วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ผ่านพ้นไปแล้วกับการประชุมวิชาการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ปี 2565 “สร้างคน สร้างโอกาส สร้างงานด้วยการศึกษาสายอาชีพ” จัดโดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เมื่อวันที่ 16-17 ธ.ค. 2565 โดยมี
การมอบรางวัล “สร้างคน สร้างโอกาส สร้างงาน (TVET DNA)” และรวมพลังภาคีเครือข่ายให้กับครูและผู้บริหารทางการศึกษา
เพื่อเชิดชูครูผู้ให้โอกาส สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษา มีครูได้รับรางวัลจำนวน 492 ท่านทั่วประเทศ โดยรางวัล “ครูและผู้บริหารในดวงใจ” มาจากผลโหวต ของนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงทั่วประเทศ อาทิ นายนิตย์นิรันดร์ พิลาไชย ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ ซึ่งกล่าวว่า อำนาจเจริญ เป็นจังหวัดที่ติด 1 ใน 6 ที่มีค่าเฉลี่ยประชากรยากจนที่สุดของประเทศ โอกาสการเข้าถึงการศึกษาของเด็กด้อยโอกาสก็ยิ่งลดน้อยลงไปมาก
“จากการลงพื้นที่ไปแนะแนว เราพบว่า นักเรียนและผู้ปกครองมีความต้องการเรียนอาชีวะสูงมากแต่ไม่มีเงิน และอีกส่วนหนึ่งครอบครัวอยากให้ไปทำงาน ทำให้เขาหมดโอกาสทางการศึกษาตั้งแต่รอบแรก แต่ก็มีผู้ปกครองอีกส่วนที่เก็บเงินเพื่อส่งลูกเรียนอาชีวะในเมือง ที่มีระยะทางห่างจากบ้าน 80 กิโลเมตร และต้องนำเงินไปจ่ายค่าหอพัก ค่าชุดนักเรียน และค่ากินอยู่ เมื่อเข้ามาในเมืองสักระยะเงินก็หมด” นายนิตย์นิรันดร์ ระบุ
นายนิตย์นิรันดร์ เล่าต่อไปว่า ครูต้องไปหาทุน กยศ. หรือทุนให้เปล่าอื่นๆ เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสศึกษาต่อ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่สามารถเข้าถึงทุนกยศ. เพราะบ้านมีหนี้สินจำนวนมาก และไม่มีคนรับรอง เด็กเหลานี้ก็จะทยอยออกไปจากการศึกษาทีละคนสองคน ซึ่งเป็นรอยแผลที่เจ็บปวดของครู ที่มองเห็นต้องเดินออกไปจากโรงเรียนจนกระทั่ง ปี 2562 ที่กสศ.มีทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงสำหรับเด็กยากจนแต่ขาดโอกาส วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญไม่รอช้าที่จะเข้าร่วมโครงการ และเข้ามาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งเด็กเหล่านี้เป็นเด็กที่เปราะบางมาจากครอบครัวที่บางคนถูกทิ้งให้อยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย หรือบางคนถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ดังนั้น เมื่อเขาได้ทุน ในระยะเริ่มต้น เราดูแลให้ความอบอุ่น เป็นพ่อ เป็นแม่ ระยะที่สอง สร้างให้เขาเป็นคนที่มีคุณค่าในสังคม ระยะสาม สอนให้ก้าวข้ามปัญหาในชีวิต ถอดบทเรียนระหว่างเพื่อนต่อเพื่อน ได้เห็นคนที่มีความยากลำบากมากกว่า นอกจากนี้ ยังมีการสร้างกิจกรรมเรื่องจิตอาสา ให้เด็กสร้างจิตสาธารณะ ให้เขาก้าวข้ามบาดแผลที่เขามีอยู่ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่วิชาการ
น.ส.อณุภา คงปราโมทย์ วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก กล่าวว่า วิทยาลัยรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ โดยคัดกรองครอบครัวที่เข้าเกณฑ์ กสศ. ได้นักเรียนร่วมโครงการรุ่นแรก 25 คน โดยเด็กที่ได้รับทุนจะมาเป็นนักเรียนประจำ เราสอนตั้งแต่การใช้ชีวิต ใส่ใจทุกขั้นตอน สอนการเดินทาง การเรียนรู้ที่หลากหลายในการใช้ชีวิตจัดอบรมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
มีคณะกรรมการดูแลสวัสดิภาพ การเยี่ยมบ้าน ติดตามความคืบหน้าในแต่ละเดือนมีปัญหาอะไรบ้าง ในระหว่างเรียนยังหางานพาร์ทไทม์ให้ทำ เพื่อนำเงินทุนไปใช้จ่ายในครอบครัว และสอนให้รู้จักออมก่อนใช้ เพื่อเป็นทุนสำรองในการต่อยอดทำงาน เมื่อเรียนจบหลักสูตร วิทยาลัยหางานให้ทำและเด็กได้ทำงานทุกคน ซึ่งหลังจากร่วมทำงานกับ กสศ. พบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผู้เรียน
“หลายคนทำงานต่อใน กทม. ทุกคนมีเงินออม 50,000-100,000 บาท ส่วนสถานศึกษาเกิดการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเป็นระบบมากขึ้น เกิดแบรนด์สินค้าที่ออกแบบเองโดยนักศึกษา ออกแบบแฟชั่นเครื่องแต่งกาย กระเป๋า เป็นโมเดลที่มีประโยชน์ไม่ใช่เฉพาะเด็กพิเศษ ผลัดเปลี่ยนให้เด็กทั่วไปได้เข้ามาเรียนรู้ด้วย” น.ส.อณุภา กล่าว
รศ.ดร.ศิริพันธุ์ ศิริพันธุ์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า กสศ.ทำให้เราปรับเปลี่ยนความคิด จากเดิมที่เราเป็นคณะพยาบาลศาสตร์ที่ตั้งรับใครๆ ก็อยากมาเรียน เมื่อเราเข้าร่วมทุนผู้ช่วยพยาบาลกับ กสศ. เราต้องออกไปค้นหาเด็ก ทำให้เราได้สัมผัสกับเด็กที่ครอบครัวเปราะบาง เด็กที่มีปัญหาสารพัด ทำให้คณาจารย์ได้เรียนรู้ที่จะดูเด็กเหล่านี้และทำงานเชิงรุกมากขึ้น
“กสศ.ทำให้เรามีเพื่อนเยอะขึ้น มีเครือข่ายทางสังคม เครือข่ายผู้ประกอบการจากเดิม มี 12 แห่ง ตอนนี้มี24 แห่ง เพื่อประสานงานให้เด็กของเรามีงานทำ 100% เช่น รพ.บำรุงราษฎร์ฯ ที่ให้ทุนเด็กและรับเด็กของเราไปทำงาน เรามีเพื่อนต่างประเทศ โดยผ่านกรมการจัดหางานส่งเด็กของเราไปงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น”รศ.ดร.ศิริพันธุ์ กล่าว
เรืออากาศโทสมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กล่าวว่า ก้าวต่อไปของการสร้างโอกาสทางการศึกษาผ่านการจัดการศึกษาสายอาชีพ สอศ.ไม่ใช่ทำงานเพียงลำพังอีกต่อไปเพราะ กสศ. และภาคผู้ประกอบการ พร้อมที่จะจับมือไปพัฒนาคนอาชีวะที่สอดคล้องกำลังคนของประเทศ การดูแลผู้ด้อยโอกาสและเด็กในถิ่นทุรกันดาร ให้มุ่งสู่อาชีวศึกษา และมีงานทำ
“ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ได้ส่งเสริมความช่วยเหลือผู้ต้องการศึกษาต่อ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อประกอบอาชีพมีศักยภาพที่จะดำเนินชีวิตยืนอยู่ด้วยลำแข้งของตนเอง พร้อมดูแลช่วยเหลือครอบครัว รวมถึงสนับสนุนสถานศึกษา มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในภาพรวมซึ่งเป็นไปตามจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาร่วมกันผลิตกำลังสมรรถภาพสูง เพื่อพัฒนาประเทศ สามารถทำได้จริง” รองเลขาธิการ สอศ. กล่าว
เรืออากาศโทสมพร กล่าวต่อไปว่า ทาง กสศ. ตอกย้ำความสำเร็จ 5 ด้านที่สำคัญคือ 1.การยกระดับคุณภาพของอาชีวศึกษา 2.ความร่วมมือยกระดับการทำงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ภาคประกอบการ 3.การขยายโอกาสการศึกษาตอบโจทย์การพัฒนาของแต่ละพื้นที่ 4.เปิดทวิภาคีระดับจังหวัด ที่มีคณะกรรมการระดับจังหวัดเสริมสร้างอาชีวะปลอดภัย สังคมออนไลน์ การประพฤติปฏิบัติตน ความรุนแรง การมีจิตอาสา
และ 5.เทคโนโลยีจัดการเรียนรู้ในหลายมิติ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การสื่อสารจูงใจ ยกระดับทวิภาคีคุณภาพสูงให้สอดคล้องเพียงพอ ทั้งนี้ เด็กอาชีวะ เป็นเด็กที่เก่งปฏิบัติ มีความสามารถ มีประสิทธิภาพทำงานได้ทันที เป็นซอฟต์ พาวเวอร์ พลังของประเทศ โดย กสศ. จะมีการจัดการทวิภาคีการศึกษาแนวใหม่เพื่อดูแลนักเรียนโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เพื่อผลิตกำลังคนในเชิงพื้นที่ทุกรูปแบบเพื่อไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า บทเรียนการทำงานตลอด 4 ปี ของ กสศ. และก้าวสู่ปีที่ 5ของทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ของกสศ. ที่สามารถสนับสนุนตัวแบบได้เพียง 1% ต่อรุ่น หรือจำนวน 2,500 ทุนต่อปี และครอบคลุมสถานศึกษา 116 แห่ง ทำอย่างไรให้ตัวแบบที่ กสศ. มีเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ได้รับการต่อยอด จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถเชื่อมโยงสถานศึกษาอาชีวะอีก 600 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญ
“เพราะการทำงานจะประสบความสำเร็จได้ ครูเป็นแรงผลักดันสำคัญเพื่อให้เด็กประสบความสำเร็จยืนได้ด้วยตนเองและดูแลครอบครัว สังคม และประเทศได้ ซึ่งสำหรับบทเรียนที่สำคัญในเวทีประชุมวิชาการฯครั้งนี้ คือ การปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำด้วยการพัฒนาคนให้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ เสริมสร้างความเข้มแข็งช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตในสถานศึกษา ผ่านบทเรียนจากต่างประเทศ
เพื่อมีสุขภาพกาย และใจที่ดี ไม่ให้หลุดออกจากระบบการศึกษา และเสียงสะท้อนจากเยาวชนนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศ ผ่านระบบการศึกษาอย่างยืดหยุ่น โดยจะรวบรวมความเห็นทั้งหมดในครั้งนี้สรุปเป็นข้อเสนอทางนโยบายเพื่อมอบให้ สอศ.ทำงานเรื่องนี้อย่างเข้มข้นต่อไป” ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน กสศ. กล่าว
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี