อดีตหนุ่มโรงงานหนีวิกฤติโควิดจากสมุทรสาครกลับบ้านเกิดผันตัวเองเป็นพ่อค้าขายของเบ็ดเตล็ดตามชุมชน

วันนี้ ทีมข่าวแนวหน้าได้พบกับนายพีระพงศ์ ทาสี อายุ 24 ปี เเละนางโม ทาสี อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 102/1 หมู่ 11 ต.ตาคง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ กำลังช่วยกันขายของเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต้องใช้ในครัวเรือน อาทิ คุ ถัง กาละมัง ตะกร้า สบู่ยาสีฟัน เครื่องครัว อุปกรณ์เครื่องมือช่าง เเละอื่นๆ ฯลฯ ในชุมชนต่างๆ ซึ่งมีลูกค้าเลือกซื้ออย่างหนาตา เเละเป็นภาพประทับใจที่เห็นภาพวัยหนุ่มสาวช่วยกันสร้างอาชีพในบ้านเกิด ในบรรยากาศวิถีบ้านนอกคอกนา ในท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ระบาดประเทศในขณะนี้ หลายๆ คนต้องหยุดชะงัก ต้องหยุดงาน โดนกักตัว ขาดรายได้ โดยเฉพาะคนทำงานในเมืองใหญ่หลายๆ คนขาดพลังใจ

อย่าง 2 สามีภรรยาคู่นี้ที่ต้องตัดสินใจลาออกจากงานกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่บ้านเกิดของตัวเองโดยการหาอาชีพ ที่พอสร้างรายได้ได้ เพื่อพยุงให้อยู่รอดในท้ามกลางปัญหาโรคโควิด-19 ระบาดหนักในขณะนี้

นายพีระพงค์ ทาสี เล่าว่า เเต่เดิมตนทำงานอยู่โรงงานเเถวอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร เเต่เมื่อเจอวิฤติโควิตทำให้ไม่มีโอที หยุดงาน รายได้ลด เเต่ค่าใช้สูง ทั้งค่ากินอยู่ ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ตนเห็นว่าไม่ไหวเลยชวนภรรยากลับบ้านเกิด ในระหว่างที่เงินเก็บพอมีอยู่บ้าง ถ้าฝืนอยู่ไม่รู้สถานการณ์จะเป็นยังไงต่อ พอกลับมาอยู่บ้านก็ได้ปรึกษาภรรยาจะทำอาชีพอะไรดี ภรรยาบอกลองขายของตามตลาดนัดตามหมู่บ้านดีไหม ถึงฤดูทำนาก็หยุดมาช่วยพ่อแม่ทำนาด้วย ตนจึงตัดสินใจใช้เงินเก็บที่พอมีอยู่พาภรรยาซื้อของไปขายตามตลาดนัด ตามชุมชนต่างๆ

ผลปรากฎว่า ดีเกินคาดจากวันเเรกๆ ที่ขาดได้นิดหน่อยหลายๆ วันเข้า เริ่มขายดีขึ้น ขายของเเต่ละประเภทในราคา 20 บาท ถึงไม่เกิน 500 บาท ในราคาที่ลูกค้าพอมีกำลังซื้อจับจ่าย บวกกับที่ตนพูดจาอัชฌาสัยดี ถ้าซื้อเป็นจำนวนมากส่งฟรีถึงบ้าน จากวันเเรกจนวันนี้ก็เกือบ 2 เดือนเเล้ว ซึ่งเฉลี่ยสุทธิประมาณ 5,000-6,000 บาทต่อต่อวัน ซึ่งอยู่ได้ในเเบบวิถีบ้านนอกเรา

วินาทีนี้อยู่บ้านเราสบายใจสุดเเล้ว มีบ้านให้นอน มีพี่น้อง มีไร่มีนาให้ทำ ไม่มีตังค์ก็หาหว่านเเห่หาปลา จับเเมงจีซอล กับปู ตำน้ำพริกเก็บยอดกระถินเก็บผักตามไร่นา มาจิ้มเเจ่ว โชคดีเเล้วที่ได้อยู่บ้าน เห็นใจคนทำงานในเมือง ที่โดนล็อคดาวน์ ต้องหยุดงาน ค่าใช้จ่ายก็สูง ต้องกักตัว ขอฝากเป็นกำลังใจครับ เราจะผ่านไปด้วยกัน