ตั้งสติก่อนโพสต์-แชร์-เมนต์! นักวิชาการเตือน‘โกรธใครอย่าระบายลงโซเชียล’ ถูกฟ้อง‘หมิ่นประมาท’ติดคุก-เสียประวัติไม่คุ้ม
28 ก.ย. 2565 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดอบรมหลักสูตร “สื่อสังคมยุคใหม่กับการเคลื่อนไหวทางสังคมในประเทศไทย” ให้กับบุคลากรในแวดวงสื่อสารมวลชน ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ซ.สุขุมวิท 22 ถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ
โดยช่วงหนึ่งของการอบรม ดร.ใยแก้ว ศีลรักษ์ อาจารย์ภาควิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ สจล. ในฐานะนักวิชาการด้านกฎหมายธุรกิจ แอดมินเพจ “กฎหมายสำหรับผู้ประกอบการ” ซึ่งบรรยายหัวข้อ “กฎหมาย ประกาศที่เกี่ยวข้องกับสื่อยุคใหม่และการเคลื่อนไหวทางสังคม” กล่าวถึงความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ว่าอยากให้ผู้เข้าอบรม รวมถึงนักเรียน-นักศึกษา ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น เฟซบุ๊ก
เพราะเมื่อมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น จะมีความผิดทั้งคนโพสต์ แชร์ รวมถึงคนที่ไปร่วมคอมเมนต์ด้วย หากผู้ฟ้องเห็นว่าเข้าข่ายทำให้ตนเองเสียชื่อเสียงและถูกดูหมิ่นเกลียดชัง โดยผู้ที่ต้องการฟ้องสามารถทำได้โดยแคปภาพข้อความที่เป็นปัญหาเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะมี 2 ช่องทางในการดำเนินคดี คือ 1.แต่งตั้งทนายฟ้องศาลเอง กับ 2.แจ้งความกับตำรวจ ณ ท้องที่ที่ทราบเรื่อง
“อยากจะบอกว่าถ้าเรารู้สึกว่าที่เราเขียน แล้วคู่กรณีเขามาแล้วเราทำให้เกิดความเกลียดชังหรือเขาเสื่อมเสียจริงๆ ยอมไปเถอะ เราก็อาจจะดีกว่า เพราะอันนี้มันเป็นโทษทางอาญา มันไม่คุ้ม เพราะถ้าสมมติเราไม่ยอม เราดื้อแพ่งไป เราอาจจะถูกจำคุก ซึ่งประวัติมันก็ไม่ดี อันนี้ก็เลยอยากจะบอกฝากว่าเกลียดใครก็เก็บไว้ในใจหรือมาฝากข้างนอก ก็ไม่ต้องไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก คือถ้าโพสต์ในเฟซบุ๊ก ชีวิตเราวันนี้มันอาจจะฆ่าชีวิตเราในอนาคต เรียนมาตั้งเยอะ เราเรียนหนังสือมาตั้งสูง มันอาจจะตกม้าตายเพราะแค่เรื่องวันนี้ที่เราโกรธนิดเดียว” ดร.ใยแก้ว กล่าว
ดร.ใยแก้ว กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีสำนักข่าวซึ่งปัจจุบันล้วนมีเพจเฟซบุ๊กสำหรับเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร แล้วอาจมีผู้มาคอมเมนต์ในช่องแสดงความคิดเห็นในลักษณะล่อแหลมหมิ่นเหม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ประเด็นนี้หากสื่อเป็นผู้เผยแพร่โดยทำตามหน้าที่ และเป็นการเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงไม่ได้ใส่ความคิดเห็นของตนเองลงไป เช่น ข่าวนาย A ฆ่านาย B ข้อเท็จจริงคือนาย A เป็นผู้ลงมือฆ่าจริง และนาย B ก็ถูกฆ่าตายจริง นี่คือการเสนอข่าว ส่วนคนที่มาตอมเมนต์ว่านาย A ฆ่านาย B เพราะเหตุต่างๆ นานา หากมีความผิดก็เป็นความรับผิดของคนที่คอมเมนต์นั้นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี