ฮือฮากรมอุทยานแห่งชาติฯ-องค์การ Panthere สมาคม ZSL เปิดภาพเสือโคร่งจากกล้องดักถ่ายเนื่องในวัน “อนุรักษ์เสือโคร่งโลก” พบมีทั้งเสือดำ เสือโคร่ง และเสือดาว รวมทั้งสัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองอีกเพียบ
วันที่ 29 ก.ค.64 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า วันที่ 29 ก.ค.ของทุกปีเป็นวันอนุรักษ์เสือโคร่งโลก หรือวันอนุรักษ์เสือโลก สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับองค์การแพนเทอรา (Panthere) ประเทศไทย และสมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอน (ZSL) ประเทศไทยที่ได้รับอนุญาต เข้าร่วมทำการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการ ในการติดตามสัตว์ตระกูลแมวป่า ในกลุ่มป่าทางทิศใต้ ของผืนป่าตะวันตก
โดยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีอุทยานแห่งชาติ 7 แห่งและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ 1 แห่งประกอบด้วย 1.อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ 2.อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี 3.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ 4.อุทยานแห่งชาติลำคลองงู อ.ทองผาภูมิ 5.อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ 6.อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และ 7 อุทยานแห่งชาติไทรโยค อ.ไทรโยค ส่วนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 1 แห่งคือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อ.เมืองกาญจนบุรี
โดยองค์การ Panthere และสมาคม ZSL ได้ส่งรายงานผลการติดตั้งกล้องดักถ่าย ภาพอัตโนมัติในการสำรวจเสือโคร่งในกลุ่มป่าทางทิศใต้ของผืนป่าตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ในระหว่างเดือน ต.ค 2563 ถึงเดือน มี.ค 2564 ผลการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ สามารถถ่ายภาพสัตว์ผู้ล่าในวงศ์เสือและแมวได้ 6 ชนิด ประกอบด้วย 1.เสือโคร่ง 2.เสือดาว 3.เสือดำ 4.เสือลายเมฆ 5.เสือไฟ 6. แมวดาว ดักถ่ายภาพสัตว์ป่าสงวน ได้ จำนวน 3 ชนิด1.สมเสร็จ 2.เลียงผา และ 3.เก้งหม้อ นอกจากนี้กล้องดักถ่ายยังสามารถจับภาพสัตว์ป่าคุ้มครองได้มากถึง 38 ชนิด เช่น ช้างป่า วัวแดง หมาใน ชะมดแผงสันหางดำ เป็นต้น
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3(บ้านโป่ง) กล่าวว่า จากผลการวิจัยขององค์การ Panthera และสมาคม ZSL และผลของการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติเพื่อสำรวจเสือโคร่งในกลุ่มป่าทางทิศใต้ของผืนป่าตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี พบเสือโคร่ง และสัตว์ป่าหายากเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของผืนป่า และสัตว์ป่า ในกลุ่มป่าทางทิศใต้ ของผืนป่าตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ได้เป็นอย่างดี
การที่เสือโคร่งและสัตว์ป่าหายากเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ Smart Patrol ป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มข้นโดยไม่มีวันหยุดตาม นโยบาย ทส.ยกกำลัง 2 + 4 ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยหากเจ้าหน้าที่พบกลุ่มผู้กระทำผิดแล้วถูกจับกุมตัวรับรองได้เลยว่าจะต้องติดคุกจริงและถูกปรับจริง
โดยผู้ที่ถูกจับกุมเกี่ยวกับคดีการล่าสัตว์ป่า จะต้องถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ฉบับใหม่ พ.ศ.2562 ที่มีบทลงโทษที่รุนแรง โดยจะต้องถูกจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี ปรับถึง 1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนไปถึงประชาชนที่นิยมเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ขอให้หยุดพฤติดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะหากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวจะทำให้ต้องมาสูญเสียความเป็นอิสระ เพราะต้องมาถูกจำคุกเป็นเวลานานหลายปี อีกทั้งจะต้องมาเสียเงินเป็นจำนวนมาก สัตว์ป่าที่ได้มาจึงถือว่าไม่คุ้มกับอิสระที่ต้องเสียไป” นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3(บ้านโป่ง) เผย
(ภาพกรมอุทยานฯ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี