25 ธ.ค. 65 เฟซบุ๊กแฟนเพจ หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว รายงานข่าวเขย่าวงการสีกาไทย หลังดาราสาวชาวไต้หวัน เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย แล้วมีการโพสต์อ้างว่า ถูกตำรวจไทยขอค้นตัว และรีดไถเงินไปกว่า 2 หมื่นบาท โดยข้อความระบุว่า
"ดาราชาวไต้หวันเที่ยวไทย (อ้างว่า) ถูกตำรวจไทยขอค้นตัว ค้นกระเป๋า รีดไถเงินกว่า20,000 ถึงยอมปล่อยตัว
พอดีมีลูกเพจส่งข่าวมาให้ ขอให้ช่วยแปลข่าวนี้ พอไปเชคหลายเว็บไซต์ข่าวในไต้หวัน คือหลายสื่อได้ลงจริงค่ะ
ดารานักแสดงชาวไต้หวันคนนี้ชื่อว่า 安于晴 อันยู๋ชิง หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Charlene An ซึ่งเธอได้โพสลงอินสตราแกรมจนกลายเป็นข่าวดังในไต้หวันเมื่อช่วงต้นมกราคมที่ผ่านมา
เธอได้โพสว่า “เมื่อช่วงวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนกลับไต้หวัน1 วัน ขณะที่นั่งรถแท็กซี่กับเพื่อนๆกลับโรงแรม ระหว่างทางช่วงราว ตี 1 กว่าๆ กลับถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกให้รถหยุดและขอค้นตัว ค้นกระเป๋า โดยมีการมาจับค้นที่กระเป๋ากางเกง และกระเป๋าสตางค์ มีการถามถึงเรื่องวีซ่า เมื่อเธอยื่นหนังสือเดินทางให้ดูเเละบอกว่าได้ของวีซ่าVOAเข้ามา (VOA คือวีซ่าที่ขอที่สนามบินเมื่อมาถึงไทยเพื่อขออนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) แต่เเล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจค้นเธอกลับบอกว่า ไม่ยอมรับวีซ่าVOA ต้องใช้เป็นวีซ่าจริงๆที่มีตราและพิมพ์เท่านั้น คือยังไงก็จะพยายามหาข้อหายัดใส่เธอให้ได้
คนในกลุ่มเธอได้มีการอัดคลิปเพื่อเป็นหลักฐาน และเพื่อป้องกันตัว แต่ถูกเจ้าหน้าบอกให้ลบคลิป ยื้อไปมาเจรจาตกลงกัน เธอเล่าต่อว่าเขาจะพาไปสถานีตำรวจเธอก็บอกไปก็ไป (แต่ก็ไม่ได้พาเธอไป) เธอยืนจนเมื่อยจนนั่งยองกับพื้นก็บอกให้เธอลุก ทำเสียงดุดันใส่เธอ บังคับให้เธอพูดขอโทษ(ทั้งที่เธอไม่ผิดอะไร) เธอก็ยอมทำทุกอย่าง เธอแทบอ้อนวอนให้ปล่อยเธอไปเพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอกลัวมาก เธอบอกว่าตอนนั้นราวกลับในหนังพวกเมซิกันที่จับค้นค้ายาอะไรแบบนั้นเลย แต่เธอไม่ใช่ เธอนักท่องเที่ยว!! ทำแทบทุกอย่างแต่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอ จนเธองงว่าเธอทำผิดอะไร
เธออ้อนวอนเจรจาอยู่นาน แทบจะกราบ เธอบอกพยายามพูดภาษาไทยนิดๆพูดว่าขอโทษ ขอร้อง เเต่ไม่เป็นผล เธอทำทุกอย่าง เหลือเพียงแต่คุกเข่าไหว้แค่นั้น สุดท้ายยื้ออยู่ราว2ชั่วโมง และได้พาเธอไปที่ลับตาคน โดยมีการหลบกล้องcctv หน้าสถานทูตจีน (จากที่เธอบอกต่อสื่อ) เเล้วบอกว่า “ทั้งหมดในรถต้องจ่ายมา 27,000 บาท ถึงจะยอมปล่อย!!” ทางดาราสาวบอกว่า คือง่ายๆจะเอาเงินนั่นแหละเธอเลยถึงบางอ้อ
สุดท้ายพอเธอยอมจ่าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกเเท็กซี่ให้พวกเธอกลับโรงแรม เธอยังเล่าต่อว่า ข้างๆเธอยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เป็นผู้หญิง5 คน โดนอย่างเธอ ไม่แน่ใจว่า กลุ่มที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ (เธอเรียกพวกนี้ว่า 黑警 hēijǐng เฮยจิ่ง หมายถึง ตำรวจเลว ) คือจ้องจะจับแต่นักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวเอเชียหรือไม่?!
เธอยังกล่าวต่อว่า “ ไม่คิดเลยว่า ไปเที่ยวปีใหม่ที่ไทยหวังเจอประสบการณ์ดีๆ แต่กลับกลายเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายและน่ากลัวที่สุดในชีวิต และฉันจะไม่ไปเหยียบเมืองไทยอีก ฉันอยากเตือนคนไต้หวันว่า จะไปไทยให้ระวัง อย่าพกเงินสดติดตัวในกระเป๋าเยอะ เพราะโดนสุ่มค้นตัวมา หาเรื่องยัดข้อหา พวกนั้นจับดูกระเป๋าเงินก่อน ให้ระวังดีๆ (ที่แอดฟังแล้วเจ็บจี๊ดคือ>> ดาราสาวให้สัมภาษณ์กับสื่อไต้หวันลงท้ายว่า…”เพราะพวกเขาขาดรายได้จากการท่องเที่ยวมานานช่วงโควิด พอเปิดประเทศทีกลายเป็นมีแต่ปัญหาแบบนี้(รีดไถ)”
สื่อได้มีการสัมภาษณ์ไกด์ท้องถิ่นในไทย ได้รับคำตอบว่า “นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเอง ดวงไม่ดีก็อาจเจออะไรแบบนี้ มาขอค้นตัว ค้นกระเป๋า อ้างนั่นนี่ จริงๆถ้าไม่อยากมีปัญหา ให้รีบยัดเงินก่อนไปเลย อารมณ์ค่าผ่านทาง (過路費)” ก็จบเร็ว…
เธอโพสลงIG ว่า 再見 爛曼谷! แปลได้ว่า ลาก่อน กรุงเทพห่วยๆ!!
เรียนจีนจากข่าว
警察 jǐngchá จิ่งฉา =ตำรวจ
黑警 hēijǐng เฮยจิ่ง = ตำรวจเลว
超黑 chāohēi เชาเฮย = โครตดำ (ในบริบทข่าวนี้จะหมายถึง โครตสกปรก คอรัปชั่น)
泰國 [????????] tàiguó ไท่กั๋ว = ประเทศไทย
勒索 lèsuǒ เล่อสั่ว =แบลกเมล์".-008
ที่มา : คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/KpzgP9q4JIE , https://youtu.be/EV2oMCD7sXI ,https://www.mnews.tw/story/amp/20230108sot18009
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี