2 พ.ย.64 ชาวบ้านพลิกวิกฤติน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร จับปลา และ สัตว์น้ำ ที่มีจำนวนมาก ในพื้นที่น้ำท่วม นำมาแปรรูป ทำปลาเค็ม เปิดแผงจำหน่ายข้างถนน สร้างรายได้ วันละไม่ต่ำกว่า 2000-3000 บาท โดยที่ได้รับความนิยม ปลาเค็มวงกลม ที่ประชาชนนิยมซื้อไปรับประทาน ถึงแม้หลายจังหวัด ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย จากปริมาณน้ำฝน ที่ตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วม ขังในหลายพื้นที่ เช่นเดียวกับจังหวัดพิจิตร เป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ของภาคกลางตอนบน และ ภาคเหนือตอนล่าง เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ รับน้ำท่วมขังในฤดูน้ำหลาก โดยมี แม่น้ำสายหลัก ทั้ง แม่น้ำน่าน และ แม่น้ำยมไหลผ่าน
แม่น้ำน่าน ที่รับน้ำจาก จังหวัดตอนบน ทั้ง น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และ ผ่านจังหวัดพิจิตร จนไปสุดที่ จังหวัดนครสวรรค์ ส่วนแม่น้ำยม ที่รับน้ำจาก จังหวัดแพร่ สุโขทัย พิษณุโลก ผ่านจังหวัดพิจิตร ก่อนที่จะลงไปยังจังหวัดนครสวรรค์ รวมน้ำ ที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งปัญหา น้ำท่วม ในแม่น้ำน่าน ที่มีเขื่อนใหญ่ เก็บน้ำ และ ควบคุมการระบายน้ำ จึงไม่ค่อยประสบปัญหาน้ำท่วม ไม่เหมือนกับ แม่น้ำยม ที่ไม่มีเขื่อนหลัก ในการกักเก็บน้ำ จึงทำให้ ในช่วงที่ฝนตกหนัก ปริมาณน้ำสะสมมาก จึงทำให้เกิดน้ำท่วม ขังบ้านเรือนประชาชน และ พื้นที่การเกษตร เป็นบริเวณกว้าง และ ท่วมขังยาวนาน ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ชาวบ้านจึงได้รับผลวิกฤติจากน้ำท่วมกระทบ ประจำทุกปี และ ยาวนาน ถึงแม้วิกฤติน้ำท่วมขัง ยังพบ การแก้วิกฤติ ของชาวบ้าน เพื่อหารายได้ โดยการดำเนิน ตามวิถีชีวิต องชาวบ้าน โดยการออกหาสัตว์น้ำ จากน้ำที่ท่วมขัง มาสร้างงานสร้างรายได้ ชดเชย จากการที่รอทำการเกษตรหลังน้ำลด โดยการออกจับปลา หลากหลายชนิด ที่มากับน้ำท่วม ออกจำหน่ายสร้างรายได้
โดยชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เป็นอีกชาวบ้านอีกกลุ่ม ที่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสจากน้ำจำนวนมากที่ยังท่วมขังในพื้นที่นาข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้ว ที่ชาวบ้านเรียกว่าน้ำค้างทุ่ง ออกจับสัตว์น้ำธรรมชาติซึ่งมีทั้ง ปลา หลากหลายชนิด เช่น เพื่อนำไปรับประทานในครัวเรือนและเปิดจำหน่ายข้างถนนสร้างรายได้ จะใช้วิธีตั้งแผงจำหน่ายริมทางถนนสาย พิจิตร-หนองหัวปลวก ซึ่งเป็นถนนสายหลักจาก จังหวัดพิจิตร เชื่อมกับถนนสายเอเชีย 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ ปลาที่จำหน่ายจะมีทั้งปลาสด และปลาแดดเดียว จำหน่ายราคาตามชนิดของปลาตั้งแต่กิโลกรัมละ 80 ถึง 200 บาท สร้างรายได้งามวันละไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 บาทต่อวัน
นางไสว แก้ววิเชียร ประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลวังจิก กล่าวว่า ปลาที่จำหน่ายจะมีหลากหลายชนิดทั้งปลาช่อน ปลาแขยง ปลาหมอ ซึ่งจะมีทั้งปลาแดดเดียว และปลาสด ปลาที่ได้จากการออกหา จากการดักข่าย ดักลอบ ปักเบ็ด และบางส่วนรับซื้อจากญาติๆ ในหมู่บ้านที่ออกหาปลาจากนาข้าวที่ยังไม่สามารถทำนาจากน้ำที่ท่วมขัง ซึ่งปลาที่ได้มาวางจำหน่าย จะมีชาวบ้านในพื้นที่ ที่ออกหาปลา จากน้ำท่วม จากนั้น มาทำการหมักเกลือ ตามสูตร และ ออกตาก ให้แห้ง ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยม ก็จะเป็น ปลากระดี่วงกลม ที่นำมาปลา ที่หมักเกลือ และ ล้างทำความสะอาด มาวางให้เป็นรูปวงกลม เพื่อง่ายต่อการทอดรับประทานแบบได้ ทั้งตัว ขาย เพียงวงละ 10 บาท ขายได้ วันละ กว่า 200 วง บางวัน ยังผลิตไม่ทันลูกค้า ในแต่ละวันจะสร้างรายได้ดีวันละ ไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท นับว่าเป็นรายได้กว่าการทำนาที่ปีน้ำประสบปัญหาราคาข้าวตำต่ำ จึงอยากให้น้ำยังขังอีกซัก 1 เดือนเพื่อจะมีรายได้จากการจำหน่ายปลา
ทางด้าน นายสมยศ เอมใจ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพธิ์ประทับช้าง กล่าวว่า การทำประมงพื้นบ้านเป็นวิถีชีวิตของประชาชนชาวพิจิตร โดยเฉพาะผู้ที่มีพื้นที่ในเขตลุ่มแม่น้ำทั้ง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำยม ที่จะทำประมงพื้นบ้านในฤดูน้ำหลากซึ่งเป็นช่วงที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ออกจับสัตว์น้ำซึ่งมีอยู่จำนวนมาก จำหน่ายสร้างรายได้ จากวิกฤติ น้ำท่วม ขัง สร้างรายได้
ซึ่งทางเทศบาลตำบลโพธิ์ประทับช้าง ต่างรู้วิถีชีวิต ของชาวบ้าน ที่สามารถปรับตัว เข้ากับน้ำท่วม โดยการจับปลามาวางจำหน่าย ในทางสัญจร ไม่ต่ำกว่า 10 ร้านค้า เพื่อง่าย ต่อการซื้อขาย ของ ประชาชนที่ผ่านไปผ่านมา ซึ่งทางเทศบาล จึงได้มีส่วนร่วม การช่วยประชาสัมพันธ์ และการควบคุม ราคา และ คุณภาพ ความสะอาด และ ความเป็นระเบียบ ของร้านจำหน่ายปลาที่จำหน่าย ข้างถนน ไม่ให้กีดขวางเส้นทางจราจร ถือว่าเป็นความร่วมมืออีกทางหนึ่ง ในการช่วยสร้างให้ ประชาชน มีรายได้ ในช่วงวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อได้ ที่ร้านชั่วคราวริมทางถนนสาย พิจิตร-หนองหัวปลวก ซึ่งเป็นถนนสายหลักจาก จังหวัดพิจิตร เชื่อมกับถนนสายเอเชีย 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ ที่บริเวณตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ปลาที่จำหน่ายจะมีทั้งปลาสด และปลาแดดเดียว จำหน่ายราคาตามชนิดของปลาตั้งแต่หลักสิบ ไปจนถึงหลักร้อย ที่รับรอง ความสดจากปลา ที่อยู่ตามธรรมชาติ. -008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี