8 ส.ค.64 เฟซบุ๊ก “Nutty Nattaporn” ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายสิ่งที่อัดอั้นในใจเกี่ยวกับการทำหน้า ซึ่งเธอทำหน้าที่เป็นพยาบาลห้องฉุกเฉิน
โดยข้อความระบุว่า “Covid diary พยาบาลขอระบาย วันนี้ขอมาเล่าสู่ฟังในฐานะพยาบาลห้องฉุกเฉิน ในฐานะที่ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยโควิดและไม่ใช่โควิด ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ยอดคนไข้โควิดที่รอ Admit 20-30 กว่าเคสว่าเยอะแล้ว
ล่าสุดเดือน ส.ค.ยอดที่รอ Admit ปาเข้าไป 40 กว่าเคสแล้ว อีกหน่อยคงถึง 100 แน่ๆ เยอะกว่า ward ผู้ป่วยในแต่ล่ะแผนกด้วยซ้ำคำนิยามของ ER ( Emergency Room ) คือ ดูแลคนไข้ให้พ้นภาวะวิกฤติ ภาวะคุกคามถึงชีวิตแล้วส่งต่อให้แผนกเฉพาะทางดูต่อ แต่ไม่ใช่ที่นี่ เพราะที่นี่ให้ ER รับผิดชอบคนไข้โควิดที่รอ Admit ทั้งที่ควรจะเป็นหน้าที่ของ Ward Covid
Ward covid ของ รพ มีรับยอดชัดเจน 10-20 เคสก็แล้วแต่ ward นั้นๆ ยอดเต็มคือเต็ม ถ้าเตียงว่าง อาจจะมีรับย้ายหรือรับใหม่ แต่ ER ไม่มีคำว่าเต็ม ยกตัวอย่าง เช่น มีเคส walk-in เข้ามา ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดท้อง ปวด...บลาๆๆ เดินมา รู้ตัวรู้เรื่องดี คำแนะนำแรกที่ผู้รับบริการจะได้คือ รอนานนะ รอหลายชั่วโมงนะ บอกไม่ได้นานแต่ไหน ขณะคุยๆอยู่นั้น อ้าว มีเข็นรถนอนเข้ามา คนไข้เหนื่อยมาก ซึม เรียกไม่ตอบสนอง ออกซิเจนต่ำมากๆ หมอและพยาบาลต้องรีบให้การช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้จะใส่ท่อช่วยหายใจก็ทำไม่ได้ เครื่องช่วยหายใจไม่พอ ห้องแรงดันลบไม่ว่างมีเคสโควิดรอ Admit นอนค้างอยู่ แล้วจะทำอย่างไรดี
มาถึงจุดๆนี้ ญาติต้องทำใจเพราะมันเกินศักยภาพมากๆ พอญาติเข้าใจจุดนี้หมอจะทำการรักษาแบบประคับประคอง ให้ออกซิเจน ให้ยาให้สงบ และทรมานน้อยที่สุด ทุกๆวันเหตุการณ์จะวนไปแบบนี้จนหมดวัน พอให้การพยาบาลคนไข้วิกฤตเสร็จก็ต้องกลับมาดูคนไข้ที่ไม่ฉุกเฉินต่อ
อ้าว นี่คนไข้รอหมอตรวจหรือรอพยาบาลมาหลายชั่วโมงแล้วนี่ บางคนนานเกิน 3-4 ชม. บางคนรอได้เพราะเข้าใจ บางคนรอไม่ได้เพราะไม่เข้าใจก็มี บางคนรอจนดีขึ้นเองกลับบ้าน หรือแม้กระทั่งรอจนอาการแย่ จนถึงขั้นไม่ไหวก็เกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่เศร้ามากๆ ในชีวิตการเป็นพยาบาล ในแต่ล่ะเวรจะมีพยาบาลขึ้นเวร 6-9 คน พอถึงเวลาที่ต้องให้การพยาบาลผู้ป่วยโควิด ไม่ว่าจะเป็นวัดไข้ วัดความดัน ฉีดยา ป้อนข้าว ป้อนยา เปลี่ยนแพมเพิร์ส จะต้องมีพยาบาลไปดูคนไข้โควิด 3-6 คน/คนไข้ 30-40 กว่าคน ใช้เวลาดูนานแค่ไหน => รอบล่ะ ประมาณ 2-3 ชม/ครั้ง ในชุด PPE ที่ร้อนมากๆ แต่ก็ต้องอดทน เพราะไม่ทำก็ไม่ได้
อ้าว แล้วถ้าพยาบาลไปดูคนไข้โควิดเกือบหมด คนไข้ที่ไม่ใช่โควิดใครจะดูแล ก็คงเป็นพยาบาล อีก 3 คน ที่เหลือ ซึ่ง 3 คนนี้มีหน้าที่ต่างกัน คร่าวๆ ดังนี้
1.พยาบาลหัวหน้าเวร ที่ทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน รับเคสเข้า ส่งเคสออก รับเวร ส่งเวร รายงานข้อมูลต่างๆของคนไข้แก่หมอ
2.พยาบาลคัดกรอง ที่ทำหน้าที่แยกประเภทความเร่งด่วน เช่น คนไข้ด่วนมากต้องช่วยเหลือทันทีไม่เช่นนั้นอาจเสียชีวิต , คนไข้ด่วนที่รอได้แค่ 10 นาทีไม่เช่นนั้นอาจเสียชีวิต , คนไข้รอได้ 1 ชม.และรอได้ไม่จำกัดเวลา
และเมื่อคัดกรองเสร็จก็ทำหน้าที่รายงานหมอให้รีบดูคนที่ด่วนที่สุดก่อน
3.พยาบาลรับคำสั่งหมอ เช่น เจาะเลือด ฉีดยา ให้น้ำเกลือ ใส่สายให้อาหาร ใส่สายสวนปัสสาวะ ทำแผล เย็บแผล ส่งคนไข้ไปเอ็กซเรย์ บลาๆๆๆ คนไข้ 1 คนต้องมีหัตถการหลายอย่าง กว่าจะเสร็จคนไข้ 1 คนปาไป เกือบ ชม. คนไข้คนอื่นๆก็รอต่อไปตามความเร่งด่วน ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ควรเป็นแบบนั้นเพราะ ที่นี่คือแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ไม่ใช่หอผู้ป่วยเฉพาะทางโควิด พยาบาลที่ขึ้นเวร 6-9 คน ควรได้มาช่วยเหลือคนไข้ที่ Emergency จริงๆ เพื่อช่วยให้คนไข้มีชีวิตรอดมากขึ้น และกลับไปใช้ชีวิตในครอบครัวได้ปกติมากที่สุด
วอนผู้ที่เกี่ยวข้อง รับทราบปัญหา และเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ทีค่ะ ตอนนี้ห้องฉุกเฉินไม่สามารถช่วยชีวิตคนไข้ฉุกเฉินได้เท่าที่ควรทำได้ 100% แล้ว เพราะยอดรอ Admit โควิดมันเยอะกว่า ward อื่นๆ มากๆ
-ภาระงานเยอะขึ้น
-แลคนไข้ไม่ตรงบริบทห้องฉุกเฉิน
-คนไข้แย่ลง เพราะรอนาน ดูแลไม่ทั่วถึง
ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้นในครอบครัวนั้นๆ ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน #saveERtaksin"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี