31 พ.ค.65 เพจเฟซบุ๊ก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ" โพสต์ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายเกี่ยวกับพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนตัว ที่กำลังจะบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.65 นี้ โดยข้อความระบุว่า "ตอนนี้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนตัวหรือ PDPA กำลังเป็นประเด็นร้อนในสังคม ในฐานะทนายอยากมาแนะนำข้อกฎหมายจะได้ไม่หวาดกลัวกันจนเกินไปนะครับ การกระทำทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจตนา การถ่ายภาพเพื่อประโยชน์ส่วนตัว นำไปลงสื่อโซเชียลโดยไม่เกิดรายได้ไม่ถือว่าผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เพื่อมารยาทอันดี ถ้าติดภาพคนอื่นแล้วเขาท้วงติงมา ก็ควรลบเพื่อความสบายใจของบุคคลที่ไม่อยากอยู่ในรูปเรานะครับ การเซ็นเซอร์ก็เป็นทางออกที่ดีเช่นกัน"

อย่างไรก็ตาม เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บางรายก็เห็นด้วย และบางรายก็ไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลที่ต่างกัน อาทิ ไอ้คำว่าเจตนานี้แหละที่เป็นปัญหาในการตีความ... ส่วนใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยวินิจของเจ้าหน้าที่อีก... ซึ่งก็เห็นหลายครั้งเจ้าหน้าที่เองก็หาผลประโยชน์จากอำนาจตรงนี้อีก...มันกว้างมาก... หลายครั้ง​ ปชช​ ทั่วไป​ ตาสีตาสา​ ก็ตกเป็นเหยื่อเพราะความไม่รู้ไปอีก... และอีกอย่างหากต้องการเตือนภัยมิจฉาชีพหรือแจ้งข่าวสารการกระทำผิดแบบนี้ก็ทำไม่ได้เลยสิ

ส่วนตัวเห็นด้วยกับกฎหมายข้อนี้ค่ะ ยกตัวอย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆคือ แอบถ่ายคนที่นั่งกินข้าวข้างถนนแล้วเอามาลงในกลุ่มดราม่าว่าคนเราต้นทุนไม่เท่ากันงี้ ล่าสุดเพจคนดังคนนึงแชร์รูปพนักงานเก็บขยะที่นอนอยู่ท้ายรถขนขยะ แล้วมีแคปชั่น บางคนไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะเอาเงินที่ไหนให้ลูกไปโรงเรียน คือเราเห็นแล้วเฮ้ยมันไม่โอเคนะ คุณรู้ได้ไงว่าเค้าลำบากขนาดนั้น โอเคถึงเค้าจะลำบากจริงๆแต่ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาเอารูปเราไปทำแบบนั้นแน่ๆ สมมุติว่าเราอยากช่วยคนที่ลำบากเราควรไปถามเค้าว่า ให้ช่วยอะไรมั๊ยถ้าเราให้เงินหรือสิ่งของแล้วขอถ่ายรูปถ่ายคลิปเค้าโอเครึเปล่า ไม่ใช่แอบถ่ายมาทำคอนเทนต์

แล้วแบบนี้ประชาชนถูกทำร้ายหรือเห็นใครถูกทำร้ายเราอัดคลิปวีดีโอเพื่อเป็นหลักฐานได้หรือไม่คะ เช่นการค้นบ้าน ค้นรถ หรือ มีการทำร้ายกันเกิดขึ้น?

โอ้ยเกิดมาก็ค่อนคนเข้าไปแล้วทำมัยยุคนี้มันอยู่ยากอยู่เย็นเหลือเกินน้อ

ผมว่าอยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องผลักดันกฏหมาย อยากให้เสนอเพิ่มโทษกฏหมายเกี่ยวกับคดียาเสพติด ปล้นจี้ เครื่องเสียง ฆ่า ข่มขืน อาวุธปืนฯมากกว่าเอาให้หนักๆดีกว่าจะมาสนใจเรื่องแบบนี้

ผมคิดว่ากฎหมายข้อนี้ประชาชนทั่วไปได้รับผลทางลบมากทางบวก และเป็นเครื่องมือในการข่มขุ่และปิดปากเช่นเด็กนักเรียนโพสต์การกระทำของครูอาจารย์ที่มีพฤติกรรมไม่ดีหรือทำร้ายนักเรียนหรือการแฉพิรุธของข้าราชการที่อาจเกิดความเสียหายหรือทุจริตในหน้าที่ หรือการแอบถ่ายการกระทำความผิด ต้องแจงให้ชัดไม่ใช่ต้องมาตีความกันคดีต่อคดีไปเลื่อยๆ เป็นต้น.-008