เผยช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เมืองกาญจนบุรี ที่เสียชีวิตเหลือแต่ซากกลางหุบเขา เป็นเพศผู้อายุกว่า 30 ปี พบถูกเฉือนทุบกรามเอางาไป เตรียมล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ความคืบหน้ากรณีพบช้างป่าไม่ทราบเพศเสียชีวิตเหลือแต่ซากหนังหุ้มกระดูกอยู่กลางป่าหุบเขาท้องที่หมู่ 3 บ้านโป่งปัด ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 28 ก.ค.65 นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ร่วมกับ พ.ต.ท.มณิภัทร เพ็งเกร็ด สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและหาหลักฐานถึงสาเหตุการเสียชีวิตของช้างป่าตัวดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยจากการตรวจสอบพบว่าช้างป่าตัวดังกล่าวเป็นช้างป่าเพศผู้อายุกว่า 30 ปี เสียชีวิตมาแล้วกว่า 2 เดือนและจากการตรวจสอบพบว่าช่วงหน้าบริเวณกรามของช้างป่าถูกของมีคมเฉือนเปิดและทุบกรามให้แตก ซึ่งน่าจะเป็นการถอดเอางาไป
ทั้งนี้ นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบซากช้างที่เสียชีวิตในเบื้องต้น พบว่าช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างเพศผู้ น่าจะมีอายุมากกว่า 30 ปีและเสียชีวิตมาแล้วกว่า 2 เดือน จากการตรวจสอบซากของช้างป่าอย่างละเอียดพบว่ามีร่องรอยการเฉือนหนังช้างบริเวณกรามและทุบให้กรามแตก คาดว่าน่าจะเอางาของช้างออกไป ซึ่ง พ.ต.ท.มณิภัทร เพ็งเกร็ด สว.(สอบสวน)สภ.ลาดหญ้า ได้ถ่ายภาพพร้อมจดทำบันทึกเรื่องราวเอาไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าผู้ที่มาเอางาออกจากตัวช้างไปเป็นคนทำให้ช้างตายหรือไม่อย่างไร โดยจะต้องรอการพิสูจน์สาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งก่อน
ทั้งนี้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จะได้ประสานสัตวแพทย์ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้ามาทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งและขณะนี้ได้ทำบันทึกการตรวจสอบส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีไม่ว่าผู้นั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของช้างหรือเกี่ยวข้องกับการนำเอางาช้างออกไปก็ตาม
นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เปิดเผยว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่าช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ 2565 ที่ผ่านมา เคยมีรถตู้ประสบเหตุชนช้างและช้างตัวดังกล่าวได้เดินหนีเข้าไปในป่า ซึ่งการตามร่องรอยในช่วงนั้นพบว่าช้างยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ จึงไม่แน่ใจว่าช้างตัวที่เสียชีวิตนี้จะเป็นช้างตัวเดียวกันหรือไม่อย่างไร - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี