ในช่วงปี 2558 เป็นต้นมา ข่าวการลดพนักงานในอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วโลกทยอยออกมาให้ได้เห็นกันอย่างไม่ขาดสาย โดยเป็นผลมาจากปรากฎการณ์ “Digital Disruption” ที่กระแสแห่งเทคโนโลยีเป็นตัวชี้นำทิศทางการพัฒนาทุกประเทศทั่วโลก และ “ประเทศไทย” ก็เป็นหนึ่งในประเทศซึ่งต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อรับกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่จุดพลุมาจาก “ซิลิคอน วัลเล่ย์” ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบวกกับสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศ “มหาอำนาจ” ในการใช้ค่าเงินดอลล่าร์เป็นตัวกลาง ทำให้ไทยยิ่งต้องปรับตัวรับการ “Disruption” ครั้งใหญ่จากการขยับตัวสู่โลกดิจิตอลอย่างไม่หยุดยั้งของพญาอินทรีย์
เมื่อมาถึงปี 2564 นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทุกประเทศทั่วโลก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 และ 3 ซึ่ง “ประเทศไทย” เป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกโควิด-19 Disruption ตั้งแต่กลางปี 2562 จนเกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า “Disruption Changing”
@พิษโควิด-19 กระทบการจ้างงานมากสุด !
ข่าวพาดหัวรายวันในทุกมุมของโลก และ ทุกอาชีพในไทย ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แม้แต่ “ช้าง” ก็ยังถูกโควิด-19 ดิสรัปชั่น โดยปางช้างหลายจังหวัดต้องปิดตัวลง หลังจาก “ช้าง” ตกงาน จากพิษโควิด – 19 หลายเชือก เช่นเดียวกับแรงงานคน (ที่อยู่นอกภาคเกษตรกรรม) ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินตั้งแต่ต้นปี 2564 ว่า ลูกจ้างรายวันที่มีอยู่ 5.1 ล้านคน มีแรงงานประมาณ 5 แสนคนอยู่ในภาวะเสมือนว่างงาน และอีก 5 แสนคนมีรายได้ลดลงอย่างรุนแรง ส่วนผู้ประกอบการอาชีพอิสระที่มีจำนวน 8.2 ล้านคน คาดว่าจะมีแรงงาน 6 แสนคนอยู่ในสภาวะว่างงาน และอีก 3 ล้านคน มีรายได้ลดลงอย่างรุนแรง
ภาวะ “โควิด-19” ที่เข้ามาดิสรัปชั่นประเทศไทย ยังเกิดภาวะแรงงานในเมืองผันตัวไปเป็นแรงงานภาคเกษตรกรรมในต่างจังหวัด อันเป็นผลมาจากการว่างงาน โดยข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพบว่า ในเดือนมีนาคม ปี 2564 พบประชากรกลุ่มวัยทำงาน เป็นผู้ว่างงานกว่า 7.6 แสนคน และเป็นผู้เสมือนว่างงาน หรือทำงานในภาคเกษตรกว่า 4.3 ล้านคน และมีผู้ที่มีงานทำแต่ไม่ได้รับค่าจ้างกว่า 7.8 แสนคน
“ดนุชา พิชยนันท์” เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุภาวะเศรษฐกิจสังคมโดยเฉพาะสถานการณ์ด้านแรงงานไทยในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 มีผู้ว่างงานและอัตราการว่างงานสูงที่สุดตั้งแต่มี COVID-19 โดยมีผู้ว่างงาน 8.7 แสนคน และภาพรวมการจ้างงาน มีจำนวนผู้มีงานทำ 37.7 ล้านคน ลดลงร้อยละ 0.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการจ้างงานภาคเกษตรกรรมยังคงขยายตัวได้ ซึ่งมีการจ้างงาน 12.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มฤดูการเพาะปลูกข้าว และยังพบว่า ผู้ที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษามีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ 3.63 รองลงมาเป็น ปวส. ร้อยละ 3.16 ซึ่งผู้ว่างงานส่วนใหญ่จบในสาขาทั่วไป เช่น บริหารธุรกิจ และ การตลาด ซึ่งมีแนวโน้มประสบปัญหาการว่างงานยาวนานเพราะภาวะเศรษฐกิจขยายตัวอย่างจำกัดและคนกลุ่มนี้มีทักษะไม่ต่างกันจึงหางานได้ยากขึ้น
@หนี้ครัวเรือนสูงกับความเหลื่อมล้ำทางรายได้ที่ต้องยอมรับ
ความจริงอย่างหนึ่งที่ต้องยอมรับคือตัวเลขการกู้ยืมเงินภาคครัวเรือนของคนไทยยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” การกู้ยืมเงินภาคครัวเรือนในไตรมาส 2/2564 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง มียอดคงค้างหนี้ครัวเรือนขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14.27 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 89.3% ต่อจีดีพี ขณะที่ “สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี” ชะลอลงในไตรมาส 2/2564 น่าจะเป็น “ภาวะชั่วคราว” และไม่ได้หมายความว่า หนี้สินภาคครัวเรือนมีความน่ากังวลลดลง ในทางกลับกัน ยอดคงค้างหนี้สินของครัวเรือนที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นในระหว่างไตรมาสนั้น เป็นมาตรวัดที่สะท้อนว่า ภาระหนี้ในระดับครัวเรือนยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างมี “นัยสำคัญ” เมื่อเทียบกับในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา
ปัจจุบันยังพบว่า เกิดความเหลื่อมล้ำในเศรษฐกิจเมือง และเศรษฐกิจรอบปริมณฑล โดยราคาค่าอาหารในรูปแบบแกงถุงซึ่งวางขายในเขตพื้นที่ปริมณฑล เช่น จังหวัดสมุทรปราการ บางร้านขายราคาเพียงถุงละ 10 บาทเท่านั้น ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจต่อครัวเรือนซึ่งยังมีการใช้จ่ายต่อวันที่สูงขึ้น ซึ่งรายจ่ายในจังหวัดรอบปริมณฑลก็มีค่าใช้จ่ายต่อวันใกล้เคียงกับพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉลี่ยคนเมืองจะต้องมีเงิน 300 บาทต่อวัน จึงจะพอกับค่ารถและค่าอาหารในปัจจุบัน เพราะค่าใช้จ่ายในทุกวันนี้ รถโดยสารสาธารณะแบบปรับอากาศใหม่ (สีฟ้า) ซึ่งได้รับสัมปทานโดยภาคเอกชนมีการปรับราคา คิดค่าโดยสารขั้นต่ำ 4 กิโลเมตรแรก 15 บาท ระยะทาง 4-16 กิโลเมตร 20 บาท และ ระยะทาง 16 กิโลเมตรขึ้นไป คิดราคา 25 บาท และ เน้นให้ผู้โดยสารต่อรถโดยสาร หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส หรือ เอ็มอาร์ที
ส่วนราคาค่าอาหารในเมืองซึ่งขายร้านอาหารริมถนนนั้น อย่างเมนูธรรมดาที่หารับประทานได้ง่าย เช่น ข้าวราดผัดกระเพรา เริ่มต้นจานละ 40 บาท ส่วนในพื้นที่ศูนย์การค้าบางแห่ง ปรับราคาข้าวราดผัดกระเพราเป็นจานละ 70 บาท โดยร้านอาหารทั้งบนดิน และบนห้างมีป้ายเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาลเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งทั้งหมดเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นบนความหลากหลายในหลายมิติของโลกยุคปัจจุบัน
เรื่องปากท้องของคนไทย จึงเป็น "โจทย์" ที่ยากสำหรับทุกรัฐบาล ยิ่งถ้ามีตัวแปรเข้ามาดิสรัปชั่น อย่าง การระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามา ทำให้ต้องมองย้อนกลับไปในเชิงนโยบายการบริหารประเทศในมิติเศรษฐกิจ
@มุมมองสะท้อนหลายด้านที่ควรฟัง
"ธนิต โสรัตน์" รองประธานสภานายจ้าง ผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เคยสะท้อนมุมมองผ่านคอลัมน์ "เศรษฐกิจรอบทิศ" ในเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ดอทคอมว่า 6 ศตวรรษที่ผ่านมาไทยมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมต่อเนื่อง 12 ฉบับใช้เงินไปมหาศาลแต่ทำไมคนจนจึงยังมีมากมาย ตัวเลขทางการระบุว่ามีถึง 13.7 ล้านคนทำให้ช่องว่างความเหลื่อมล้ำสูงสุดติดลำดับโลกอีกทั้งการคอรัปชั่นซึ่งไม่ได้ลดลงแต่กลับพุ่งสูงสุดช่วง 7 ปีดัชนีคอรัปชั่น (CPI : Corruption Perceptions Index) จากลำดับที่ 85 ของโลกมาอยู่ลำดับ 104 จาก 180 ประเทศ แผน “สศช.” ฉบับใหม่จะต้องถอดบทเรียนความล้มเหลวในการปฏิรูปประเทศที่ยังคงเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประเภทก่อสร้างขนาดใหญ่ “Physical Infrastructure” เป็นหลักที่อาจไม่ตอบโจทย์เศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยสมาร์ทเทคโนโลยีซึ่งอาจพลิกจากโอกาสกลายเป็นการถอยหลัง กรณีศึกษาเวียดนามที่ส่งออกแซงหน้าไทยมาหลายปีและเศรษฐกิจขยายตัวโตอย่างต่อเนื่องอาจสะท้อนภาพได้อย่างชัดเจน
รองประธานสภานายจ้างฯ ตั้งคำถามว่า อนาคตของประเทศหลังข้ามช็อตการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ต่างๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมฉบับใหม่จะต้องตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และต้องสอดคล้องกับเศรษฐกิจของยุคดิจิทัลที่กำลังจะก้าวผ่านสู่ “เศรษฐกิจควอนตัม” การเมืองในรูปแบบอุปถัมภ์จะต้องลดบทบาทหรือขจัดจากสังคมไทยได้อย่างไร เป็นคำถามที่ไม่เห็นคำตอบในช่วง 10 ปีจากนี้ไป อนาคตที่ปฏิเสธไม่ได้ประเทศไทยต้องเดินทางไปตามบริบทใหม่ของทิศทางของโลกเป็นทางเดินใหม่มีความไม่แน่นอนสูงและไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร?
การตั้งคำถามของรองประธานสภานายจ้างฯ ในการต่อยอดมุมมองพัฒนาเศรษฐกิจของไทยนั้น ไม่เชื่อว่าการลงทุนในเมกกะโปรเจกต์ ที่เป็นเสมือนระบบบริหารเศรษฐกิจที่สืบทอดอำนาจมากันทุกรัฐบาลจะทำให้พลิกฟื้นรายได้ต่อครัวเรือนของคนไทยให้กลับมาดีขึ้นได้ โดยเฉพาะหลังการระบาดของโควิด-19
“ปางอุบล อำนวยสิทธิ์” ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือ Data Scientist Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่าเทรนด์การประกาศจ้างงานบนเว็บไซต์ JobsDB.com ที่จำนวนงานในธุรกิจที่เติบโตไปกับกระแสเทคโนโลยีอย่าง E-commerce โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ เติบโตแซงระดับช่วงก่อนโควิดไปแล้ว ขณะที่งานในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมาก และน่าจะฟื้นได้ช้าอย่างภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างชัดเจน
ท่ามกลาง Covid-19 Disruption เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ปากท้องคนไทยกินไม่อิ่มเหมือนเช่นเคย ด้วยการจ้างงานที่ลดลง และ รายได้จากการค้าขายต่อวันที่ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งทุกอย่างต้อง “รอเวลา” ให้เป็นฟ้าหลังฝน หรือ ยุคหลังการระบาดของโควิด-19 หรือ “Post Pandemic Covid-19” เป็นยุคที่ “ประชาชน” จะกลายเป็นศูนย์กลางของทุกอย่างเมื่อวันนั้นมาถึง ซึ่งคำว่า “ประชาชน” เป็นศูนย์กลางของอำนาจ “ไม่ใช่” รูปแบบการประท้วงเพื่อเอาอำนาจมาสู่ตนแบบเวทีล้มอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี