ผวาวิญญาณเฮี้ยน!วัด-ชาวบ้านไม่กล้าเผาศพ‘ตายทั้งกลม’​ สัปเหร่อผ่าเอาทารกออก

13 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านหนองโสน หมู่ 4 ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ว่า วัดในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียง ไม่กล้าทำพิธีเผาศพหญิงตายทั้งกลมพร้อมทารกในครรภ์ 4 เดือนเศษ เนื่องจากชาวบ้านในหมู่บ้านไม่สบายใจกลัวว่าวิญญาณจะเฮี้ยน เพราะทาง รพ.ไม่ยอมผ่าเอาร่างทารกออกจากท้องแม่ที่เสียชีวิต ซึ่งขัดต่อความเชื่อของชาวบ้านที่มีมาตั้งแต่โบราณ สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะรับศพออกมาจาก รพ.ตั้งแต่เช้า แต่ไม่สามารถทำพิธีทางศาสนาอะไรได้ พยายามติดต่อไปทาง รพ.ให้ช่วยทำการผ่าเอาร่างทารกออก แต่ทาง รพ.ปฏิเสธที่จะทำให้ โดยอ้างว่าทาง รพ.จะผ่าเฉพาะเคสที่ญาติติดใจสาเหตุการตายเท่านั้น 

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 4 ต.อีสานเขต พบว่าทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ร้องขอให้อาจารย์พรรณ และอาจารย์แจ็ค 1,000 ศพ สัปเหร่อจาก อ.เมือง และ อ.ละหานทราย มาช่วยทำพิธีตามความเชื่อและผ่าเอาร่างทารกออกจากท้องของ น.ส.นิภาพร อายุ 22 ปี หญิงที่ตายทั้งกลมพร้อมลูกในท้องวัย 4 เดือนเศษ  เพื่อแยกศพแม่และลูกออกจากกัน ตามความเชื่อและความประสงค์ของทางครอบครัว เพื่อให้สามารถประกอบพิธีทางศาสนาและฌาปนกิจได้เหมือนผู้เสียชีวิตทั่วไป 

สัปเหร่อและทีมงาน ได้ใช้เวลาทำพิธีและผ่าเอาทารกออกจากท้องแม่ประมาณ 1 ชม. พบว่า ทารกเป็นเพศหญิง หลังจากผ่าเสร็จก็อนุญาตให้ทางครอบครัวและญาติ เข้าไปดูหน้าผู้เสียชีวิตทั้งแม่และลูกเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นได้นิมนต์พระที่วัดสุรินทรารมย์ มาสวดทำพิธีที่บ้าน ก่อนจะเคลื่อนศพไปที่วัด เพื่อทำพิธีฌาปนกิจในช่วงเวลา 18.00 น.  โดยทางวัดแนะนำให้แยกเผาศพแม่และลูก โดยศพผู้เป็นแม่ทำพิธีเผาบนเมรุ ส่วนศพลูกเผาบนกองฟอนด้านหลังเมรุ

นายอัศวิน อายุ 33 ปี สามี กล่าวว่า ภรรยาตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนเศษ แต่เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ซึ่งตนไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของภรรยาและลูก แต่คาใจแค่ว่าทำไมทาง รพ.ถึงไม่ยอมผ่าเอาเด็กออกจากท้องภรรยา เพื่อจะได้นำไปทำพิธีทางศาสนาได้ตามปกติ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าทาง รพ.ผ่าให้เรียบร้อยแล้ว เพราะเห็นห่อผ้าขาวออกมาแล้วก็ไม่ได้เปิดดู กระทั่งรับศพกลับมาถึงบ้านจะบรรจุใส่โลงถึงได้รู้ ซึ่งทางครอบครัวก็ไปติดต่อจะนำศพไปเผาที่วัด แต่ทางวัดบอกว่าไม่เผาให้ และชาวบ้านในหมู่บ้านที่รู้ข่าวก็ไม่สบายใจ เพราะกลัวว่าเผาทั้งกลมวิญญาณจะเฮี้ยน ทางครอบครัวจึงได้ติดต่อให้สัปเหร่อมาช่วยทำพิธีและผ่าแยกแม่ลูกออกให้ ทางวัดถึงได้ยอมเผาศพให้ ก็อยากฝากถึงทาง รพ.ว่าเคสแบบนี้ควรจะผ่าเอาเด็กทารกออกให้ ญาติจะได้ไม่เดือดร้อน

ขณะที่นางสุพรรณ อายุ 70 ปี ญาติคนเสียชีวิต และนางชุติกาญจน์ ไกรศร อสม.ประจำหมู่บ้าน   บอกตรงกันว่า ตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณหากเกิดกรณีตายทั้งกลม จะต้องผ่าเอาทารก ออกจากท้องแม่   ก่อนจะทำพิธีฝังหรือเผา เพราะถ้าไม่ผ่าแยกแม่ลูกวิญญาณจะเฮี้ยน ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็เคยมีหญิงในหมู่บ้านตายทั้งกลมแล้วนำไปฝังในป่าช้าโดยไม่ผ่าเอาเด็กออก วิญญาณก็เฮี้ยนตามหลอกหลอนคนไปทั่ว จนทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว ถึงขั้นต้องไปขุดเอาศพที่ฝังในป่าช้าขึ้นมาผ่าเอาเด็กออกแล้วเผา วิญญาณถึงได้เลิกเฮี้ยน 

ด้านนายอนันต์ สืบวงศ์ หรืออาจารย์แจ็ค 1,000 ศพ และนายสุพรรณ  ทองสุข สัปเหร่อที่มาช่วยกันทำพิธีผ่าเอาศพเด็กออกจากท้องแม่ที่เสียชีวิต กล่าวว่า ตามความเชื่อของคนอีสานหากมีหญิงตายทั้งกลมจะต้องผ่าเอาเด็กออกจากท้องแม่ ถึงจะทำพิธีฝังและเผาได้ หากเผาหรือฝังทั้งกลมวิญญาณจะเฮี้ยนมาก ก็เป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ เมื่อได้รับการติดต่อจากครอบครัวให้มาช่วยผ่าเอาทารกออก จึงได้มาช่วย เพราะทาง รพ.ไม่ยอมผ่าออกให้ อยากฝากถึงทาง รพ.ว่าหากเกิดกรณีตายทั้งกลมแบบนี้ ทาง รพ.ควรจะผ่าเอาเด็กออกให้เลย เพื่อที่ญาติจะได้นำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาได้เลย ไม่ต้องมายุ่งยากแบบนี้ เพราะไม่ใช่สัปเหร่อทุกคนที่จะทำให้

-005