วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ไปนราธิวาสแวะกิน'ไก่ย่างกอและ'สูตรโบราณทานกับข้าวเหนี่ยวใครได้ชิมติดใจทุกราย

ไปนราธิวาสแวะกิน'ไก่ย่างกอและ'สูตรโบราณทานกับข้าวเหนี่ยวใครได้ชิมติดใจทุกราย

วันศุกร์ ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 15.55 น.
Tag : ไก่กอและ ไก่ย่างกอและ ข้าวเหนี่ยว นราธิวาส สูตรโบราณ
  •  

เราจะพาทุกคนไปหาของกินอร่อยๆ กัน วันนี้ รู้สึกอยากกินไก่ย่างกอและ (ฆอและ) กับข้าวเหนียว ได้ยินว่าร้านไก่ย่างหัวสะพาน (กะนะห์เจ้าเก่า) อร่อยมาก จะช้าได้ไงตามมาเลย

ไก่ย่างกอและ (ฆอและ) เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่คนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จะรู้จักกันดี เป็นอาหารของคนมลายูปักษ์ใต้ ที่สามารถกินกับข้าวสวย และข้าวเหนียวนึ่งได้ ไก่กอและ จะมีกรรมวิธีการทำ หมักคล้ายกันกับไก่ย่างทรงเครื่องที่ย่างกินกับข้าวเหนียว แต่ไก่กอและจะมีความแตกต่างคือ เอาไก่ที่ย่างแล้วบนเตาถ่าน แต่ยังไม่สุกมาราดด้วยน้ำแกงกะทิไก่กอและแล้วย่างใหม่ พลิกไปพลิกมา จนน้ำแกงซึมเข้าในเนื้อไก่ จากนั้นก็นำไก่ย่างกอและไปราดน้ำแกงแล้วย่างพลิกไปพลิกมา เราจะได้ไก่กอและที่มีรสชาดของน้ำแกงที่สุกชุ่มฉ่ำเข้าถึงเนื้อในของเนื้อไก่และสุกทั่วอย่างสม่ำเสมอ


ทำไมถึงเรียก "ไก่กอและ" (ฆอและ) บางคนก็ยังงง ก็เหมือนกับ ทำไมเรียก "เรือกอและ" (เรือประมงหาปลา) ของชาวนราธิวาส เอาเป็นว่า "กอและหรือฆอและ" มาจากภาษามลายูปักษ์ใต้ ความหมายว่า กลิ้ง โคลงเคลง ล่องลอย เมื่อเอาเรือลงในน้ำ เรือจะกระทบคลื่น จะโยก โคลงเคลง ล่องลอยบนน้ำ คนสมัยก่อนเลย ตั้งชื่อเรือนี้ว่า "เรือกอและ" คือเรือหาปลา 

ส่วน "ไก่กอและ" คนนราธิวาส สมัยบรรพบุรุษก็เรียกต่อๆ สืบทอดกันมาว่า "กอและ" ความหมายคือ โคลงเคลง กลิ้ง คือเอาไก่ที่ย่าง พลิกไปพลิกมากลิ้งไปกลิ้งมาบนไฟ แล้วราดหรือจุ่มลงน้ำแกงกะทิ ที่ปรุงรสแล้วนำไปย่างไฟ กลิ้งไปกลิ้งมา จนไก่สุก เลยเรียกต่อๆกันมาว่า "ไก่กอและ" (ฆอและ)

