วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
เฝ้าระวังเข้ม! หวั่นโรค 'ลัมปี สกิน' ระบาดในฝูงควายป่าห้วยขาแข้ง

เฝ้าระวังเข้ม! หวั่นโรค 'ลัมปี สกิน' ระบาดในฝูงควายป่าห้วยขาแข้ง

วันอังคาร ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 10.28 น.
Tag : ฝูงควายป่า โรคระบาด ลัมปีสกิน ห้วยขาแข้ง
  •  

วันนี้ (20 ก.ค.64) เพจ "ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้โพสต์ภาพควายป่าฝูงหนึ่งในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อมกับคำเปิดเผยของนายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) ถึงสถานการณ์และการเฝ้าระวังโรคระบาด "ลัมปี สกิน" อย่างเข้มข้น หลังจากมีการตรวจพบโรคดังกล่าวมีการระบาดเข้าไปยังสัตว์ป่า โดยมีเนื้อดังนี้ รู้จากข่าว...มหิงสา ควายป่าฝูงสุดท้ายที่ห้วยขาแข้ง กับการเฝ้าระวังโรคระบาด "ลัมปี สกิน" อย่างเข้มข้น

ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง นอกจากจะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างหลากหลายแล้ว หนึ่งในนั้นก็มีสัตว์ป่าสำคัญอาศัยอยู่ด้วย นั่นก็คือ "ควายป่า" ซึ่งจากรายงานพบที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น จึงต้องให้ความสำคัญและเฝ้าระวังโรคลัมปี สกินเป็นพิเศษนอกจากนี้พื้นที่ยังคาบเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้งผาง จังหวัดตาก ซึ่งควรมีการเฝ้าระวังโรค สร้างแนวกันชน และประสานหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ในพื้นที่ให้มีการฉีดวัคซีน กำจัดแมลงพาหะ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคลัมปี สกิน อย่างเข้มงวด


นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์และการเฝ้าระวังว่า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เฝ้าระวังมาตั้งแต่ทราบว่าเริ่มมีการระบาดของโรคนี้ โดยให้เจ้าหน้าที่ออกประสานงานกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุทัยธานี อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือราษฎรในพื้นที่ ไม่นำสัตว์เข้ามาเลี้ยงใกล้แนวเขตอย่างเด็ดขาด และได้จัดเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ลาดตระเวนเฝ้าระวัง จำนวน 20 นาย เฝ้าระวังเป็นจุด ๆ เพื่อป้องกันการลักลอบนำสัตว์มาเลี้ยงในพื้นที่ และผลักดันไม่ให้สัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ มาอย่างต่อเนื่อง ได้ก่อสร้างห้างนั่งดูสัตว์ชั่วคราว บริเวณแนวเขตของพื้นที่รับผิดชอบ หอสูง 9 เมตร ขนาดกว้าง 1.20 เมตร ยาว 1.20 เมตร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้นั่งเฝ้าสัตว์ ไม่ให้สัตว์ป่าออกนอกป่าอนุรักษ์ และไม่ให้สัตว์เลี้ยงของราษฎรเข้าไปในป่าโดยที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนนำสัตว์มาเลี้ยง 1 ราย

สำหรับจุดที่พบสัตว์เลี้ยงในจังหวัดอุทัยธานี ที่ตาย อยู่ห่างจากแนวเขตเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ประมาณ 15 - 20 กิโลเมตร ซึ่งโรคนี้สาเหตุหลักติดต่อทางแมลงดูดเลือด ดังนั้นในทางปฎิบัติการเฝ้าระวังป้องกันโรค โดยเฉพาะกับสัตว์ป่า เป็นเรื่องที่ยาก แต่จากนี้ไป จะให้เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำส้มควันไม้ที่ได้รับมาจากวัดท่าซุงรอบ ๆ บริเวณ และปฎิบัติตามแนวทางป้องกันโรคที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้แนวทางปฎิบัติไว้อย่างเคร่งครัดต่อไป

สำหรับควายป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้เผยแพร่ใน BIG 7 หรือ 7 สัตว์ป่าผู้ยิ่งใหญ่ แห่งป่าห้วยขาแข้ง ในตอน  'ควายป่า' ผู้ดุดันแห่งพงไพร ไว้ว่า ควายป่า หรือ มหิงสา (wild buffalo) ชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหูนัก เห็นจะคุ้นแต่ชื่อ "ควายบ้าน" เสียมากกว่า อันที่จริง ควายบ้าน ก็สืบเชื้อสายมากจาก ควายป่า เนื่องจากคนรู้จักนำควายป่ามาเลี้ยงเพื่อประโยชน์ใช้งานมานานนมแล้ว

ลักษณะโดยทั่วไปนั้น คล้ายคลึงกันอย่างมาก นั่นก็เพราะสืบมาจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่หากมองลึกลงไปในรายละเอียด ก็พบว่า ทั้งคู่ช่างต่างกันเหลือเกิน ทั้งลักษณะ พฤติกรรม และนิสัย ลำตัวของควายป่า บึกบึน แข็งแรง ใหญ่โตกว่าควายบ้านอยู่หลายขุม น้ำหนักควายป่า จะอยู่ที่ 800 - 1,200 กก. ขณะควายบ้าน มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 500 กก. ควายป่า มีเขาโค้งเป็นวงเสี้ยวพระจันทร์ ยาวได้ถึง 150-180 ซม. ซึ่งควายจะมีเขาที่สั้นกว่า

สีผิวของควายป่า มีสีเทาหรือน้ำตาลดำ ช่วงอกมีขนสีขาว รูปตัว V ใส่ถุงเท้าขาวหม่น ๆ ทั้ง 4 ข้าง ส่วนควายบ้าน มีผิวสีเทาจนถึงดำ ควายป่า มีนิสัยดุร้ายกว่าควายบ้าน ไม่กลัวคน แม้จะตัวใหญ่แต่กลับปราดเปรียว ว่องไว ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ตัวผู้ชอบฉายเดี่ยวแต่ก็กลับมารวมฝูงในช่วงผสมพันธุ์ 

ควายป่าในผืนป่าไทย มีรายงานพบเพียงแห่งเดียว คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แถบ ๆ ริมลำห้วยขาแข้ง ทางตอนใต้ของผืนป่า เหลืออยู่ราว ๆ  50 ตัว จำนวนประชากรขยุ้มมือนี้ จึงเปราะบางเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยอย่างยิ่ง

ควายป่า ชอบอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นปลักโคลน ดินเลน ชายน้ำ กีบเท้าของพวกเขาจึงมีลักษณะกลมและแป้น ช่วยในการย่ำปลักได้ดี ในขณะที่ควายป่า และกระทิง กีบเท้าจะเรียวแหลมกว่า

อาหารส่วนใหญ่เป็นยอดไม้ ใบไม้อ่อน ๆ หญ้า ไปจนถึงหน่อไม้ ชอบนอนจมปลัก เรียกได้ว่า มุดหายไปในปลักทั้งตัว โผล่ไว้แต่จมูกเพื่อหายใจ หวังเพื่อคลายร้อนในตัว และกันแมลงรบกวนไปด้วย

ด้วยแหล่งอาศัยของควายป่า ที่นิยมชมชอบวิวริมน้ำ จึงทำให้มีพื้นที่อาศัยทับซ้อนกับพื้นที่ของคน การขยายออกของสังคม การปลูกสร้างบ้านเรือนเพิ่มขึ้น และการแสวงหาแหล่งเกษตรกรรม สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของควายป่า

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของควายป่าไปผสมพันธุ์กับควายบ้าน บางครั้งอาจติดโรคมาจากควายบ้าน ทำให้เกิดโรคระบาด ล้มตายไปตาม ๆ กัน
หมดป่าริมน้ำ อาจหมายถึง ควายป่าสูญพันธุ์

สถานภาพปัจจุบันของควายป่า เป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 19 ชนิดของไทย ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ไอยูซีเอ็น (IUCN) จัดให้อยู่ในประเภทใกล้สูญพันธุ์ (EN)

ภาพ : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
ข้อมูล : BIG 7 หรือ 7 สัตว์ป่าผู้ยิ่งใหญ่ แห่งป่าห้วยขาแข้ง โดย สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แนวหน้าวิเคราะห์ : ‘โรคแอนแทรกซ์’โผล่ ส่อง‘มาตรการภาครัฐ’กับการรับมือ แนวหน้าวิเคราะห์ : ‘โรคแอนแทรกซ์’โผล่ ส่อง‘มาตรการภาครัฐ’กับการรับมือ
  •  

Breaking News

ไม่ใช่แค่ม็อบคนแก่! ม็อบ 28 มิถุนาฯ คือฐานเสียง'พรรค ปชน.' ชี้ฝ่ายค้านเอาแต่แก้ รธน. เมินปากท้องคนไทย

'บี-วีณา-อามชุ'จูงมือชาว LGBTQIA+ เติมสีสันความเท่าเทียมใน 'พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล ไพรด์ เฟสติวัล 2025'

ประเดิม'สุริยะ'ทำหน้าที่นายกฯวันแรก ลงนามแต่งตั้ง'ภูมิธรรม'รักษาการนายกฯลำดับที่ 1

‘รวบโจรวิ่งราวทรัพย์’ก่อเหตุ2จังหวัด-รวมเกือบ10ครั้ง เผย!เลือกเหยื่อเป็นผู้สูงวัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved