจน” ไปสู่การใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมไทยให้กว้างขวางยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ท่านก็ยังเป็นผู้สร้างข้อถกเถียงทางหลักคำสอนที่เข้มข้นกับคณะสงฆ์กระแสหลักอีกด้วย

ขอบคุณ : พุทธที่แท้จริง

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top