ชายนอร์เวย์รักขม แจ้งตำรวจถูกสาวเขมรลวงให้รัก หลอกให้โอนเงินนับแสนหวังแต่งงาน สุดท้ายจับได้คบซ้อน
9 มกราคม 2565 นายไคร์เร วิกดาเฮ อายุ 55 ปี สัญชาตินอร์เวย์ ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากนายวินน์ ชัยเนตร ผู้ประกอบการร้านอาหารอร่อยคิดเช่นบางเสร่ และผู้ช่วยเหลืองานประชาสัมพันธ์ชุมชนตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ให้ช่วยพามาร้องขอความช่วยเหลือกับนายประทีป นาคบังเกิด ทนายความศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายจังหวัดชลบุรี ให้พามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.สำราญ สุขโต สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ให้ดำเนินคดีกับนางสาวเอ (นามสมมุติ) ชาวกัมพูชา อายุ 29 ปี ในข้อหาฉ้อโกงเงิน จำนวนเกือบ 200,000 บาท โดยการหลอกลวงและให้สัญญาว่าจะแต่งงาน จดทะเบียนสมรสด้วย สุดท้ายเชิดเงินหนี
นายไคร์เร กล่าวว่า ได้พบกับนางสาวเอ และสานสัมพันธ์รักกันทางเฟซบุ๊ก และได้เดินทางมาพบกันครั้งแรกเมื่อต้นปี 2562 ที่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ เมื่อได้พบกับนางสาวเอ และเกิดความพอใจ จึงตกลงคบหาดูใจเป็นคู่รักกันและตกลงจะพานางสาวเอ ไปแต่งงานกันที่ประเทศนอร์เวย์ หลังจากนั้นได้บินกลับประเทศ ซึ่งต่อมาในช่วงนั้นได้เกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก จึงไม่ได้เดินทางมาพบกัน แต่จะพูดคุยกันผ่านทางวีดีโอคอลไลน์ ตลอดระยะเวลามาปีกว่า และนางสาวเอ ได้บอกให้โอนเงินมาให้ครั้งละประมาณ 1,000 ดอลลาร์ อ้างว่าจะนำไปทำเอกสารเรื่องการแต่งงานกับทางสถานทูตนอร์เวย์ รวมแล้วเป็นเงินไทยเกือบ 200,000 บาท
ต่อมาเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2564 ก่อนวันคริสต์มาสได้ติดต่อกับนางสาวเอให้มาพบกันที่ชายหาดบางเสร่ จุดที่พบรักกันครั้งแรก แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายนางสาวเอ กลับไม่มาตามนัดทำให้เกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้ออกตามหา และพบว่ามาทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน ต.บางเสร่ และยังทราบอีกว่านางสาวเอ ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายชาวต่างชาติอีกคนหนึ่งด้วย จึงได้เข้าไปพูดคุยและทวงถามสัญญาเรื่องการแต่งงานและเรื่องเงินที่โอนมาให้ เพื่อทำเรื่องขอแต่งงานกับทางสถานทูตนอร์เวย์ แต่นางสาวเอ ไม่ยอมพูดคุยด้วยพร้อมบ่ายเบี่ยงหลบเลี่ยงอย่างไม่ใยดี
นายไคร์เร กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเสียใจมากกับการโดนหลอกในครั้งนี้ ทั้งที่ได้เตรียมงานแต่งงานที่ประเทศนอร์เวย์ และซื้อรถยนต์คันใหม่หวังใช้ชีวิตคู่กับนางสาวเอ แต่สุดท้ายมาเจอนางสาวเอ หลอกลวง ตนรู้สึกเสียใจมาก จึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีกับนางสาวเอ ให้ถึงที่สุด
ด้านนายประทีป กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับชาวต่างชาติที่ถูกหลอกลวงว่าจะแต่งงานด้วย โดยการโอนเงินให้ถือว่าไม่เป็นธรรมกับชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย และเช่นเดียวกันหญิงไทยก็ถูกหลอกในลักษณะเช่นเดียวกันนี้เหมือนกัน เมื่อได้รับการประสานขอความช่วยเหลือ จึงได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับสังคมต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี