ผวา ‘จระเข้’ ตัวเขื่องนอนอาบแดดข้างลำห้วยต้นน้ำลำพันชาด ชาวบ้าน-พระเชื่ออิงตำนาน ‘บักเฮ้า เฝ้าวังสามหมอ’
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า หลังจากในกระแสโซเซียลมีเรื่องราวของจระเข้โผล่ในพื้นที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี หลายคนทั้งฮือฮาทั้งหวาดผวาไปตามๆกันหวั่นจะทำร้ายชาวบ้าน โดยในโลกโซเซียลได้เผยแพร่คลิปของจระเข้ตัวใหญ่อยู่ต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำลำพันชาด แถวบ้านวังทอง บ้านคำยาง ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี
ต่อมาวันที่ 12 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าไม้งาม ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีชาวบ้านพบกับจระเข้ตัวเขื่องนอนอาบแดดอยู่บริเวณนี้ โดยได้พบกับนายวิชธวัช วรรณพัฒน์ อายุ 29 ปี ชาวบ้านบ้านคำยาง ต.ผาสุก และเป็นเด็กวัด วัดป่าไม้งาม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องจระเข้ที่ลำพันชาด ใครบอกไม่มีและไม่เชื่อ ตนเองบอกได้เลยว่าเชื่อ และจระเข้มีอยู่จริงๆ เห็นจะๆมาหลายเดือนแล้ว ขณะนอนอาบแดดอยู่บริเวณโขดหินอีกฝั่งของวัด ตอนนั้นถ่ายรูปเอาไว้ได้
นายวิชธวัช กล่าวอีกว่า เมื่อ 2 เดือนที่แล้วตนและเพื่อนได้ช่วยพระอาจารย์ปลูกต้นไม้บริเวณวัดและจะข้ามไปอีกฝั่งของลำห้วยที่เป็น อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ตอนประมาณ 09.00 น. ก็เห็นจระเข้ตัวใหญ่นอนอาบแดดอยู่ข้างริมน้ำ ตรงจุดนี้จะมีลักษณะคล้ายถ้ำ หากน้ำลดจะมีร่องลึกเข้าไป จระเข้จะนอนเล่นอยู่ตรงนี้ประจำ ถามว่ากลัวหรือไม่ บอกได้เลยไม่กลัว เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก หากขึ้นไปต้นน้ำแถวบ้านวังใหญ่ บ้านวังทอง ก็จะเห็นอีกตัวเป็นจระเข้เผือก 2 ตัวที่เจอมีลักษณะใหญ่ ขนาดกว้างเท่ากระสอบปุ๋ยความยาวประมาณ 3 เมตร ซึ่งตนไม่กลัว ปกติก็ลงเล่นน้ำในลำห้วยและพายเรือข้ามฝั่งช่วยงานวัดประจำ คิดว่าเราไม่ทำอะไรเขา เขาก็คงไม่ทำอะไรเรา
นายวิชธวัช กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเข้าพรรษาปี 2564 น้องชายก็ถ่ายคลิปเอาไว้ได้พอดีช่วงก่อนเที่ยง เห็นเป็นจระเข้ตัวใหญ่ ตัวที่ตนเองเห็นนอนอาบแดดอยู่บริเวณถ้ำตรงข้ามกับศาลาที่ทำไว้ริมน้ำ โดยวันนั้นเจ้าอาวาสได้ให้พวกตนมาช่วยทำศาลาริมน้ำของวัด น้องชายก็เห็นจระเข้ตัวเป็นๆก็เลยถ่ายคลิปเอาไว้ได้
ส่วนพระสกุล ธีรปัญโญ พระลูกวัดที่วัดป่าไม้งาม กล่าวว่า ใครบอกว่าไม่เชื่อว่าจระเข้มีจริงที่ลำพันชาด แต่อาตมาเชื่อเพราะจำพรรษาอยู่วัดนี้มา 9 ปีเห็นจระเข้ทุกปี น่าจะเป็นจระเข้ตามธรรมชาติ ก็ปล่อยเขาไป เราไม่ได้ไปทำร้ายเขา แต่หากใครไม่เชื่อมาอยู่ที่วัดลองมาสังเกตดูได้ โดยลำห้วยลำพันชาด มีพื้นที่กว้างใหญ่กินพื้นที่หลายพันไร่ ตั้งแต่บ้านวังใหญ่วังทอง ต.ผาสุก ยาวไปถึง ต.หนองกุงทับม้า และเป็นรอยต่อระหว่าง อ.วังสามหมอ ติดต่อกับ อ.คำม่วง และ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์
พระสกุล เล่าเรื่องราวของตำนานจระเข้ “บักเฮ้า” ว่า สำหรับ อ.วังสามหมอ ถือว่าเป็นหนึ่งในอำเภอที่ได้ชื่อว่ามีตำนานเกี่ยวข้องกับจระเข้ ก่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอวังสามหมอ เมื่อปี 2518 ได้รับยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2524 นาม “วังสามหมอ” มาจากตำนานที่ว่ามีจระเข้ใหญ่ตัวหนึ่ง หลงกลืนเอาร่างธิดาของเจ้าเมืองท่าขอนยาง และกลัวความผิดจึงหนีการตามล่ามาอาศัยอยู่ที่วังน้ำใหญ่ของลำน้ำพันชาด พอเจ้าเมืองได้ข่าวจึงให้หมอจระเข้มาปราบจระเข้ตัวนี้ โดยให้หมอผู้มีเวทย์มนต์มาทำพิธี แต่หมอจระเข้ 2 คนแรก ซึ่งเป็นผู้ชายสู้พญาจระเข้ไม่ได้ จนต้องสังเวยชีวิต คนสุดท้ายเป็นหมอผู้หญิงน่าจะชื่อ “นางคำบาง” ปราบจระเข้ได้ เพราะการที่ใช้หมอจระเข้ถึง 3 คนนี้เอง วังน้ำแห่งนี้จึงถูกตั้งชื่อว่า “วังสามหมอ ” และถูกนำมาใช้เป็นชื่ออำเภอในที่สุด และแต่ละมุมเข้าตัวอำเภอจะมีรูปจระเข้อยู่
-005