แวรอสมาน เจ้าของร้านเล่าว่า เริ่มแรกตนเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ และทำงานด้วยจากนั้นกลับมาได้มีครอบครัว และไม่มีงานทำเห็นเพื่อนที่กรุงเทพฯขายไก่ย่าง แรกขายประมาณ 5 กิโลกรัม หลังจากนั้นพื้นที่ที่ตนอยู่ที่นราธิวาส ไก่ย่างยังไม่มีคนขายมาก ยังไม่ฮิต เริ่มแรกขายตามตลาดนัด เริ่มแรกไก่ 5 กิโลกรัมข้าวเหนียว 2 กิโลครึ่ง หลังจากนั้นก็ขยาย พอดีเศรษฐกิจตอนนั้นยางพาราราคาแพงด้วยสมัยทักษิณ ก็ขายตามตลาดนัดไปถึงอำเภอศรีสาคร บาเจาะ ระแงะ สุไหงปาดี หลังๆ มานี้ก็ปักหลักที่ริมถนนสายเข้าตัวเมืองนรา-ตากใบ ขายประมาณ 12 ปีกว่าแล้ว แต่เศรษฐกิจตอนนี้เพลาๆ ก็พออยู่ได้ 

รายได้ตอนนี้ลดจากเดิม เพราะว่าของก็ขึ้น เพราะใช้ไก่สดทุกวันไม่ได้ใช้ไก่เย็นเอาวันต่อวันเลยขึ้นราคาจาก 10 บาทเป็น 15 บาท สูตรมาจากยายของแฟน สมัยก่อนเป็นแม่ครัว ทำขายตามบ้านทำปลาบ้างไก่บ้างนิดๆหน่อยๆ แฟนอยู่กับยายเลยได้สูตรนี้มา จากนั้นแฟนก็เลยทำเองขายเองเป็นต้นมา สูตรนี้เป็นสูตรโบราณใช้น้ำกะทิล้วนๆ ไม่ได้ใช้แป้งผสมเลย... ฝากอุดหนุนด้วยนะครับ

พิกัดร้าน สายเข้าตัวเมืองนรา จากอำเภอตากใบหรือว่าอำเภอสุไหง-โกลกตรงข้าวมัสยิดนูรอนีบ้านค่าย ตำบลกะลุวอ เมืองนราธิวาส สังเกตถ้ามีควันลอยเต็มถนนนั้นละร้านไก่ย่างกะนะห์ (เจ้าเก่า) โทร.061-1094014

ไก่ย่างมี 2 ชนิด คือ ไก่ย่างขมิ้นสีเหลือง ตีนไก่ย่าง หนังไก่ย่าง ขาย 10 บาท เนื้อติดกระดูก ราคา 15 บาท และไก่กอและ ราคา 20 บาททุกไม้ (ปีก เครื่องในไก่ หน้าอก) ข้าวเหนียว ถุงละ 5 บาท 

วัตถุดิบและส่วนผสมที่ต้องเตรียม 1.ไก่สด 2.หัวกะทิ 3.พริกแห้งดอกใหญ่ 4.หัวหอม 5.ขิง 6.น้ำตาลทรายขาว 7.น้ำมะขามเปียก 8.เกลือ

ส่วนวิธีทำง่ายมาก 

1.นำไก่มาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ ตามใจชอบ คลุกเกลือนิดหน่อย เพื่อให้ไก่คงความสดและได้รสชาติเค็มเข้าในเนื้อไก่ แล้วเสียบไม้ พักไว้ 

2.นำพริกแห้งดอกใหญ่ หัวหอม ขิง มาโขกหรือปั่นรวมกันจนได้เป็นเครื่องแกง 

3.เอาหัวกะทิสดเทลงในหม้อแล้วนำเครื่องแกงที่โขกลงไปพร้อมกัน การคนกะทิกับเครื่องแกงจะต้องคนตามเข็มนาฬิกา และต้องคนตลอดเวลาห้ามหยุดจนกว่ากะทิจะเดือด ถ้าไม่อย่างนั้น จะทำให้กะทิจับตัวเป็นก้อน ระดับไฟ จะต้องเป็นไฟกลางเท่านั้นเติมรสชาดความแปรี้ยวนิดนึงด้วยน้ำมะขามเปียก ปรุงรสเค็มด้วยเกลือ และหวานด้วยน้ำตาลทราย เคี้ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนข้นและสุก แล้วยกทันที คำเตือน อย่าใช้ไฟแรง เพราะจะทำให้กะทิแกงแตกมัน จะทานไม่อร่อย 

4.นำไก่สดที่เสียบไม้มาย่างบนเตาถ่าน พลิกไปพลิกมาให้สุกประมาณระดับหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไก่เริ่มเหลืองและแห้ง เราก็นำไก่ไปจุ่มหรือราดบนไก่เสร็จ ก็นำไปย่างต่อ พลิกไปพลิกมา กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตาไฟ จนน้ำแกงสุกเข้าซึมในเนื้อไก่ ยกขึ้นใส่จาน เวลาทาน เราก็จะราดน้ำแกงกะทิไก่กอและ มาราดสดๆอีกครั้ง ไก่จะได้ฉ่ำๆ หอมแกงกะทิ เนื้อไก่ก็จะนุ่มทานง่ายขึ้นอีก - 003

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ข้าวหลาม\'สูตรโบราณเผาด้วยเตาถ่านทำเงิน 2,000-3,000 บาทต่อวัน 'ข้าวหลาม'สูตรโบราณเผาด้วยเตาถ่านทำเงิน 2,000-3,000 บาทต่อวัน
  • \'ก๋วยเตี๋ยวไก่อ้วนน้ำแดง\'เจ้าเก่าเจ้าเดิมสูตรโบราณหน้าประตูเมืองสงขลาลูกค้ายังแน่น 'ก๋วยเตี๋ยวไก่อ้วนน้ำแดง'เจ้าเก่าเจ้าเดิมสูตรโบราณหน้าประตูเมืองสงขลาลูกค้ายังแน่น
  • เปิดตำรับ \'ขนมมด\' สูตรโบราณ หนึ่งเดียวในเมืองสงขลาที่เหลืออยู่ อร่อยขายดี เปิดตำรับ 'ขนมมด' สูตรโบราณ หนึ่งเดียวในเมืองสงขลาที่เหลืออยู่ อร่อยขายดี
  • ไปชิมซาลาเปาสูตรโบราณลูกใหญ่ 40 บาทร้านเก่าแก่เมืองสงขลาลูกเดียวอิ่มได้ทั้งวัน ไปชิมซาลาเปาสูตรโบราณลูกใหญ่ 40 บาทร้านเก่าแก่เมืองสงขลาลูกเดียวอิ่มได้ทั้งวัน
  • หนึ่งเดียวในสงขลา \'ขนมการอจี้\' สูตรโบราณสืบทอดรุ่นที่ 2 จากชาวจีนโพ้นทะเล หนึ่งเดียวในสงขลา 'ขนมการอจี้' สูตรโบราณสืบทอดรุ่นที่ 2 จากชาวจีนโพ้นทะเล
  • ขนมลูกโดนน้ำตาลโตนดสูตรโบราณดั้งเดิมที่ยังเหลืออยู่หนึ่งเดียวในเมืองสงขลา ขนมลูกโดนน้ำตาลโตนดสูตรโบราณดั้งเดิมที่ยังเหลืออยู่หนึ่งเดียวในเมืองสงขลา
  •  

Breaking News

‘จิรายุ’ฉะแกนนำม็อบสาวรีย์ฯเรียกหารถถัง ฉุดปท.กลับไปด้อยพัฒนา

จุดยืนคุณคืออะไร!? 'ก่อแก้ว'เหน็บ'จตุพร'ปี49 ชวนต้านรัฐประหาร ปี68 ยืนร่วมเวที'สนธิ'

คาราวานบิ๊กไบค์เที่ยวกระบี่ช่วงโลว์ซีซั่นคึกคัก

เปิดด่านฉุกเฉิน! ช่วยหญิงเขมรป่วยมะเร็ง ส่งรพ.กรุงเทพจันทบุรี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved