19 กันยายน 2564 ผมในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม คนที่ 1 ของสภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดตาม “โครงการสงขลาโมเดล” ที่ อ.หาดใหญ่ อ.รัตภูมิ และ อ.สิงหนคร ในการนำวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม มาสร้างการเกษตรมูลค่าสูงให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และสร้างรายได้เสริมสำหรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 โดยในกลุ่มงานของโครงการสงขลาโมเดลนั้น สามารถแยกย่อยเป็น 7 แขนงในกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งมีความเคลื่อนไหว ดังนี้
1. การทำปุ๋ยอินทรีย์ และสารปรับปรุงดินใช้เอง สำหรับการทำสวนยางพารา ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการประชาสัมพันธ์ และนำไปทดลองให้เกษตรกรได้ประเมินคุณภาพของปุ๋ย และตัวเลขทางบัญชีด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบต่อแนวทางการบริหารจัดการปุ๋ยในสวนยางพาราแบบเดิม
2. การบริหารจัดการสวนปาล์มอย่างมืออาชีพ ซึ่งตอนนี้ได้สมาชิกที่ดำเนินโครงการเรียบร้อยแล้ว โดยแบ่งเป็นแปลงปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว และแปลงปาล์มน้ำมันที่ปลูกใหม่ ทางทีมของโครงการจะไปสร้างแปลงสาธิต จากแปลงของสมาชิกแต่ละท่าน ผ่านกระบวนการที่จะพากันทำอย่างใกล้ชิด
3. การเกษตรแบบผสมผสานปลูกไม้ผลร่วมกับยาง โดยที่หลังจากได้สมาชิกกลุ่มต่างๆ แล้ว ก็เริ่มจัดอบรมหาแนวทางการแปรรูปผลไม้ และฝึกฝนทักษะต่างๆ นอกจากนั้นทางคณะทรัพยากรธรรมชาติ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็เปิดช่องทางการตลาดออนไลน์ให้แก่สมาชิกเข้าร่วม รวมทั้งมีการพากันไปเก็บตัวอย่างดิน เพื่อวิเคราะห์ปุ๋ยสำหรับไม้ผล และการหารือเรื่องการเลี้ยงชันโรงในสวน รวมไปถึงการขยายพันธุ์จำปาดะพันธุ์มังกรทอง
4. การยกระดับคุณภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไข่ แนวทางก็จะเป็นการบริหารจัดการด้านอาหาร โรงเรือน และการสุขาภิบาลอย่างเต็มระบบ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการปรับปรุงโรงเรือนหลังการสำรวจ และศึกษาวัตถุดิบของอาหารเป็ดที่มีศักยภาพในพื้นที่
5. ต้นแบบการเพิ่มผลผลิตปลาดุก และการพัฒนาด้านการตลาด เบื้องต้นมีการวิเคราะห์ปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกเรียบร้อยแล้ว และวางแนวทางแก้ไข อาทิ การทำอาหารต้นทุนต่ำเอง การตลาดออนไลน์ การแปรรูป การเพาะพันธุ์ปลาดุกลูกผสม ฯลฯ
6. การพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อสู่ระบบของธุรกิจอย่างมีคุณภาพ ทั้งการปรับปรุงพันธุ์ การอบรมการผสมเทียม วางแผนการจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการแปรรูป และการนำวัตถุดิบจากพื้นที่ มาสร้างมูลค่า อาทิ การทำปุ๋ยจากมูลโค เป็นต้น
และ 7. ยกระดับการผลิตผักอินทรีย์ด้วยความแม่นยำ จากการนำมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม ลงไปเติมให้กับเกษตรกร เพื่อลดต้นทุน และสร้างมูลค่า โดยเริ่มต้นแล้วจากการพาสมาชิกมาศึกษาแปลงผักต้นแบบที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงรายละเอียดเบื้องต้นสำหรับการทำงานในโครงการ “สงขลาโมเดล” ในช่วงระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งต้องถือว่า เดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว แม้จะอยู่ในสถานการณ์โรคระบาดก็ตาม กระนั้น ผมก็พยายามแลกเปลี่ยนมุมมองการทำงานต่อทีมงานอาจารย์อย่างเต็มที่ เพื่อร่วมกันหาทางหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดอันอาจจะเกิดขึ้น รวมไปถึงสนับสนุนการสร้างศักยภาพของการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อันคำนึงถึงความอ่อนไหวในเรื่องของโควิด-19 ร่วมด้วย เพื่อตอบโจทย์ของสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงของโควิด-19และการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศอันเป็นเป้าหมายตั้งต้นของโครงการดังกล่าวนี้
สำหรับใครที่สนใจในรายละเอียดงานทั้ง 7 แขนงของ “สงขลาโมเดล” สามารถที่จะเข้าไปศึกษาข้อมูล และแนวทางของทีมงานอาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญของโครงการได้ที่ https://www.facebook.com/SongkhlaModel ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารประชาสัมพันธ์หลัก จากนั้นถ้าต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเสนอแนะข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไร พื้นที่ทางสังคมออนไลน์ของผมยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
กนก วงษ์ตระหง่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี