ผีน้อยเศร้ากลับจากเกาหลี ทำงานส่งเงินให้เมียดูแลลูกไม่เคยขาด เมียลูกรางวัลที่ 1 รับ 12 ล้าน กลับมาหวังใช้ชีวิตด้วยกัน ช็อค! เมียแต่งงานใหม่ไปแล้ว
11 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายนรินทร์ หรือ เอก หาญคำจันทร์ อายุ 47 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ พร้อมน้องสาว เดินทางเข้าพบทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังจากก่อนหน้านี้ ได้เขียนจดหมายมาปรึกษาขอความช่วยเหลือ โดยเขียนระบายความในใจที่สุดจะอัดอั้น มาให้ทางทนายรณณรงค์ทราบ
นายนรินทร์ กล่าวว่า ตนอยู่กินกับภรรยามาประมาณ 12-13 ปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน ต่อมาในปี 2557 ตนพร้อมภรรยาตัดสินใจไปทำงานที่เกาหลีด้วยกัน เนื่องจากต้องการหาเงินเลี้ยงลูกและใช้หนี้ที่มีอยู่ราว 2 ล้านบาท จากการลงทุนซื้อรถเกี่ยวข้าว หลังจากที่เราเดินทางไปทำงานที่เกาหลีได้ 2 ปี ภรรยาท้องลูกคนที่ 3 ตนก็ได้รับข่าวร้ายว่า แม่เสียชีวิต ความลำบากใจก็เกิดขึ้นกับชีวิตตนเพราะภรรยาให้เลือกว่า ตนจะกลับเมืองไทยเพื่อมางานศพแม่แต่จะไม่มีโอกาสกลับไปทำงานที่เกาหลีเพื่อครอบครัวอีก หรือ ทำงานต่อที่เกาหลีเพื่อภรรยาและลูก ตนตัดสินใจเลือกที่จะทำงานต่อที่เกาหลีเพื่อครอบครัวเพื่อคนที่ผมรัก หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อภรรยาตนตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน ตนจึงตัดสินใจให้ภรรยาเดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อคลอดลูกและเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน ส่วนตนยังทำงานที่เกาหลีและส่งเงินมาให้ภรรยาทุกเดือน
หลังจากลูกคนเล็กอายุได้ 2 ขวบกว่าๆ ตนกับภรรยาก็ปรึกษากันว่าจะเก็บเงินซื้อรถสักคัน เพื่อไว้ใช้ในครอบครัว เพราะไม่อยากให้ลำบาก หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เก็บเงินได้ประมาณ 200,000 บาท นำไปดาวน์รถออกมา หลังจากที่ภรรยาตนมีรถ ก็เริ่มมีสังคมมากขึ้น มีเพื่อนฝูงมากขึ้น ไม่มีเวลาให้ลูก จึงทำให้เราเริ่มมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมาก เนื่องจากผมโทรไป ภรรยาไม่ค่อยรับโทรศัพท์ และได้ข่าวว่ามีมือที่สามเข้ามาในครอบครัวของตน เราทะเลาะกันมากขึ้น จนถึงขั้น ภรรยาผมขอเลิก ทำให้ผมเริ่มมั่นใจเรื่องข่าวลือมือที่สามเป็นเป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่าตนกับภรรยาจะมีปัญหากันมากเพียงใด ตนก็ส่งเงินให้ลูกและให้ภรรยาเหมือนเดิม แต่จำนวนจะลดลง เนื่องจากเราเริ่มไม่มั่นใจในตัวเขา ซึ่งทำให้ตนกับภรรยาเริ่มห่างกันมากขึ้น แต่ตนจะโทรหาลูกคนเล็กเกือบทุกวัน เพราะคิดถึงมาก ตั้งแต่เขาเกิดมายังไม่เคยเจอหน้าพ่อเลย จะเห็นหน้าก็เวลาคุยกันผ่านวิดีโอคอล
ต่อมาในปี 2564 ลูกสาวคนโต โทรมาบอกว่า แม่ถูกหวยรางวัลที่ 1 ได้เงินมา 12 ล้าน แต่เขาไม่เคยโทรบอกตนเลย ซึ่งตนก็มีความหวังว่าเขาจะบอกให้กลับเมืองไทยเพราะว่าครอบครัวของเราจะไม่ลำบากอีกต่อไป แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิด เขาไม่เคยติดต่อมาเลย
จนกระทั่ง ทางเกาหลีเขามีการกวาดล้างพวกผีน้อยที่แอบเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมาย ตนถูกส่งกลับมาประเทศไทย ในวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เมื่อมาถึงเมืองไทยก็ได้รับข่าวร้ายที่สุดอีกเรื่องในชีวิต ทางน้องสาวบอกว่า ภรรยาตนเขาแต่งงานใหม่ไปแล้ว เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังทราบข่าวทำให้ตนช็อคไปเลย ความรู้สึกของตนแทบพังทลาย ความคิดของตนที่ทำเพื่อครอบครัวมันสูญเปล่า เวลาที่ทำงานในเกาหลีที่ทุ่มเทเพื่อครอบครัวไม่มีความหมายอะไรเลย ตนเสียใจมากตนกลับมาเมืองไทยไม่มีเงินเก็บเลย ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ เนื่องจากเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากว่า 20 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นลูกสาวทั้งหมด ตนโตอายุ 20 ปี คนกลางอายุ 17 ปีและคนเล็กอายุ 7 ปี
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ถ้าฝ่ายชายเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน แล้วเขาจะส่งเงินให้ภรรยาเขาทำไมทุกเดือน แสดงว่าเขายังอยู่กินกันฉันสามีภรรยาในขณะที่เขาซื้อล๊อตเตอรี่ เพราะฉนั้นมันก็ต้องแบ่งกันคนละครึ่งตามหลักกรรมสิทธิ์ร่วม ส่วนสามีใหม่ที่มาแต่งงานก็น่าจะรู้นะว่าเขายังไม่ได้เลิกกัน ถ้าเขาเลิกกันแล้ว ทางนี้จะส่งเงินให้ทำไม มันเคยมีเหรอคนที่เขาเลิกกันแล้วจะส่งเงินให้อีก เขาส่งให้ไปดูแลในครอบครัว ไม่ได้ส่งให้ดูแลลูกอย่างเดียวด้วย แล้วคุณก็ยังไม่ได้แจ้งเขา เขามีสิทธิ์ที่จะยื่นเอาผิดทางวินัยโทษหนักถึงกับต้องออกจากตำรวจเลยนะ แม้ว่าเขาจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันก็ตาม แต่มันเป็นที่รับรู้กันในหมู่บ้านว่าเขาเป็นผัวเมียกัน ผัวไปทำงานที่เกาหลีเมียเลี้ยงลูกอยู่ที่ชัยภูมิ -009