“อีหล่า มาร์เก็ต” (ERA Market) จัดว่าเป็นซูปเปอร์มาร์เก็ตที่จัดจ้านในบ้านหนองใส ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ด้วยดีไซน์การตกแต่งร้าน ที่เฉพาะค่าออกแบบดีไซน์ก็เหยียบหลักล้านบาท เพราะในพื้นที่ซูปเปอร์มาร์เก็ตยังมีบรรยากาศร้านกาแฟสด และ การเน้นไปที่จุดโชว์สินค้า หรือ ดิสเพลย์ของสินค้าที่จะทำให้สินค้าโดดเด่นสะดุดตา 

รวมทั้งในพื้นที่ซูปเปอร์มาร์เก็ตยังเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เปิดโอกาสให้สินค้าเกษตรชุมชนมีพื้นที่จำหน่ายสินค้าในบรรยากาศกันเองแบบคนรู้จักกันมานาน ภายใต้ความหมายที่ซ่อนอยู่ผ่านภาษาอิสานท้องถิ่นว่า “อีหล่า” ซึ่งแปลว่า เด็กน้อย หรือ น้องสาวคนเล็ก โดยเราจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับเจ้าของ “อีหล่า มาร์เก็ต” ที่มีอายุน้อย แต่กล้าลงทุน กล้าทำ และ กล้าเดินหน้าต่อในธุรกิจซูปเปอร์สโตร์ท้องถิ่น 

นายรักอิสระ มุกดาม่วง หรือ “เจี้ยน” บัณฑิตหนุ่มจากมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ดีกรีความรู้จากคณะมนุษยศาสตร์ ภาษาอังกฤษ (Business English) ซึ่งเริ่มต้นทำ “อีหล่า มาร์เก็ต (ERA Market) ด้วยวัยเพียง 25 ปี เท่านั้น วันนี้เขาอายุ 30 ปี จึงเท่ากับปลุกปั้นร้านค้าซูปเปอร์สโตร์ท้องถิ่นภายใต้แบรนด์ “อีหล่า มาร์เก็ต” มาถึง 5 ปี 

นายรักอิสระเล่าให้ฟังว่า อาชีพหลังจากจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ได้เข้าไปทำงานให้เป็นพนักงานประจำให้กับเว็บไซต์สื่อชื่อดังคือ “เดอะ คลาวนด์” (The Cloud) ด้วยความชอบส่วนตัวด้านการถ่ายภาพ ต่อมาบิดาซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น และ มารดา ซึ่งเป็นพยาบาลอยู่หน่วยควบคุมโรค กลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกัน กองงานสาธารณสุข เทศบาลนครอุดรธานี ได้คุยกันว่าจะให้เขากลับบ้านมาทำร้านซูปเปอร์มาร์เก็ตที่บ้านหนองใส ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งจังหวะในเวลานั้นเขากำลังสนุกกับชีวิตช่างภาพในกรุงเทพมหานคร แต่มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาทำตามการตัดสินใจของพ่อแม่ เมื่อวันหนึ่งนายรักอิสระตัดสินใจอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดป่านาคำน้อย จังหวัดอุดรธานี และได้รับแรงบันดาลใจโดยพ่อแม่ครูอาจารย์ในจังหวัดอุดรธานี ที่ทำให้เข้าใจคำว่า "กตัญญู" จึงได้กลับมาปลุกปั้น "อีหล่า มาร์เก็ต" อย่างเต็มตัว 

"อีหล่า มาร์เก็ต เหมือนเด็กๆที่มีปฏิสัมพันธ์กับชุมชน กับคนในหมู่บ้าน และ ผู้ที่มาซื้อสินค้าในร้าน เพราะฉะนั้นจุดเด่นของอีหล่า มาร์เก็ต คือ การทักทาย ถามสารทุกข์สุขดิบระหว่างที่ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า เพราะส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่รู้จักกัน อีหล่า มาร์เก็ต ให้ความเป็นห่วง เป็นใย กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อ และ ปัจจุบันทางร้านสั่งผักสดจากเกษตรกรในชุมชนแบบผูกขาดหลายราย โดยเฉพาะผักที่มีทุกฤดูกาล เช่น คะน้า, กระเพรา, โหระพา และ ผักกาด ส่วนมะนาวจะสั่งซื้อแบบผูกขาดจากเกษตรกร เฉพาะบางฤดูกาล" นายรักอิสระเล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง 

นายรักอิสระเล่าว่า วันนี้เขาภูมิใจในอิหล่า มาร์เก็ต เพราะสามารถทำให้เกษตรกรมีพื้นที่ขายสินค้า โดยมาต้องมานั่งขายเอง และ มีรายได้ประจำทุกเดือนจากการส่งสินค้าเกษตรให้อิหล่า มาร์เก็ต ซึ่งรูปแบบซูปเปอร์มาร์เก็ตแบบใหม่ของอีหล่า มาร์เก็ต ทำให้มีผู้ทำร้านค้าสะดวกซื้อในภาคอิสาน อย่างเช่นจังหวัดยโสธรเข้ามาศึกษาเรียนรู้วิธีการทำร้านสะดวกซื้อรูปแบบใหม่ของอิหล่า มาร์เก็ต ซึ่งวันนี้กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเดินซื้อสินค้าในอิหล่า มาร์เก็ต คือ กลุ่มชาวบ้านในท้องถิ่น, กลุ่มผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านจัดสรรใกล้เคียง และ กลุ่มพนักงานประจำที่มีเงินเดือนแน่นอนในการจับจ่ายใช้สอยในแต่ละวัน ส่วนหากใครที่ต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์จะต้องเดินทางเข้าเมือง เพราะกลุ่มลูกค้าอีหล่า มาร์เก็ต เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อปานกลาง

ปัจจุบัน “อีหล่า มาร์เก็ต” แบ่งเป็น  3 โซนหลัก ได้แก่ 1.พื้นที่โซนขายสินค้าทุกอย่างที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทั้งของสดและของแห้ง รวมทั้งสินค้าจากมือเกษตรกรโดยตรง 2.ร้านกาแฟ ภายใต้แบรนด์ “TEMP coffee-gallery-studio” และ 3.สตูดิโอถ่ายภาพ  

นายรักอิสระทิ้งท้ายว่า หากในอนาคตมีกลุ่มผู้ลงทุนต้องการจะซื้อ “อีหล่า มาร์เก็ต” แบบแบรนด์โออิชิเขาก็ยินดีขาย เพราะมองว่า การทำตลาดแบรนด์ซูปเปอร์มาร์เก็ตแบบ “อีหล่า มาร์เก็ต” ยังสามารถเริ่มต้นปลุกปั้นและทำได้อีก โดยที่เขาไม่ได้ยึดติดในแบรนด์ว่า จะต้องเป็น”อีหล่า มาร์เก็ต” เท่านั้น เรียกว่า นายอิสระ มุกดาม่วง มีแนวคิดที่มีต้นแบบมาจากนายตัน ภาสกรนที ที่เคยดำเนินการขายแบรนด์โออิชิ โดยไม่ยึดติดในธุรกิจมาแล้วนั่นเอง 

สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทร. 083-081-2611
ขอบคุณภาพถ่ายโดย FB: Rukitsara Mukdamuang