วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปแนวหน้า : มุมมองพรรคการเมือง  สวัสดิการ‘ลูกจ้างงานบ้าน’

สกู๊ปแนวหน้า : มุมมองพรรคการเมือง สวัสดิการ‘ลูกจ้างงานบ้าน’

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : สกู๊ปแนวหน้า
  •  

บรรยากาศการเมืองไทยช่วงนี้ต้องบอกว่าคึกคัก “นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งใหญ่” หลังสภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 23 มี.ค. 2566 (รวมถึงอาจมีการยุบสภาก่อนหน้านั้น)ช่วงนี้ก็จะเห็นนักการเมืองพบปะประชาชนทั้งในระดับพื้นที่และการรับฟังเสียงสะท้อนจากคนกลุ่มต่างๆ ดังที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ (Homenet Thailand) เวทีสาธารณะ “นโยบายขายประกันสังคม มาตรา 33 ให้ครอบคลุมลูกจ้างทำงานบ้าน” เรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองผลักดัน “ลูกจ้างทำงานบ้าน” (หรือที่คนไทยคุ้นเคยกับคำเรียก “แจ๋ว”, “แม่บ้าน”, “คนรับใช้”) เข้าสู่ระบบประกันสังคม ม.33 ซึ่งก็มี 5 พรรคการเมืองส่งตัวแทนร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า คือเรื่องของ “เศรษฐกิจกิ๊ก (Gig Economy)” มาจาก
คำว่า “กิ๊กกะไบต์ (Gigabyte)” หมายถึงเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการทำงานผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น คนขี่มอเตอร์ไซค์รับ-ส่งอาหารที่รับงานผ่านแอปพลิเคชั่น ที่ผ่านมามีการเรียกร้องกันจนบริษัทแพลตฟอร์มเริ่มปรับตัว อาทิ มีการทำประกัน มีการให้กู้เงิน แต่ไม่ต้องการไปไล่บี้ด้วยการใช้กฎหมายบังคับ เพราะจะทำให้ความเป็นอาชีพอิสระ (Freelance) หายไป


ขณะที่ลูกจ้างทำงานบ้าน ที่พรรคเองก็มีการพูดคุยกัน ตนเสนอให้เป็น “ประกันสังคมมาตรา 40+” ซึ่งเป็นไปได้มากกว่าการผลักดันเข้ามาตรา 33 ที่จะต้องสู้กับคนอีกนับล้านครัวเรือน เพราะหากครัวเรือนนายจ้างแจ้งไม่ตรงก็จะมีโทษจำคุกและปรับ โดย ม.40+ จะมีสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างทำงานบ้านควรได้รับ เช่น คลอดบุตร บำนาญ ทุพพลภาพ ฯลฯ อย่างที่ ม.33 ได้รับ โดยให้ลูกจ้างทำงานบ้านลงทะเบียนผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ระบุชื่อนายจ้าง จากนั้นนายจ้างยืนยันว่าได้จ้างลูกจ้างทำงานบ้านคนดังกล่าวจริง ซึ่งปกตินายจ้างก็สมัครใจจะเปิดเผยอยู่แล้ว

“ผมนำเสนอว่าเป็นมาตรา 40+ แล้วอะไรที่มันขาดหายไปจาก ม.33 ใส่เข้าไปให้หมด แล้วนายจ้างเป็นผู้รับรองด้วย ถ้าท่านปรับแบบนี้มันเกิดอาการที่เรียกว่า Quick Win (สำเร็จได้เร็ว) คือชัยชนะอันสั้นในสิ่งที่เราจะได้ ถ้าเราสู้ไป ม.33แล้วก็บังคับ สิ่งที่เราต้องชนคือนายจ้างมหาศาลอยู่ในบ้าน อย่าลืมนะครับสังคมไทยเราเข้าสู่สังคมสูงวัยตั้งแต่ปี 2564 คนแก่ต้องจ้างแม่บ้านอยู่ที่บ้านดูแล ท่านจะให้เขามีภาระที่ต้องไปแจ้ง แล้วถ้าไม่แจ้งคือเขาติดคุก อายุก็ไม่พอติดแล้ว ผมไม่อยากบังคับเพราะถ้าบังคับผมชนตอ แต่ผมจะเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกัน” อรรถวิชช์ กล่าว

รฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค กล่าวว่า สมัยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ในยุคที่ยังเป็นกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ช่วงปี 2544 สามารถผลักดันให้นายจ้างที่มีลูกจ้าง 1-9 คน เข้าระบบประกันสังคมได้สำเร็จ ในเวลานั้นก็มีเสียงคัดค้านจากรัฐมนตรีว่าการ แต่ด้วยการยืนหยัดจึงผลักดันให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบจนนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย ดังนั้นลูกจ้างทำงานบ้านก็เช่นกัน การผลักดันเข้า ม.33 ทำได้แน่นอน ทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดนโยบาย แล้วข้าราชการในส่วนของประกันสังคมจะดำเนินการต่อเอง

ทั้งนี้ ฝั่งนายจ้างได้ยินแล้วอาจกลัว ซึ่งก็เหมือนกับช่วงที่ผลักดันเรื่องลูกจ้าง 1-9 คนเข้าประกันสังคม ก็มีแรงต้านจากกลุ่มนายจ้างเช่นกัน ด้วยความกังวลว่าจะเป็นภาระ แต่เมื่อทำไปแล้วกลายเป็นการลดภาระให้นายจ้างด้วย เพราะอย่าลืมว่าหากลูกจ้างเจ็บป่วยหรือทุพพลภาพ การเข้าระบบประกันสังคม จะมีเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน แทนที่นายจ้างจะต้องช่วยจ่ายเงินค่ารักษาจำนวนมาก

“ดิฉันขอเมตตานายจ้างทุกท่านแทนลูกจ้างทุกคนด้วย ทั้งคนไทยและต่างด้าว ให้เขาได้มีความมั่นคง มีความปลอดภัย ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทุกฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน มองเขาเป็นคนตัดคำว่าจ้างออก ให้เหลือคำว่าลูก ทำได้ไหมนายจ้างทั้งหลาย?”หัวหน้าพรรคเสมอภาค กล่าว

วันวิภา ไม้สน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ลูกจ้างทำงานบ้าน มีกฎกระทรวง 7 ข้อ รับรองลักษณะการทำงานไม่ต่างจากคนทำงานในโรงงาน เช่น วันหยุด วันลา ฯลฯ เพียงแต่ติดบทบัญญัติในกฤษฎีกา ทำให้ไม่สามารถเข้าประกันสังคม ม.33ได้ ทั้งที่ลูกจ้างทำงานบ้านมีนายจ้างชัดเจน ดังนั้นพรรคก้าวไกลยินดีจะแก้กฎหมายที่มีปัญหานี้

ขณะเดียวกัน “ประเทศไทยมีแรงงานนอกระบบถึงกว่า 20 ล้านคน” เช่น เกษตรกร แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หาบเร่แผงลอย ฯลฯ พรรคก้าวไกลจึงเสนอนโยบาย “ประกันสังคมถ้วนหน้า” ยกระดับสิทธิประโยชน์ของประกันสังคม ม.40 ซึ่งเป็นระบบสำหรับอาชีพอิสระ มีหลักว่า “รัฐสมทบเป็นส่วนใหญ่ และหากใครมีรายได้ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำก็ให้รัฐสมทบทั้งหมด” เพื่อให้มีค่าเดินทางไปโรงพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย หรือค่าชดเชยเมื่อเกิดเหตุที่ทำให้ไม่ได้ทำงาน ซึ่งรวมถึงเมื่อลูกจ้างตั้งครรภ์แล้วต้องลาคลอด

“อย่าลืมว่าแรงงานคนหนึ่งเวลาเขาหยุดลาป่วย ไม่ได้ว่าหยุดแล้วมีค่าชดเชยอย่างเดียว เขาต้องเสียรายได้ของวันนั้นไปเลยทั้งวัน แถมจะเสียค่าเดินทางไปหาหมอด้วย เราก็เลยคิดว่าควรมีนโยบายประกันสังคมถ้วนหน้าที่จะมารองรับตรงนี้แล้วประเทศไทยถ้าเราได้นโยบายตรงนี้ก็จะไม่มีแรงงานนอกระบบอีกต่อไป เพราะทุกคนไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรรมหรือทำอาชีพอะไรต่างๆ ก็จะอยู่ในระบบมากขึ้น” วันวิภา กล่าว

สาวิทย์ แก้วหวาน หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตยไทยกล่าวว่า อนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่ 189เรื่องของงานที่มีคุณค่าสำหรับคนทำงานบ้าน ตนเป็นคนหนึ่งที่ร่วมผลักดัน โดยเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประชุมที่สำนักงานใหญ่ ILO เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ภายในประเทศกลับยังไม่รับรองอนุสัญญาดังกล่าว ดังนั้นเรื่องการผลักดันประกันสังคม พรรคการเมืองสำคัญก็ส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนก็คือแรงงานด้วยกันเอง

ซึ่งจากประสบการณ์ที่ร่วมต่อสู้กับขบวนการแรงงานมาหลายสิบปี “นักการเมืองแรกๆ ก็ออกมาพบปะผู้ใช้แรงงาน แต่เมื่อเข้าสภาไปแล้วอย่าไปคาดหวัง” โดยอีกด้านหนึ่ง ตนก็อยู่กับคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) ที่เพิ่งมียุทธศาสตร์แรงงานกับการต่อสู้ทางการเมือง เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า แม้จะมีตัวแทนเครือข่ายแรงงานเข้าไปอยู่ในพรรคการเมือง แต่ด้วยจำนวนที่น้อยย่อมไม่อาจสู้มติใหญ่ของพรรคได้ จึงทำอะไรไม่ได้เลย ท้ายที่สุดจึงนำมาสู่การตั้งพรรคการเมืองเสียเอง คือพรรคสังคมประชาธิปไตยไทย ซึ่งตนเป็นหัวหน้าพรรครุ่นที่ 3

“นโยบายของพรรคเขียนขึ้นจากปัญหาของขบวนการแรงงาน เรื่องประกันสังคมนั้นพรรคเขียนเรื่องการปฏิรูปประกันสังคม พูดทุกเรื่อง ประกันสังคมถ้วนหน้าทุกคน ทำไมเราต้องแยกแรงงานนอกระบบ-ในระบบ ทั้งๆ ที่เราเป็นคนทำงานด้วยกัน มันไม่มีเส้นแบ่ง มันต้องไม่มีอะไรที่เป็นข้อจำกัดสำหรับสิทธิ อุดมการณ์ของพรรคเขียนไว้ชัด คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมและความเป็นธรรม และต้องมีมาตรการ มาตรฐานคุ้มครองทางสังคมอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือแรงงานข้ามชาติ” สาวิทย์ กล่าว

ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพรรคพยายามรวบรวมเสียงจากแรงงานกลุ่มต่างๆเพื่อมาออกแบบนโยบายร่วมกัน ซึ่งลูกจ้างทำงานบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ความที่เป็นทางแรงงานนอกระบบและแรงงานหญิงนั้น กลายเป็นความเปราะบาง ทั้งการไม่ได้รับสวัสดิการ รวมถึงปัญหาความปลอดภัยในการทำงาน สำหรับพรรคไทยสร้างไทยมีนโยบายที่เรียกว่า “2 แก้-3 สร้าง” โดย 2 แก้ นั้นคือ 1.กฎกระทรวงฉบับที่ 14 ที่เป็นปัญหามานาน กับ 2.ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานอิสระ ซึ่งปัจจุบันติดอยู่ในขั้นกฤษฎีกา โดยพรรคพร้อมร่วมผลักดัน

ส่วน 3 สร้าง ประกอบด้วย 1.สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แม้จะมีภาคเอกชนลงมือทำไปแล้วแต่เข้าใจว่ายังไม่ครอบคลุม จึงเสนอให้เชิญผู้เกี่ยวข้อง
ทุกฝ่าย รวมถึงผู้ให้บริการแพลตฟอร์มมาพูดคุยกันว่าจะผลักดันประกันสังคม ม.33 ได้อย่างไร 2.กองทุนคนตัวเล็ก สำหรับช่วยให้คนที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบปกติ เบื้องต้นคิดว่าจะใช้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน และ 3.บำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน

“วัยเกษียณซึ่งเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ก็อยากให้มีกองทุนบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ทำไม 3,000 บาท? อันนี้คนถามมาเยอะ เพราะว่าเส้นแบ่งความยากจนของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณเดือนละ 2,700 บาท เราก็เลยบอกอยากให้ผู้สูงอายุได้รับเงินมากกว่าเส้นแบ่งความยากจน ก็คือประมาณเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งอันนี้ก็น่าจะสามารถช่วยเหลือแรงงานตรงนี้ (ลูกจ้างทำงานบ้าน) ได้ด้วย” โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าว

SCOOP@NAEWNA.COM

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’ สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย
  • สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’ สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง
  • สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  •  

Breaking News

เซเว่น อีเลฟเว่น ผนึกกำลังรัฐ หนุนเกษตรกรไทย กระจายผลไม้ทั่วประเทศ

รวบลุงเขยหื่น! ย่ำยีหลานสาววัย 13 หลายครั้ง อ้างเด็กสมยอม

อุทาหรณ์สูงวัย! ‘ลุงปีนหลังคา’ เผลอพาดสายไฟแรงสูง-โดนดูดเสียชีวิต

(คลิป) 'เจ๊ปอง' ซัด! 'แพทองธาร' อย่าแถ! 'แพทยสภา' ชี้ชัดเจน 'ทักษิณ' ไม่ได้ป่วยวิกฤติ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved