วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
หนุ่มชะแลเล่าอาถรรพ์ในเขาพระอินทร์ เจอเจ้าป่าชายตัวดำสูงใหญ่สวดคาถากรอกหู

หนุ่มชะแลเล่าอาถรรพ์ในเขาพระอินทร์ เจอเจ้าป่าชายตัวดำสูงใหญ่สวดคาถากรอกหู

วันเสาร์ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 15.07 น.
Tag : เขาพระอินทร์ ทองผาภูมิ หนุ่มชะแล หลงป่า อาถรรพ์
  •  

หนุ่มชะแล อำเภอทองผาภูมิ เล่าเหตุการณ์ระทึกขณะหลงอยู่ในป่าเขาพระอินทร์ 5 วัน 4 คืนเชื่อได้กลับมาเพราะบารมี "หลวงพ่อวิจิตร ภัททกิตตโก" เจ้าอาวาสวัดบ้านน้ำมุด พระเกจิชื่อดังที่ชาวบ้านให้ความนับถือมาช่วยทำพิธี เผยระหว่างหลงอยู่ในป่าเจอชาย 2 คนตัวดำ สูงใหญ่ หน้าตาดุดัน สวดคาถาใส่หู พร้อมบอกให้เดินตามไปสลับกับการคลานท่ามกลางความมืด ไม่มีแสงสว่าง ไม่มีจุดหมาย ไม่รู้เวลา ไม่รู้วันจนได้ยินเสียงสวดมนต์เข้าหูอีกข้าง ก่อนได้ยินกรี๊ดร้องด้วยความเจ็บปวดของชายทั้ง 2 แล้วหายตัวไป

จากกรณีที่นายไวพจน์ วังคีรี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเขาพระอินทร์ หมู่ที่ 5 (บ้านภูเตย) ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ ได้หายตัวไปจากพื้นที่บริเวณไร่มันในหมู่บ้าน ขณะที่แม่ยังคงยืนดูลูกเดินเข้าทำธุระส่วนตัวในดงมันแล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม้ในเวลาต่อมาจะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเฉพาะกิจลาดหญ้าฯ อส.อำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่อุทยานลำคลองงู อาสาสมัครมูลฯธิพิทักษ์กาญจน์ และเพื่อนบ้านรวมกว่า 70 คน ออกค้นหาตลอดระยะเวลาที่หายไปตั้งแต่บ่ายวันที่ 19 ธันวาม 2564 แต่ก็ไม่พบร่อยรอยใดๆ 


จนกระทั่งในเวลา 17.30 น.ของวันที่ 23 ธ.ค.64 ชาวบ้านภูเตย พบตัวนายไวพจน์ วังคีรี ซึ่งอยู่ในสภาพอิดโรย ร่างกายไร้เสื้อผ้า เหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว เดินเท้าเปล่าเท้าทั้ง 2 ข้างบาดแผลพุพอง ยืนโบกรถอยู่ริมข้างทางบริเวณทุ่งเกษตร หมู่ที่ 5 บ้านภูเตย อบต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ ไร่ของนายทองสุก วรรณสัมผัส ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 8 กม.ก่อนจะแจ้งข่าวให้ดีให้ครอบครัวทราบในเวลาต่อมา

จึงเกิดคำถามมากมายตามว่า ตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืนที่หายตัวไป นายไวพจน์ วังคีรี หรือที่ครอบครัวเรียกชื่อเล่นว่า บิน ไปอยู่ไหน ไปกับใคร เกิดอะไรขึ้น ทำไมคนนับร้อยที่ช่วยกันออกตามหาแทบพลิกแผ่นดิน เดินค้นหาร่องรอยในพื้นที่เกือบทุกตารางนี้ เริ่มตั้งแต่ในพื้นที่ไร่มัน จุดที่นายบินเดินเข้าไป แต่ไม่พบร่องรอยใดๆเลย ตลอด 5 วันจนสุดท้ายครอบครัวต้องไปนิมนต์พระวิจิตร ภัททกิตตโก (หลวงตาจิตร) เจ้าอาวาสวัดบ้านน้ำมุด (พระเกจิอาจารย์ ชื่อดัง) ที่ชาวบ้านเคารพเลื่อมใสมาทำพิธีในบ่ายวันที่ 25 ธันวาคม 2564 จนนำมาสู่การพบตัวนายบิน ในเวลาเย็นวันนั้นเอง

วันนี้ (25 ธ.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 25/15 ม 5 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายบิน เต็มไปด้วยญาติ พี่น้อง เพื่อนสนิท รวมทั้งเพื่อนบ้านในหมู่บ้านและมาจากต่างหมู่บ้าน ที่เดินทางมาเยี่ยมและแสดงความยินดีกับพ่อและแม่ของนายบิน รวมทั้งมาร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับนายบิน พร้อมทั้งไต่ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากนายบิน

ในขณะที่นายบิน เองยังอยู่ในสภาพที่อิดโรย เนื่องจากความเหนื่อยล้า และยังขวัญเสียกับเรื่องราวที่เพิ่งพบเจอมา และยังคงต้องนอนพัก สลับกับการลุกนั่งบ้างในบางครั้งบนเตียนนอน กลางลานบ้าน ส่วนบริเวณแขนและมือทั้ง 2 ข้างพบร่องลอยบาดแผลและรอยถลอก จากการโดนใบไม้บาดและมีรอยฟกช้ำ เท้าทั้ง 2 ข้าง พบรอยช้ำเป็นจ้ำๆ และพุพองบริเวณหลังและฝ่าเท้า 

พร้อมกับเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า "ผมยังนอนผวา สะดุ้งตื่น ภาพผู้ชายตัวดำ รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางน่ากลัวที่คอยสวดคาถาหรืออะไรก็ไม่รู้กรอกหูผมอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งขู่ผมทุกครั้งที่ผมคิดจะหาทางหนีเพื่อจะกลับบ้าน

เที่ยงวันที่ 19 ธันวาคม ผมขับรถมอเตอร์ไซด์เพื่อจะไปรับแม่ กลับบ้านมากินข้าวเที่ยงด้วยกัน หลังจากช่วยพ่อรดน้ำผักที่แปลงผัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก เมื่อขึ้นไปรับแม่ที่สวนพริกมาถึงที่รถมอเตอร์ไซด์จอดอยู่ ผมรู้สึกปวดท้องจึงบอกให้แม่รอที่รถ เพื่อจะเข้าไปปลดทุกข์ในดงมันที่ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พอเดินเข้าไปในดงมันยังไม่ทันทำอะไร ทุกอย่างก็มืดลง 

ผมพยายามหันกลับไปมองหาแม่ แต่ก็ไม่พบ ไม่เจอและไม่ได้ยินอะไร นอกจากชาย 2 คนตัวดำ สูงใหญ่ หน้าตาดุดัน ที่สวดคาถาหรืออะไรใส่หูผม พร้อมบอกให้ผมเดินตามไป ผมต้องค่อยเดินสลับกับการคลานไปอย่างช้าๆ เนื่องจากทุกอย่างอยู่ในความมืด ไม่มีลม ไม่มีแสงสว่างใดๆ ไม่มีจุดหมาย แต่ต้องไปตามเสียง ที่ชาย 2 คนที่คอยสั่งผมอยู่บนยอดเขา ไม่รู้เวลา ไม่รู้วัน ทุกครั้งที่ผมคิดจะหันกลับบ้าน ผู้ชายทั้ง 2 ก็จะรู้และขู่ ยิ่งทำให้ตนเองหวาดกลัว

ผมอาศัยกินน้ำตามแอ่งน้ำเล็กๆ ที่เจอระหว่างทาง โดยเอาใบไม้มาม้วนแทนแก้วเพื่อคลายหิว บางครั้งก็กินหยวกกล้วยจากต้นกล้วยป่า ประทังความหิว อาศัยนอนใต้ต้นไม้บ้าง ตามโขดหินบ้าง บางคืนหนาวจนถึงกระดูก บางครั้งต้องเอาใบตองกล้วยป่ามาปูนอน มันเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนจะทรมาน คิดถึงพ่อและแม่อยู่ตลอดเวลา ในหูจะได้ยินเสียงสวดของผู้ชาย 2 คนนั้น สลับกับเสียงขู่ อยู่ตลอดเวลา 

ต่อมาผมเริ่มได้ยินเสียงพระสวดมนต์ แทรกเข้ามาในหูอีกข้าง ไม่นานเสียงพระที่สวดมนต์ค่อยๆ ดังขึ้นๆ ขณะที่เสียงสวดของชาย 2 คน เริ่มแผ่วลงๆ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงชาย 2 คนนั้นกรี๊ดร้องด้วยความเจ็บปวด วินาทีนั้นมีแสงสว่างเกิดขึ้นผมจึงได้เดินตามแสงสว่างนั้นออกมาจากที่มืดต่อจากนั้นผมจำอะไรไม่ได้ ก่อนจะรู้สึกตัวอีกที่เหมือนเดินอยู่ข้างทางที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่รู้ขณะที่ตาเริ่มพร่ามัว มารู้สึกตัวอีกที่ก็พบพ่อและแม่ รวมทั้งพี่ๆ และญาติ ทุกคนดีใจ ผมก็ดีใจที่ได้เจอพ่อและแม่อีกครั้ง หมอมาดูอาการผม ก่อนที่ทุกคนจะพาผมกลับบ้านอีกครั้ง 

ผมเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ ไม่คิดว่าจะได้กลับมาบ้านอีกครั้ง มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัว ผมไม่รู้จะเล่าอย่างไร ภาพผู้ชาย 2 คนยังติดตาผมอยู่จนวันนี้ ผมคงไม่กล้าออกไปไหนสักพักพี่

เมื่อถามว่าถ้าหายดีแล้วจะไปหาหลวงตาจันทร์ ที่วัดบ้านน้ำมุด ไหม ผมต้องไปแน่นอน ที่ผมรอดชีวิตมาได้ในครั้งนี้เพราะบารมีหลวงตาจันทร์ ที่ท่านช่วยผม แม่บอกว่าจะให้ผมบวช ผมก็ตั้งใจอยากบวชสักพักก่อนครับ...."

ขณะที่นายรวย และนางสมจิตร วังคีรี 2 สามีภรรยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยรอยยิ้มว่า รู้สึกดีใจมากที่ลูกชายปลอดภัย ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และเพื่อนบ้านทุกคนที่ช่วยออกติดตามหา ลูกชายของตนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่พบตัว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนเองเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่าเป็นเรื่องของความอาถรรพ์ของบ้านเขาพระอินทร์ ไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดกับครอบครัวของตนเอง 

ที่สำคัญการที่ลูกชายตนเองกลับมาได้อย่างปลอดภัยเป็นพระบารมีของหลวงตาจันทร์ วัดบ้านน้ำมุด ที่ท่านเมตตามาช่วยทำพิธี เพราะหลังจากที่ญาติที่อยู่บ้านน้ำมุด พาหลวงตามาทำพิธีบริเวณไร่มันสัมปะหลัง ที่เกิดเหตุได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าพบลูกชายที่บ้านภูเตย ซึ่งก่อนหน้าจะเดินทางกลับหลวงตาจันทร์บอกกับทุกคนว่า ไม่ต้องออกค้นหาหรอก เพราะทุกคนเหนื่อยมามากแล้ว ภายในวันนี้เดี๋ยวเขาก็ออกมาเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มากๆ โดยช่วงหนึ่งระหว่างทำพิธี ทุกคนที่อยู่ในพิธีได้ยินเสียงหลวงตาจันทร์พูดกับใครก็ไม่รู้ว่าให้ปล่อยตัวลูกชายของตนเองมา ถ้าไม่ปล่อยจะได้เห็นดี พร้อมกันนั้นหลวงตาได้ท่องคาถาซึ่งน่าจะเป็นภาษาเขมร

ชาวบ้านที่นี่ทุกคนเคารพและศรัทธาในตัวหลวงตาจันทร์ โดยใครที่มีเรื่องเดือดเนื้อ ร้อนใจ ก็มักจะไปหาหลวงตาจันทร์ ที่วัดบ้านน้ำมุด หลวงตาก็จะเมตตาให้ความช่วยเหลือ และครั้งนี้ไม่ใช้ครั้งแรกที่หลวงตาช่วยคนที่หายไปแบบน้องบิน เมื่อก่อนเคยมีเด็กในหมู่บ้านอื่นหายไป 2-3 วันก็ได้หลวงตาไปช่วยทำพิธีจนเด็กกลับมาได้อย่างปลอดภัย

ส่วนในเย็นวันนี้ที่บ้านนายบิน นายรวย และนางสมจิตร และเพื่อนบ้านเตรียมจัดงานฉลองที่ลูกชายกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย อีกทั้งเป็นการเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครฯ รวมทั้งเพื่อบ้านทุกคนที่ช่วยออกตามหาลูกชายตลอด 5 วัน ที่หายตัวไป  -  003

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ครูบาบุญชุ่ม\' กราบสังขาร \'อดีตพระอาจารย์ยันตระ\' เผยความผูกพันตั้งแต่สมัยยังเป็นเณร 'ครูบาบุญชุ่ม' กราบสังขาร 'อดีตพระอาจารย์ยันตระ' เผยความผูกพันตั้งแต่สมัยยังเป็นเณร
  • ชาวบ้านเชื่ออาถรรพ์! หนุ่มตัดต้นมะเดื่อไม่จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ล้มทับดับ ชาวบ้านเชื่ออาถรรพ์! หนุ่มตัดต้นมะเดื่อไม่จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ล้มทับดับ
  • ฟังแล้วขนหัวลุก! อาถรรพ์โลงศพเสียง\'ลั่น\'ดังขึ้นเมื่อใดต้องมีคนมาซื้อโลงศพทุกครั้ง ฟังแล้วขนหัวลุก! อาถรรพ์โลงศพเสียง'ลั่น'ดังขึ้นเมื่อใดต้องมีคนมาซื้อโลงศพทุกครั้ง
  • ลืออาถรรพ์เจ้าป่าเขาภูพานพรางตา พรานป่าซุ่มยิงสัตว์ กระสุนโดนเด็ก 14 ดับ ลืออาถรรพ์เจ้าป่าเขาภูพานพรางตา พรานป่าซุ่มยิงสัตว์ กระสุนโดนเด็ก 14 ดับ
  • มีวัดเดียวในอ่างทอง\'เมรุแฝด\'เผยช่วงแรกชาวบ้านหวั่นอาถรรพ์ตายคู่ปัจจุบันเป็นเรื่องปกติ มีวัดเดียวในอ่างทอง'เมรุแฝด'เผยช่วงแรกชาวบ้านหวั่นอาถรรพ์ตายคู่ปัจจุบันเป็นเรื่องปกติ
  • สำนักพุทธกาญจน์ลุยตรวจสอบปมคลิปเณรนั่งสมาธิเด้ง พร้อมย้ายเจ้าสำนักกลับต้นสังกัด สำนักพุทธกาญจน์ลุยตรวจสอบปมคลิปเณรนั่งสมาธิเด้ง พร้อมย้ายเจ้าสำนักกลับต้นสังกัด
  •  

Breaking News

เจดีย์อัฐิ ‘พระราชมนู’ ทหารเอกสมเด็จพระนเรศวรฯ ที่วัดช้าง จ.อ่างทอง

'อั๋น เจษฎา'ยื้อรักสุดใจผ่าน 'ห้ามไม่ไหว'เพลงของคนที่รู้ว่าเธอต้องไป แต่อยากขอโอกาสใหม่อีกครั้ง

'อีอึนแซม – เยริ'คัมแบ็คสู่สงครามแห่งชนชั้น ในซีรีส์มัธยมสุดแซ่บ

(คลิป) ‘ดร.เอ้’เปิดใจ! ลั่นเปลี่ยนเป้าเล่นการเมืองระดับประเทศ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved