ส่องเส้นทาง‘จ้าวเหว่ย’ เมื่อถูกยกเป็น‘กงสีใหญ่’ คุม‘5 มาเฟียจีน’หากินในไทย
2 พฤศจิกายน 2565 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ “5 กลุ่มมาเฟียจีนในไทย” (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ชูวิทย์'ลากไส้' 5 กลุ่มมาเฟียจีน'หากินในไทย ทุกกลุ่มเชื่อม'กงสีใหญ่'ข้ามชาติ) มีเนื้อหาดังนี้...
“การโยงมาเฟียจีนในเมืองไทยว่ามี 5 กลุ่ม ทั้งหมดขึ้นต่อ mr.a และ mr.a ขึ้นต่อ mr.b และ mr.b ขึ้นต่อ “นายเจ้าเหว่ย” โดยระบุว่านายเจ้าเหว่ยไม่เคยเข้ามาที่ประเทศไทย
แค่นี้ก็ส่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องมาเฟียธรรมดาเสียแล้ว!!!!
และอาจเกี่ยวโยงกับการเมืองระหว่างประเทศ ที่กำลังรณรงค์กันทั่วโลกว่า “จีนคือภัยคุกคามที่จะต้องถูกจัดการหรือทำลาย”!!!!
เพื่อต้องการต่อต้านจีนและทำลายภาพลักษณ์ของคนจีน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยว หรือลงทุน หรือค้าขาย หรือนักท่องเที่ยว ซึ่งกำลังโผล่ขึ้นเป็นดอกเห็ดในขณะนี้ ทั้งๆที่ 3 ปีนับแต่โคบ้าระบาดก็มีการปิดประเทศตลอดมา!!!!
ต้องเข้าใจก่อนว่า “นายเจ้าเหว่ย” เป็นใคร?
ก็จะเข้าใจโครงสร้างของเรื่องว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น!!!!
1.มีข้อตกลงจัดตั้งเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำระหว่างจีน-ลาว ฝั่งตรงกันข้ามแม่น้ำโขงกับอำเภอเชียงแสน เชียงของ ของจังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่กว้างขวางกว่า 100 ตารางกิโลเมตร มีการลงทุนสร้างเมืองเป็นวงเงินกว่าแสนล้านบาท มีสภาพ ที่กล่าวขวัญกันว่า เหมือนกับการยกฮ่องกงมาอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเชียงราย
2.เขตเศรษฐกิจดังกล่าวมีคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจทำนองเดียวกับ eec ของประเทศไทยมีประธานที่เป็นตัวแทนจากจีนและลาว
ฝั่งลาวได้แต่งตั้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศเฉลิมชัยเป็นประธานผู้แทนฝ่ายประเทศลาว ทางจีนมีนายเจ้าเหว่ยเป็นประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมฝ่ายจีน และทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำด้วยดีมานานแล้ว
3.มีการตั้งกองกำลังผสมของเขตเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลลาว ส่วนน้อยมาจากจีนและท้องถิ่น ทำหน้าที่ปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติด มีผลงานโด่งดังมาก
4.นายเจ้าเหว่ยถูกสหรัฐคว่ำบาตร แต่ไม่ได้มีการดำเนินคดีหรือออกหมายจับใดๆ
ในอดีตทราบว่านายเจ้าเหว่ยเคยเดินทางไปประเทศลาวผ่านประเทศไทย และได้หยุดการเดินทางผ่านประเทศไทย เมื่อมีการเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมระหว่างจีนลาวแล้ว ก็ไม่ได้เดินทางผ่านประเทศไทย
5.นายเจ้าเหว่ย เป็นผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานบางหน่วยในประเทศจีน ไม่ใช่มาเฟีย หรือคนไร้ถิ่นฐานดังที่ถูกกล่าวหา และเขาก็ไม่มีธุรกิจใดๆในประเทศไทย การเอานายเอนายบีไปเชื่อมโยงกับนายเจ้าเหว่ย จึงมีลักษณะชอบกล
ยิ่งขยายลามไปถึงสถานทูตจีนที่จะต้องปรึกษาหารือเพื่อป้องกันคนจีนมาเมืองไทย ก็บานไปกันใหญ่แล้ว
ในกรณีคนจีนมาทำอะไรที่ประเทศไทย ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของประเทศไทยที่ต้องดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย สถานทูตจีนไม่มีอำนาจปฏิบัติการในเขตอธิปไตยของประเทศไทย และที่เรียกกันว่าคนจีนนั้นมีการจำแนกแยกแยะไหมว่าเป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าใดบ้างเป็นคนไต้หวันหรืออดีตหน่วยงานของไต้หวันในประเทศไทยบ้างหรือไม่
การเชื่อมโยงดังกล่าวจึงอาจมุ่งเป้าไปที่ความสัมพันธ์ไทยจีนก็ได้ ลองนึกดูถ้าจีนเกลียดไทย ไทยเกลียดจีน อะไรจะเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา
6.เพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยวทั่วโลกและชาวโลกเดินทางไปยังเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ ที่เขาคาดหมายแล้วว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทย ดังนั้นจึงได้ตกลงกับลาวสร้างท่าอากาศยานขนาดใหญ่ขึ้นที่เมืองบ่อแก้วของลาว ติดกับเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ เมื่อเปิดสนามบินนี้เต็มตัวแล้วนักท่องเที่ยวทั่วโลกก็ไม่จำเป็นจะต้องบินมาลงที่ท่าอากาศยานเชียงรายหรือเชียงใหม่เพื่อเดินทางต่อไปยังเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำอีกแล้ว
ตอนนั้นก็จะรู้สึก!!!!
พี่น้องประชาชนภาคเหนือจะต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวขนาดไหนก็นึกดูกันเอาเอง!!!
การเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงเส้นทางสายไหมก็สะดุดการขนส่งสินค้าและนักท่องเที่ยวทางแม่น้ำโขงก็สะดุด ถ้าคนที่ไปมาสู่สะดุดอีกพวกหนึ่งแล้วจะเหลืออะไร จะมิใช่เท่ากับการปิดประเทศหรอกหรือ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี