เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 เฟซบุ๊กแฟเพจ “รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai.com” ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถเมล์สายต่างๆ ทั้งขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมเอกชน โพสต์ข้อความดังนี้
10 ตุลาคม 2565 นี้ ขสมก.ประกาศหยุดให้บริการรถเมล์ในเส้นทางสาย 34 82 88 และ 140 ซึ่งมีเสียงสะท้อนของประชาชนเข้ามายังเพจ แสดงความกังวลในสิทธิต่างๆที่เคยได้รับจากการให้บริการของ ขสมก. ว่าถ้าหากเอกชนเข้ามาเดินรถแล้ว สิทธิเหล่านี้จะหายไป บ้างก็กังวลเรื่องจำนวนของรถที่ให้บริการ เรื่องเวลาการให้บริการจะหมดเร็วกว่า ขสมก.วิ่งไหม กะสว่างจะมีไหม คำถามมากมายที่มีเข้ามา ซึ่งแอดมินเองก็กังวัลไม่แพ้กับสมาชิกทุกท่านครับ
การปฏรูประบบรถเมล์ตอนนี้ คงมีผลกระทบกับหลายๆคน พนักงาน ขสมก.สายที่ถูกยุบก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน บางคนต้องย้ายอู่ ไปทำงานสายใหม่ เดินทางมาทำงานลำบาก ในมุมประชาชนผู้ใช้บริการ บางสายเคยเสียค่าโดยสาร 8 บาท ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มตามระยะทาง 15 20 25 บาท สิทธิต่างๆเช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สิทธิลดหย่อนต่าง จะหายไป
หลายเสียงก็ตั้งคำถามว่าการปฏิรูปควรทำให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรถเมล์ใหม่ ไม่ใช่ปฏิรูปแล้วทำให้ประชาชนเดือนร้อน ลำบากกว่าเดิม 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ การบรรจุรถในสายที่ 82 และ 140 เอกชนจะบรรจุได้เท่าของเดิมที่ เค้าทำไว้ไหม จริงๆ ขนส่งไม่ควรจำกัดจำนวนขั้นสูงเลย เพราะบางสาย ความต้องการมันมีมากกว่า ที่ขนส่งกำหนด นี่คือสิ่งที่ประชาชนกังวล และเป็นห่วง
เส้นทางสายรถเมล์ที่ได้วิ่งแทน ขสมก.ไปก่อนหน้านี่ภาพชัดแล้ว ว่า เอกชนเดินรถสู้ ขสมก.ไม่ได้เลย เสียงเรียกร้องมากมาย ว่าสรุปปฏิรูปเพื่อใคร? ปัญหาที่เกิดขึ้นเสียงของประชาชนมีความหมายอยู่หรือไม่
โดยเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ขสมก. พร้อมบวก” ซึ่งเป็นเพจทางการของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โพสต์ข้อความดังนี้
ขสมก. หยุดการเดินรถโดยสาร สาย 34 82 88 และ 140 ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.นี้เป็นต้นไป เนื่องจากรถโดยสารเอกชน สามารถจัดเดินรถโดยสารในเส้นทางดังกล่าวแล้ว
สาย 34 รังสิต - หัวลำโพง (ทางด่วน)
สาย 82 ท่าน้ำพระประแดง-บางลำพู
สาย 88 วัดคลองสวน-ลาดหญ้า
สาย 140 แสมดำ - อนุสาวรีย์ชัยฯ (ทางด่วน)
มาร่วมบวกเพื่อสร้างความทรงจำดีๆ ระหว่างแฟนๆ และรถเมล์ ขสมก. ทั้ง 4 เส้นทางนี้กันนะคะ
ด้านนายฉัตรไชย ภู่อารีย์ นักวิชาการอิสระด้านการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทาง และที่ปรึกษาชมรมผู้ประกอบการรถโดยสาร หมวด 4 เอกชน กรุงเทพฯ (รถสองแถว) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดังนี้
ทุกคนในประเทศไทย ไม่ว่าท่านจะใช้รถเมล์ในกรุงเทพหรือไม่ ตามกฎหมายขนส่งและกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็ถือว่า ท่านคือผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการที่กรมการขนส่งทางบก นำเส้นทางเดินรถที่ ขสมก.ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งอยู่แล้ว ไปประกาศรับคำขอใหม่ โดยอ้างว่าเป็นการปฏิรูปเส้นทาง และใช้มติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางบังคับให้ ขสมก.ต้องเลิกประกอบการขนส่ง
ซึ่งนี่ไม่ใช่การปฏิรูป หากแต่เป็นการแปรรูป ขสมก.และเส้นทางเดินรถ ไปสู่ความผูกขาดของเอกชน และทำให้ประชาชนที่ใช้รถเมล์ต้องเสียค่าโดยสารที่แพงขึ้น นี่คือการปล้นประชาชนผู้ใช้รถเมล์
บัดนี้ กรมการขนส่งทางบกได้สั่งให้ ขสมก.หยุดการเดินรถในเส้นทางตามภาพนี้ และจะมีติดตามมาอีกหลายสิบเส้นทาง เพื่อให้ผู้ประกอบการรายใหม่ไปเดินรถรับส่งผู้โดยสารในเส้นทางเหล่านั้นแทน ขสมก. และผลกระทบที่จะติดตามมาคือความเดือดร้อนของประชาชนที่จะต้องจ่ายค่ารถสูงขึ้น และเส้นทางเดินรถบางเส้นทางไม่เป็นไปตามเส้นทางเดิม
วันที่ 14 ตุลาคม 2565 นี้ ถ้าใครต้องการร่วมกับผมในการกอบกู้วิกฤตการณ์ปล้นประชาชนในครั้งนี้ เวลา 10.00 น. พบกันที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อร่วมกันเป็นผู้ฟ้องคดีกับผมในคดีหมายเลขดำที่ 1617/2565 ล้มกระดานการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ กับผมได้
ทั้งหมดนี้ ผมใช้เงินส่วนตัวของผมในการฟ้องคดีเพื่อคนไทยที่ต้องใช้รถเมล์ในเมืองหลวงของประเทศไทยเป็นแสนเป็นล้านคน จงอย่าคิดว่า ทำเพื่อยอดไลค์ หรือชื่อเสียง หรือต้องการระดมทุน
ประโยชน์สาธารณะของประชาชนที่ใช้รถเมล์ มักถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งนำไปใช้ในการเป็นข้ออ้างต่างๆ แต่เมื่อประชาชนเรียกร้องประโยชน์สาธารณะนั้นจากท่าน ท่านไม่เคยดูแลและเหลียวแลเลย สำนึกในความเป็นข้าราชการของพวกท่าน หายไปไหนหมด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี