12 กรกฎาคม 2564 เวลา 02.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเจียงอีศรีมงคลวนาราม ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตต์ธรรมสถานศรีสะเกษ นำร่างของนายอุทัย แก้วแสน อายุ 51 ปี อยู่บ้านจอก ต.สะพุง อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ผู้ป่วยโควิด19 เสียชีวิตรายที่ 4 ของจังหวัดศรีสะเกษ ในการระบาดระลอกเดือนเมษายน 2564 ซึ่งนายอุทัย เสียชีวิตเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 11 ก.ค.64 รีบทำการเผาทันที
นางเพ็ญ แก้วแสน อายุ 52 ปี ภรรยาของ ผู้ตาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมากับลูกอีก 2 คน เพื่อไว้อาลัยครั้งสุดท้ายของการจากไปสามี มีอาชีพขับรถแท็กซี่อยู่ที่ กทม. ก่อนหน้านี้ 2 วัน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับตนว่า มีอาการเหนื่อย หอบ และไอ จึงอยากกลับไปตรวจหาเชื้อโควิด19 ที่บ้านเกิด เพราะมีอาการไม่สบายมาหลายวันแล้ว จึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยรถไฟจากกรุงเทพ มาถึงสถานีศรีสะเกษเวลาห้าโมงเย็น วันเสาร์ ที่ 10 ก.ค.64 และได้เข้าตรวจหาเชื้อทันทีที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ปรากฏว่าพบเชื้อโควิด19 ทีมแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษได้แจ้งกับตนว่า สามีมีอาการโคม่าและป่วยอย่างรุนแรง ต่อมาได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ซึ่งถือว่าตนและลูกๆได้ขาดเสาหลักของครอบครัวไป เพราะจากนี้ไปตนต้องดูแลลูกๆ อีก 2 คนด้วยตนเอง
แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ต้องประสานญาติและวัด เพื่อทำการฌาปนกิจทันทีกลางดึกแบบนี้ เนื่องจากห้องนิติเวช โรงพยาบาลศรีสะเกษ ไม่มีสถานที่เก็บร่างผู้เสียชีวิตจากโควิด19 จึงต้องแจ้งญาติผู้เสียชีวิตและได้ติดต่อพระของทางวัด เพื่อทำการเผาศพเป็นการเร่งด่วน
สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดศรีสะเกษ สะสมรวมเป็น 4 ราย โดยขณะนี้ ยอดผู้ป่วยวันที่ 12 ก.ค.64 เพิ่มสูงเป็นสถิติใหม่ ถึง 104 ราย ยอดป่วยสะสม 1,064 ราย รักษาหายอีก 7 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี