"ทุ่งลมโชย" เป็นอีกสถานที่แห่งหนึ่งในพื้นที่แห่งการเรียนรู้การทำเกษตรของคนเมืองที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร โดยอาจารย์ประจักษ์ บุตรศรี หรือ อาจารย์ต้อย ได้เนรมิตพื้นที่มรดกทั้งหมด 6 ไร่ เป็นพื้นที่การเรียนรู้การทำเกษตร โดยเริ่มเปิดคอร์สสอนอย่างจริงจังเมื่อปี 2562 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
“ผมมีที่มรดกที่คุณพ่อให้ เป็นมรดก 6 ไร่ อยู่ที่ จ.นครนายก สมัยคุณลุง คุณพ่อ ที่ถูกทิ้งรกร้าง และ ผมก็มองว่า ทรัพย์ในดินเรามี แต่ไม่นำมาใช้ ตอนนั้นออกจากงานใหม่ๆ ก็ไปเรียนรู้งานกับเพื่อนที่ จ.ชลบุรี โดยเป็นแปลงปลูกสวนผักสลัดอินทรีย์ ซึ่งพื้นฐานเดิมผมมีทักษะความเป็นวิทยากร และความรู้หนึ่งก็คือ ถ้าคุณทำโดยไม่มีความรู้ ก็ต้องไปคลำหาทางที่ไม่ถูกต้อง แต่ถ้าเรียนรู้ และ ไม่ทำเลยก็ไม่ได้ ผมก็ไปเรียนต่อด้านเกษตรกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่เรียนไม่จบ เพราะผมจบด้านบริหารมา และ ต่อมาก็ใช้ทักษะความเป็นวิทยากรมาเปิดคอร์สสอน โดยคลาสแรกมีคนมาเรียน 40 คน ต่อมาออกรายการหนึ่ง คือ กรีน ฟาร์ม วาไรตี้ พอรายการนี้ออกอากาศไป มีคนมาเรียนเพิ่มเป็นร้อยกว่าคน” อาจารย์ต้อยเล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง
ด้วยความที่อาจารย์ต้อยเชี่ยวชาญในการเป็น “วิทยากร” มาแต่เดิม เมื่อมาลุยงานด้านเกษตร จึงนำความรู้ด้านเกษตรกรรมกับพื้นที่ใน จ.นครนายก มาเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ซึ่งเน้นให้ความรู้กับคนที่ทำเกษตรไม่เป็นเลย หรือ เริ่มจากศูนย์นั่นเอง
ปัจจุบันคอร์สทำเกษตรอินทรีย์ของ อ.ต้อย นั้น เปิดสอนในราคา 1,100 บาทต่อคนต่อวัน โดยเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เริ่มจากรับประทานอาหารเช้าก่อนเข้าเรียนภาคทฤษฎี และ พักรับประทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นช่วงบ่าย ชมสวน และ ลงมือฝึกทำปุ๋ยน้ำ และ ฝึกปลูกผัก โดยแปลงผักของผู้เรียน ทางอาจารย์ต้อยจะดูแลให้เป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้น ผู้เรียนกลับมาตัดผลผลิตเพื่อนำไปรับประทาน หรือ แจกจ่ายให้เพื่อนๆ โดยวิธีการสอนของอาจารย์ต้อยเน้นลงมือทำให้ดู (Lead by example)
นอกจากนี้ อาจารย์ต้อยยังมองว่า ภาพรวมของประเทศไทย ทุกวันนี้ ปริมาณผักในไทยที่มีสารเคมีมีปริมาณมาก เพราะฉะนั้นวิถีชีวิตประชากรไทยจะเป็นอย่างไร ถ้าต้องบริโภคผักแบบนั้นทุกวัน ซึ่งการทำเกษตรอินทรีย์จะเป็นการลดค่าใช้จ่ายส่วนตัวในการบริโภค และ เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้เพิ่ม
“งานเกษตรเป็นงานใหญ่ แต่จะมีใครบ้างที่จริงจังและให้ความสนใจ ซึ่งเวลาผมเปิดคอร์สสอน ผมไม่ได้มองเรื่องธุรกิจ และ กำไรเป็นหลัก แต่ผมมองผู้เรียนซึ่งคนเมืองส่วนใหญ่ที่เริ่มปลูกผักจะปลูกผักไม่เป็น ไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ และ เหตุผลอีกมาก ทำให้ตัวผู้สอนต้องตั้งสมมติฐานของผู้เรียนก่อน คือ ทุกคนที่มาเรียน เบส ออน ซีโร่ เรื่องเกษตร เราก็ต้องสอนแบบละเอียด และในการเรียน หนึ่งคำถามก็จะเกิดประโยชน์กับผู้ฟังทั่วไป เพราะเราเรียน 40-50 คน” อาจารย์ต้อยเล่าให้ฟัง
ที่ผ่านมา อาจารย์ต้อย หรือ “โค้ชต้อย” เป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านเกษตร โดยมีผู้สนใจในหลายอาชีพเข้าร่วมอบรม และ หลายหน่วยงานที่โค้ชต้อยเข้าไปสอน อาทิ “สหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนแห่งประเทศไทย (SDGs-PGS นครปฐม) เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี