วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เสียงจาก‘ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ’ ในวันที่‘โควิด’เล่นงานกระอัก!
14 พฤษภาคม 2564 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ครั้งที่3 จึงได้มีคำสั่งจากนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 30 เมษายน 2564 ว่าด้วยร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น โดยงดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น.และกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 1-14 พฤษภาคม นี้ จนทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ทวงถามมาตรการเยียวยาและการผ่อนปรนให้กลับมารับประทานอาหารภายมในร้านได้หรือไม่ เนื่องจากผู้ประกอบการร้านอาหาร พร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไข และข้อกำหนดของภาครัฐมาโดยตลอดในทุกครั้งที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ทางภาครัฐและจังหวัด ไม่มีมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือกับผู้ประกอบการร้านอาหารแต่อย่างใด
นางคุณากร คุ้มแก้ว เจ้าของร้านเจ๊นก ก๋วยเตี๋ยวเรือ 2 ชั้น สาขา 2 คลอง 8 ที่อยู่หมู่ 4 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตนมีกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ 2 สาขา และได้ปิดกิจการชั่วคราวไปทั้ง 2 สาขา เพราะเปิดขายแบบซื้อกลับบ้านนั้น ไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อแต่อย่างใด เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักจะรับประทานอาหารที่ร้านมากกว่า
“เจ๊นก” บอกว่า ตนเจอปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 มาถึง 3 ครั้ง และทุกครั้งร้านอาหารก็ต้องโดนคำสั่งให้ปิดบ้าง ห้ามมานั่งรับประทานที่ร้านบ้าง ตนก็เข้าใจและพร้อมปฏิบัติตามเพราะมาตรการของทางภาครัฐ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด19 แต่มาถึงวันนี้ 14 วันแล้ว ที่มีการสั่งงดนั่งรับประทานอาหารและเมื่อไรทางผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารเสียที รวมถึงมาตรการผ่อนปรนให้มีการรับประทานอาหารที่ร้าน จะเป็นการเว้นระยะห่างเหมือนเดิมนั้น ตนก็ยอมปฏิบัติตาม ดีกว่าขายแบบซื้อกลับบ้านอย่างเดียว ที่ไม่ต่างอะไรกับการสั่งปิดร้าน เพราะทุกวันนี้ตนมีภาระที่ต้องดูแลพนักงานที่ไม่มีรายได้ของทั้ง 2 สาขา กว่า 25 คน พนักงานกินนอนที่ร้านอีกกว่า 10 คนที่ต้องดูแลเรื่องกินอยู่ภายในร้าน ส่วนพนักงานไปกลับนั้นต้องพักงานไม่มีกำหนดพวกเขาจะหางานอื่นทำช่วงการแพร่ระบาดนี้ก็ไม่มีนายจ้างไหนรับเข้าทำงาน
เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรายนี้ กล่าวอีกว่า บางครั้งตนก็สงสารพนักงาน จนต้องหางานเล็กๆน้อยๆให้ทำ เช่น ทำความสะอาดร้าน ปลูกต้นไม้ ตัดหญ้า เพื่อให้พวกเขามีรายได้ไปจุนเจือครอบครัว เพราะจะให้ทางเจ้าของกิจการจ่ายชดเชยค่าแรงให้พนักงาน โดยภาครัฐไม่มาช่วยเหลือเราเลย เราก็จ่ายชดเชยให้พนักงานไม่ไหว เพราะที่ผ่านมาก็ไม่มีการชดเชยหรือช่วยเหลือจากภาครัฐเลยสักครั้งเดียว
“ช่วงนี้ตนก็อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือเรื่องพักชำระหนี้ เพราะค่าใช้จ่ายเรื่องการส่งเงินกู้ของทางธนาคารนั้น ตนก็ต้องส่งตามปกติอยู่เช่นเดิม ทั้งที่ไม่มีรายได้ มีแต่รายจ่ายเพียงอย่างเดียวและจำนวนยอดเงินกู้ทางธนาคารทั้งหมดโดยรวมประมาณ 5-6 ล้านบาท ที่ตนได้กู้มาลงทุน มียอดการผ่อนชำระรายเดือน ยังไม่รวมค่าน้ำค่าไฟและค่ากินอยู่ของพนักงานอีก ถ้าปล่อยเวลาล่วงเลยไปกว่านี้ตนจะทำอย่างไร เพราะทุกวันนี้ก็เหมือนกินทุนไปเรื่อยๆ แล้วถ้าตนไม่มีเงินที่จะมาส่งธนาคารตนจะติดแบล็คลิสต์หรือไม่ และพนักงานที่ตนแบกรับภาระให้กินอยู่ฟรีนั้นชีวิตครอบครัวเขาจะเป็นอย่างไร ขอให้ทางรัฐบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีหันมามองผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างเราบ้าง” เจ๊นก กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี