ลุงชัยวัย 70 ปีชาวเชียงรายคิดค้นวงจรชาร์จไฟแทนพลังงานแสงอาทิตย์จากอุปกรณ์ที่ถูกทิ้ง "วอนสื่อ"ช่วยตามหาลูกสาว 2 คนอยู่สหรัฐฯติดต่อกันไม่ได้ 37 ปี "ก่อนตาย" ขอเจอหน้าลูกสักครั้ง เพื่อมอบสิทธิบัตรที่กำลังยื่นขอให้เป็นสมบัติลูก
วันที่ 23 ส.ค.65 นางบังอร มะลิดิน รองนายเทศมนตรีนครเชียงราย แจ้งว่า ได้รับการประสานจากนายเศรษฐา เวียงนนท์ อายุ 70 ปีได้คิดค้นวงจรชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่โดยไม่ต้องใช้พลังงานจากแหล่งอื่น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้และอยากให้ผู้ที่สนใจนำเครื่องและวงจรชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอร์รี่ไปทำการต่อยอดแนวความคิด เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ตามพื้นที่ห่างไกลและยังอยากมอบสิทธิบัตรเครื่องดังกล่าวที่อยู่ระหว่างการยื่นขอให้กับลูกสาว 2 คนแต่ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้มานาน 37 ปี แล้ว
ทางทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายเศรษฐา เวียงนนท์ อายุ 70 ปี หรือ "ลุงชัย" ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ แห่งหนึ่ง ภายในพื้นที่บ้านหัวดอย ตำบลท่าสาย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อสอบถามในเรื่องดังกล่าว จนทราบว่า "ลุงชัย" สามารถคิดค้นเครื่องดังกล่าวได้มานานกว่า 1 ปีแล้วและพยามพัฒนาไปเรื่อยๆ พร้อมกับยื่นขอจดสิทธิบัตรซึ่ง "ลุงชัย" เล่าว่า ตนเองไม่รู้จักใครนอกจากนางบังอร มะลิดิน รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย จึงได้ประสานงานไปในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวได้เมื่อสอบถามถึงเครื่องผลิตไฟฟ้าดังกล่าวทราบว่า เป็นการคิดค้นในเรื่องของการชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่ตลอดเวลา จากการนำอุปกรณ์ต่างๆ ที่หลายคนไม่ใช้แล้ว ทั้งไดนาโม ตัวชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่ ซึ่งแหล่งจ่ายไฟเป็นแบตเตอร์รี่รถยนต์ จ่ายไฟเข้าเครื่องแปลงไฟจาก 12 โวลต์ ดีซี เป็น 220 โวลต์ เอซี และต่อไฟ 12 โวลต์ ดีซี เข้าไปยังมอเตอร์ เพื่อปั่นไดนาโม เพื่อผลิตไฟ 13.8 โวลต์ ดีซี ขึ้นมาอีก และจ่ายเข้าตัวชาร์จไฟเพื่อจ่ายไปยังแบตเตอร์รี่เพื่อชาร์จให้แบตเตอร์รี่ มีไฟตลอดเวลา ซึ่งที่เคยพบเห็นมาก็จะอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์เท่านั้นจึงได้คิดค้นเครื่องกล่าว ซึ่งเครื่องนี้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้
อย่างไรก็ตาม "ลุงชัย" ยังมีอีกเรื่องราวที่อยากขอความช่วยเหลือ นั่นคือ อยากตามหาลูกสาว 2 คน ซึ่งตอนนี้น่าจะอายุประมาณ 45 ปีให้มารับสิทธิบัตรนี้ต่อ หากได้รับการอนุมัติและชีวิตที่เหลืออยู่ก็อยากจะเจอหน้าลูกสาวทั้ง 2 คน ก่อนตายเช่นกัน เพราะไม่ได้พบหน้าลูกมาแล้วกว่า 37 ปี เนื่องจากอดีตตนเองเคยรับราชการ และมีภรรยา 1 คน ลูกสาว 2 คน และในปี 2526-2534 ต้องประสบกับเรื่องราวที่ไม่คาดคิด ต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำ จึงทำให้ภรรยา ทำการฟ้องหย่าและขอรับลูกสาว 2 คนไปดูแลและมาทราบว่าลูกสาวไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ หลังจากออกจากเรือนจำมาก็พยามติดต่อตามหาลูกสาว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จนมาถึงทุกวันนี้
โดย "ลุงชัย" เล่าต่อว่า ทราบเพียงว่าลูกสาวอยู่ที่รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา จึงอยากให้ลูกสาวมาเจอหน้าพ่อสักครั้งก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต เพื่อมอบสิ่งนี้ให้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่มีให้ ส่วนลูกสาวชื่อนางสาววรางคณา เวียงนนท์ และนางสาวชลดา เวียงนนท์ โดยหากสามารถติดต่อลูกสาวทั้ง 2 คนได้อยากให้โทรหาผู้เป็นพ่อสักครั้งที่หมายโทรศัพท์ 06-1891-4253
- 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี