8 วิสาหกิจชุมชนกัญชา@กาญจนบุรี เก็บผลผลิต "ช่อดอกกัญชาทางการแพทย์" ล็อตแรกกว่า 200 กิโลกรัม
วันที่ 1 พ.ย.64 พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว ในฐานะผู้สนับสนุนและส่งเสริมการปลูกกัญชาทางการแพทย์ตามบันทึกข้อตกลงพร้อมด้วย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รวม 8 แห่งและวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชาทางการแพทย์
ร่วมกันเก็บผลผลิตต้นกัญชาและชิ้นส่วนดอกกัญชา ตามระเบียบครบรอบในการปลูก ครั้งที่ 1/2564 เพื่อนำส่งกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งเก็บชิ้นส่วนดอกกัญชาและผลผลิตต่างๆของกัญชาที่ ใช้ทางการแพทย์ โดยมีวิสาหกิจชุมชน เกษตรวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านวังเย็น ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นศูนย์กลางนำร่องในการเก็บผลผลิตช่อดอกกัญชาในครั้งนี้
ทั้งนี้ นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว เปิดเผยว่า ต้องขอแสดงความดีใจกับชาววิสาหกิจชุมชนทั้ง 8 แห่ง ประกอบด้วย 1.วิสาหกิจชุมชนเกษตรวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านวังเย็น 2.วิสาหกิจชุมชนเกษตรวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านหนองหญ้า 3.วิสาหกิจชุมชนเกษตรวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านแก่งหลวง 4.วิสาหกิจชุมชนปลูกพืชสมุนไพรบ้านท่าโป่ง 5.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสมุนไพรบ้านอดุลกาญจนกิจ 6.วิสาหกิจชุมชนเกษตรและปศุสัตว์บ้านท่ามะเดื่อ 7.วิสาหกิจชุมชนเกษตรท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านยางเกาะ และ 8.วิสาหกิจชุมชนเกษตรวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านลาดหญ้า
ที่ให้ความสำคัญกับพืชเศรษฐกิจตัวใหม่และร่วมกันยินดีในความสำเร็จของการปลูกกัญชาทางการแพทย์ที่ได้รับผลผลิตสูงสุดจึงขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมงานและเป็นสักขีพยาน ตามโครงการปลูกกัญชาทางการแพทย์
สำหรับโครงการปลูกกัญชาทางการแพทย์ โดยวิสาหกิจชุมชนทั้ง 8 แห่งครั้งนี้เป็นการเก็บดอกกัญชาทางการแพทย์ครบตามรอบในการปลูกครั้งที่ 1/2564 และเป็นครั้งแรก ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของการปลูกกัญชา และสามารถเก็บช่อดอกกัญชาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เป็นครั้งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี และได้ผลผลิตกัญชาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก มีลักษณะของ ราก ต้น กิ่ง ใบ ที่สมบูรณ์ และมีสารสำคัญสูงสุด รวมถึงช่อดอกกัญชาสดที่มีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 1.5 กิโลกรัมต่อต้น ซึ่ง 1 รอบในการปลูก ปริมาณอยู่ที่ 60 ต้น และต้นที่รอดจากโรคพืชและศัตรูพืชอยู่ที่ 50 ต้น ต่อ 1 โรงเรือน รวม 8 แห่งน่าจะได้ผลผลิตช่อดอกกัญชาสดหนักรวม 180-200 กิโลกรัม
โดยลักษณะทางกายภาพของกาญจนบุรีที่มีลักษณะร้อนชื้นเหมาะสมกับการปลูกกัญชาสายพันธุ์ไทยในรูปแบบกรีนเฮ้า ถือว่าผลผลิตของต้นกัญชาในครั้งนี้ มีผลผลิตที่สมบูรณ์ มีสารสำคัญเกิดขึ้นจากต้นกัญชาครบถ้วนตามผลการทดลองของห้องปฏิบัติการกลางแห่งประเทศไทย และนับเป็นเกียรติ เป็นขวัญและกำลังใจ ให้กับกลุ่มวิสาหกิจ และยังทำให้สมาชิกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพที่แน่นอน รายได้ที่มั่นคง เกิดความรักความสามัคคี สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่ดีที่สุดและประสบผลสำเร็จ จนนำไปสู่การเก็บช่อดอกที่เป็นสารสำคัญของกัญชาทางการแพทย์ และจะนำไปใช้ในทางการแพทย์ จัดทำเป็นยารักษาโรคเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เข้าสู่ระบบสาธารณสุขซึ่งเป็นทางเลือกทางการแพทย์ทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบัน และเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนต่อไป
พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 เปิดเผยว่า การเก็บชิ้นส่วนดอกกัญชาและผลผลิตต่างๆของกัญชาที่ใช้ทางการแพทย์ โดย มี วิสาหกิจชุมชนเกษตรวิถีท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพบ้านวังเย็นใครครั้งนี้ถือว่าวิสาหกิจทั้ง8แห่งประสบความสำเร็จในการปลูกกัญชาทางการแพทย์เพื่อนำไปพัฒนาเป็นยารักษาโรคช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยต่อไป ทั้งนี้ ยังคงต้องมีการพัฒนากระบวนการในการปลูกและการปรับแก้กฎหมายเพื่อผบักดันไปสู่การพัฒนาการปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์และเพื่อเศรษฐกิจชุมชนต่อไป
นายแพทย์ ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณะสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่วันนี้ทาง สสจ.กาญจนบุรีได้ร่วมกระบวนการเก็บผลผลิตต้นกัญชาและชิ้นส่วนดอกกัญชา ตามระเบียบครบรอบในการปลูก ครั้งที่ 1/2564 เพื่อนำส่งกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเก็บชิ้นส่วนดอกกัญชาและผลผลิตต่างๆของกัญชาที่ใช้ทางการแพทย์ ซึ่งชิ้นส่วนดอกกัญชาจะถูกนำไปผลิตเป็นยารักษาโรคตามสรรพคุณทางการแพทย์ต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี