สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์ความยาว 10 กว่านาทีเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2022 ผ่านทางสื่อของ China Media Group (CMG) และอินเทอร์เน็ต ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา โดยนัยยะที่ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษคือเรื่องการสร้างความรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ สร้างความมั่งคั่งและความอยู่ดีกินดีของประชาชนในประเทศ ถ้าเราลองมาวิเคราะห์ดูแล้วเราจะพบเรื่องที่น่าสนใจซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนาประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์ในอนาคตที่มีความชัดเจน ซึ่งอาจจะแบ่งออกได้เป็น 7 บทเรียนสำคัญที่ไทยเราอาจจะศึกษาการพัฒนาและการรับมือของจีนในรอบปีที่ผ่านมา มีเรื่องไหนบ้างลองมาดูกันครับ
เรื่องแรกคือการวางแผนจัดการความเสี่ยงในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคงภายในประเทศ การขจัดปัญหาการคอรัปชั่น และการวางแผนรับมือกับโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้น คำกล่าวตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ สีจิ้นผิงได้บอกว่า
“สิ่งที่ประชาชนกังวลคือสิ่งที่เรากังวล สิ่งที่ประชาชนปรารถนาก็เป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติตาม ข้าพเจ้ามาจากชนบทเหมือนกัน” เป็นการสื่อถึงการรับรู้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนในประเทศว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทางภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือและลงมือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
การฉลองครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา คือการก่อตั้งระบบอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งทำให้ปัจจุบันประเทศจีนกลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และเป็นผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุด การก้าวสู่การเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง ทำให้คุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศอยู่ดีกินดีมากขึ้น ซึ่งที่ขาดไม่ได้คือตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนอีกอันในระดับนานาชาติคือ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ด้านวัฒนธรรม พวกภาพยนตร์ ละคร และเพลง โครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง ถนนและเขื่อน ก็เป็นโจทย์ใหญ่ที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้ดำเนินการอย่างจริงจังเช่นกัน
การแก้ไขปัญหาความยากจน นับตั้งแต่การปฏิรูปและการเปิดประเทศ ประชาชนจำนวน 770 ล้านคนได้หลุดพ้นจากความยากจนที่ได้วางเป้าไว้ โดยจะเห็นได้จากการจัดการระบบประกันสังคม ประกันสุขภาพพื้นฐาน การดูแลผู้สูงอายุที่ครอบคลุมประชาชนกว่า 1,300 ล้านคน ทำให้อายุขัยเฉลี่ยของประชากรทั้งประเทศสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการเปิดประเทศเป็นต้นมา
การรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของแผ่นดินบ้านเกิดและการรักษาเสถียรภาพของประเทศ โดยสีจิ้นผิงกล่าวย้ำถึงเรื่องของการสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ดังประโยค "ด้วยความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความร่วมมือเท่านั้น ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจึงจะสามารถเขียนบทใหม่ในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติได้” ไม่ว่าจะเป้นเรื่องความรับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสีจิ้นผิงได้พูดถึงกรณี แม่น้ำหวงเหอ (หรือ แม่น้ำเหลือง) ซึ่งอยู่ในโครงการอนุรักษ์ ซึ่งในฐานะคนจีนเราต้องสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรและมรดกของประเทศร่วมกัน นอกจากนี้เราอาจมองไปที่เรื่อง ไต้หวัน หรือของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง การสร้างความเข้าใจ ความสมานฉันท์และการร่วมมือสร้างสันติภาพน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการอยู่ร่วมกัน
การพัฒนาและแจกจ่ายวัคซีนโควิด อีกผลงานที่โดดเด่นของการต่อสู้กับโรคระบาดตั้งแต่ปี 2019 คือการรับมือกับโควิด ปฏิเสธไม่ได้ว่าจีนมีมาตรการจัดการและรับมือกับโรคระบาดที่เข้มงวดและรัดกุมในเรื่องความปลอดภัยด้านสาธารณสุขในระดับนานาชาติ จีนยังให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับวัคซีนกับนานาชาติกว่า 100 ประเทศและจัดหาอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดให้กว่า 150 ประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยด้วยเช่นกัน มากกว่านั้นภาพในสื่อต่าง ๆ เรายังเห็นว่ารัฐบาลท้องถิ่น โรงเรียน โรงพยาบาล สถาบันวิจัย และชุมชนผู้อยู่อาศัยทั่วประเทศ ที่สีจิ้นผิงกล่าวถึงในสุนทรพจน์ อันจะเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติ และช่วยกันปลูกฝังจิตสำนึกเพื่อป้องกันและควบคุมโควิดอย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำเร็จในการสำรวจอวกาศ นับเป็นอีกเรื่องท้าทายของประเทศด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมาจีนได้ประกาศความสำเร็จในการออกสำรวจอวกาศหลายโครงการ ได้แก่ การสำรวจดาวอังคารของยานจู้หรง หลังทำงานบนพื้นผิวดาวอังคารนาน 90 วันบนดาวอังคาร หรือคิดเป็นราว 92 วันบนโลก การสำรวจดวงอาทิตย์ของดาวเทียมซีเหอ ซึ่งเป็นดาวเทียมสำรวจดวงอาทิตย์ดวงแรกของจีน และดวงแรกของโลก รวมถึงการท่องอวกาศของโมดูลสถานีอวกาศเทียนเหอ ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในการส่งนักบินอวกาศขึ้นไปยังสถานีอวกาศเทียงกงอันจะทำให้ประเทศมีการพัฒนาอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้นี้
และการกล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2022 ซึ่งได้สร้างขวัญและกำลังใจแก่เหล่านักกีฬาจีนที่มีความมุ่งมั่น อดทนและมุมานะในการคว้าชัยชนะให้กับชาติ เราจะเห็นได้ว่าระบบการอัดฉีดงบประมาณและสวัสดิการให้นักกีฬาทีมชาติที่สร้างแรงจูงใจและกำลังใจให้แก่นักกีฬาของจีน เช่นการแจกเงินรางวัล แจกบ้าน รวมถึงการแจกรถหรูแบรนด์ดังของจีนอย่าง “หงฉี” แก่นักกีฬาจีนทุกคนที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกเกมส์เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมาเป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่วงการการกีฬาและความเชื่อมั่นในเวทีนานาชาติของการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกในปีนี้ ผู้เขียนจึงอยากชวนทุกท่านคิดต่อว่าในรอบปีที่ผ่านมาไทยเรามีองค์ความรู้ หรือมุมไหน ประเด็นใดที่ไทยเราประสบความสำเร็จ หรือสามารถประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นของจีนมาพัฒนาบ้านเราได้บ้าง อย่างวัคซีนโควิด หรือ “วัคซีนใบยา” ของไทยที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยไทยก็กำลังจะออกมาช่วยเหลือคนไทยในอีกไม่นานนี้ครับ
บทความโดย: อ.ดร.ธีรติร์ บรรเทิง คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า). -008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี