หนึ่งเดียวของประเทศไทย! ผบ.เรือนจำกลางสมุทรปราการ อดีต ผบ.เรือนจำกลางราชบุรี ร่วมกับจิตอาสาเปิดร้านอาหารจากผู้พ้นโทษมาทำงานเป็นเชฟใช้ชื่อ "ล้านเล่าหลังกำแพง" เพื่อคืนคนดีสู่สังคมในภาคปฏิบัติ
วันนี้...ทีมเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์ พาไปชิมอาหารอร่อยฝีมือชั้นเยี่ยมของเชฟมือดีมีที่นี่ที่เดียว หนึ่งเดียวของจังหวัดราชบุรี เปิดเป็นร้านอาหารใช้ชื่อ "ล้านเล่าหลังกำแพง" ที่ได้ให้โอกาสอดีตผู้ต้องขังที่เคยอยู่ในเรือนจำมาปรุงเมนูอาหารบริการเสิร์ฟให้กับลูกค้ารับประทานล้านเล่าหลังกำแพง ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมแยกไฟแดง ริมถนนสายราชบุรี - จอมบึง ติดกับอุทยานหินเขางู ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งได้ฤกษ์เปิดร้านเป็นวันแรกได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ และเจิมป้ายหน้าร้านเพื่อความเป็นสิริมงคล
โดยมีนายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี ร่วมกับนางสาวชุลีพร อรรคอุดม จิตอาสาและเป็นผู้ดูแลร้านซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 5/1 หมู่ 1 ต.เกาะพลับพลา อ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยเพื่อน ๆ ที่รู้จักสนิทคุ้นเคยได้มาร่วมแสดงความยินดี ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูร่มรื่นใต้ร่มสัก อากาศเย็นสบาย มีการเว้นระยะห่างของโต๊ะและเก้าอี้ บริการเจลแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ลักษณะของร้านถูกออกแบบตกแต่งแปลกไม่เหมือนกับร้านทั่วไป สิ่งของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ หลังคา ผนังบางจุดสร้างด้วยสังกะสี ทาสีออกโทนสีน้ำตาลออกคล้ำดำ คล้ายกำแพงเรือนจำ
ที่น่าสนใจคือเมื่อดูพนักงานบริการที่นำอาหารมาเสิร์ฟลูกค้าพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าที่มีการสกรีนเสื้อเป็นชื่อของร้าน ส่วนด้านหลังร้านจะพบพ่อครัวช่วยกันทำอาหารหลายอย่างตามที่ลูกค้าสั่งด้วยความชำนาญ ที่น่าทึ่งและแปลกใจคือ ผู้ที่ทำอาหาร หรือที่เรียกว่า เชฟนั้นไม่ใช่เป็นพ่อครัวธรรมดาทั่วไป แต่เป็นเชฟซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้มารับหน้าที่ปรุงเมนูอาหารให้ลูกค้า ด้วยความหวังอยากมีอาชีพที่สุจริตหลังพ้นโทษ มาอยู่ในสังคมใหม่ได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง
นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี เปิดเผยว่า เคยเป็นผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรีมาก่อนและได้ให้โอกาสกับสังคม ซึ่งมีคนที่มีความรู้ คนที่มีจิตอาสา คนที่มีความปรารถนาอยากให้สังคมดีขึ้น เข้ามาสอนและถ่ายทอดประสบการณ์ เรามีเชฟมิชลินที่เป็นคนไทยและต่างประเทศมาสอนการทำอาหารให้กับน้อง ๆ ในเรือนจำกลางราชบุรี มีวิทยากรสอนด้านการปลูกผักสลัดได้เรียนรู้แต่ยังขาดสถานที่หรือเวทีในการแสดงความรู้ความสามารถ ด้วยข้อจำกัดของการเข้าอยู่ข้างในมานาน การที่จะออกมาและปรับตัวให้เข้ากับสังคมภายนอก
โดยสภาวะโควิดแบบนี้อาจเป็นไปได้ยาก จึงคุยกับเพื่อน ๆ อยากสร้างที่หนึ่งเพื่อให้น้องที่พ้นโทษออกมา เป็นห้องในการปฏิบัติจริง ออกมาแล้วยังหางานทำไม่ได้ก็มาฝึกงาน ทำงานที่ร้านนี้ได้ อนาคตคิดหาวิทยากรจิตอาสามาสอนเปิดห้องเรียนและต้องขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่อนุญาตให้เช่าพื้นที่และมีความเมตตาที่ไม่ได้รังเกียจน้องคนหลังกำแพง จิตอาสาที่เคยช่วยงานในเรือนจำก็ยังคงช่วยงานอยู่ แต่ทำงานหนักมากยิ่งขึ้นเพราะการเป็นภาคเอกชนทุกอย่างนั้นจะต้องยืนด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่าคนหลังกำแพงที่ออกมาแล้วสามารถก้าวต่อได้จริง สร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นกับตัวเองและสังคมได้
ส่วนชื่อร้าน “ล้านเล่าคนหลังกำแพง” ชื่อนี้จะเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์แต่ละคนจะทำให้หลายคนไม่เดินซ้ำรอยอีก เชื่อว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะเล่าให้กับลูกค้าได้รับรู้อีกมากมาย ผู้ต้องขังหลายคนเริ่มรับรู้แล้วว่ามีที่นี่เกิดขึ้นอยู่ อย่างวันเปิดร้านได้มาช่วยงานหลายคน เป็นเบื้องต้นของความสำเร็จที่มองว่าเขาไม่ได้หนีหายออกไปไม่ได้คิดปิดบังตัวเอง และคิดว่าจะไม่กลับไปกระทำความผิดอีก บางคนอาจติดคุกมานาน ไม่มีญาติพี่น้อง บางคนออกมาแล้วไม่รู้จะไปไหนคิดว่าตรงนี้จะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่จะค่อย ๆ ก้าวออกไปสู่สังคมภายนอกได้
นางสาวชุลีพร อรรคอุดม จิตอาสาและเป็นผู้ดูแลร้าน เปิดเผยว่า ตนเป็นจิตอาสาและช่วยงานทางเรือนจำกลางราชบุรีมาก่อนและได้พบเจอน้อง ๆ ส่วนอาหารของร้านจะเป็นเมนูที่เคยทำที่ร้าน Kook& Cooff ราชบุรี หลังจากที่มีเชฟจิตอาสามาสอนน้องไว้จะเลือกเมนูที่ได้เคยเรียนมาเพื่อเป็นการสานต่อ มีเมนูง่าย ๆ เช่น ยำ ส้มตำ อาหารตามสั่ง เน้นราคาไม่แพงจับต้องได้ มีเครื่องดื่ม กาแฟสด
สำหรับค่าแรงน้องจากข้างเรือนจำจะเป็นเงินปันผลและเหมือนการฝึกวิชาชีพการทำงานเรียนรู้ภาคทฤษฎีที่อยู่ในเรือนจำ แต่พอออกมาข้างนอกแล้วจะกลายเป็นภาคปฏิบัติ คือ การทำงานในภาคเอกชนจริง ๆ จะสอนทั้งการใช้ชีวิต การคำนวณต้นทุน การขาย มีค่าคอมมิชชั่น มีเงินปันผลให้ด้วย มีเงินเดือนเหมือนร้านทั่วไป ตอนนี้เริ่มต้นมีน้องเข้ามาอยู่ในร้าน 3 คน ส่วนคนที่พ้นโทษแล้วใครที่ยังไม่มีงานทำ หรือไม่มีที่ไปช่วงปัญหาโควิดก็ให้มาพักมาช่วยที่นี่ได้
สำหรับเมนูที่เด่น ๆ จะมีขนมจีนน้ำยาปู ขายชุดละ 69 บาท เมนูขาหมูสมุนไพรจานละ 69 บาท #หมูสะเต๊ะ ชุดละ 69 บาท ส่วนเครื่องดื่มจะเป็นกาแฟเป็นออแกนิกส์แบบร้อนขายแก้วละ 40 บาท เย็นแก้วละ 50 บาท และปั่นราคา 55 บาท ชาเขียว ชานม ชามะนาว และยังมีอัญชันนมสด หอมจันทร์ #มะพร้าวปั่น แตงโมปั่น โหระพาสับปะรดปั่น และยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ เมนูผลไม้ปั่นอีกหลายอย่างในราคาไม่แพง ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่มีแนวคิดอยากให้โอกาสน้อง ๆ ที่เคยอยู่หลังกำแพงได้มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงตัวเอง กลับคืนสู่สังคมที่ดีอีกครั้ง
สนใจมาลองชิมฝีมือได้ทุกวัน บริการอาหารและเครื่องดื่ม แต่ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเวลา 08.00 น. - 18.30 น.สนใจโทรศัพท์สอบถามได้ร้าน “ล้านเล่าหลังกำแพง” เบอร์ 081-3921199 พร้อมบริการ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี